เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ที่ จังหวัดร้อยเอ็ด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ วัดท่าสะแบง อำเภอทุ่งเขาหลวง เพื่อเป็นประธานเปิดโครงการ “เสริมพลังวัดพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ท่าสะแบง Model” พร้อมพบปะเครือข่ายอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) สภาเด็กและเยาวชน และผู้ช่วยคนพิการในพื้นที่ อีกทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นให้กับครอบครัวเปราะบาง จำนวน 101 ราย โดยมี พระโสภณปริยัตยาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด พระราชวัชราวิทยาคม (อนุสรณ์ ปภสฺสโร ) เจ้าอาวาสวัดท่าสะแบง นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด เขต 1 รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด และทีม พม.หนึ่งเดียวจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วม
โครงการ "เสริมพลังวัด พัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบาง ท่าสะแบง Model" เป็นโครงการที่มีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมต้นแบบทุนทางสังคมด้านการจัดสวัสดิการสังคม ผ่านกลไกความร่วมมือ วัด - บ้าน - ราชการ ในการพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัดท่าสะแบง โดยมูลนิธิพระราชวัชราวิทยาคม ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางจิตใจของประชาชนในพื้นที่ และการขับเคลื่อนกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาแบบองค์รวม ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และจิตใจ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งในระดับชุมชน ซึ่งชุมชนท่าสะแบงจะเป็นแบบอย่างในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนกลุ่มเปราะบางในระดับท้องถิ่น และสามารถต่อยอดขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
จากนั้น เดินทางไปยังโรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นประธานเปิดโครงการสมัชชา อพม. “พลัง อพม. สู่การเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน” พร้อมมอบบัตรประจำตัวและวุฒิบัตรให้แก่เด็กและเยาวชน จากสภาเด็กและเยาวชน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเครือข่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนทั้งสิ้น 215 คน ที่เข้าร่วมโครงการผู้นำ อพม.รุ่นใหม่ อาสาเพื่อสังคม (New Gen Volunteer Leadership) ซึ่งมีผู้แทนองค์การยูนิเซฟ แห่งประเทศไทย เข้าร่วมด้วย
นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประชากรไทย มีอัตราการเกิดอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับสังคมไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) อย่างรวดเร็ว นับเป็นประเด็นข้อท้าทายสำคัญของสังคมไทยต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่สำคัญต่อกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี ครอบครัว ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้มีรายได้น้อย โดยได้ขับเคลื่อนข้อเสนอเชิงนโยบาย 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร ข้อเสนอที่ 5 สร้างระบบนิเวศ (Eco-system) ที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาความมั่นคงของครอบครัว ด้วยการพัฒนาระบบสวัสดิการเหมาะสมและทั่วถึงโดยรัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเป็นหลักประกันในยามที่เผชิญกับวิกฤต (Social Safety Net) โดยสร้างเครือข่ายทุกภาคส่วนในสังคม รวมถึง สภาเด็กและเยาวชน ในรูปแบบของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนงานในในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง และเชื่อมโยงการทำงานระหว่างรัฐ และกลุ่มเปราะบางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้คือก้าวสำคัญในการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีความรู้ความเข้าใจในทักษะการทำงานอาสาสมัคร ทั้งการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคม การประสานทรัพยากร และการมีส่วนร่วม ตลอดจนเป็นการปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชน “รักบ้านเกิด” และยังมี งานสมัชชา อพม. เป็นเวทีที่เปิดรับฟังความคิดเห็นจาก อพม. และภาคีเครือข่าย ในการขับเคลื่อนและพัฒนางาน อพม. นำไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย รวมทั้งเป็นการยกระดับ อพม. เป็นผู้ช่วยคนพิการ (PA) และเป็นผู้จัดการรายกรณี (CMA) ให้สามารถช่วยเหลือดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนได้
ขอแสดงความยินดี กับน้องๆ ยุว อพม. รุ่นใหม่ ผู้ผ่านการอบรมโครงการ อพม. รุ่นใหม่ อาสาเพื่อสังคม (New Gen Volunteer Leadership) และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้องๆ อพม. รุ่นใหม่ และพี่ๆ อพม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มาเข้าร่วมเวทีสมัชชาในวันนี้ จะช่วยเหลือให้คำปรึกษาแนะนำหรือเป็นพี่เลี้ยงในการทำงานเพื่อสังคมและประเทศชาติ พร้อมทั้งเป็นเครือข่ายสนับสนุนงานด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการสังคม ตลอดจนเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เพื่อร่วมกันพัฒนาสังคมและสร้างความมั่นคงของมนุษย์ในทุกมิติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลัด พม. ถวายประกาศนียบัตรแด่พระภิกษุ ฝึกอบรบเพิ่มทักษะพระธรรมทูต จัดบริการสวัสดิการสังคม พัฒนาสังคมไทยในต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ที่อาคารสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (พิมพ์ ธัมมธรมหาเถระ) วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นายอนุกล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (19 เม.ย. 68)
“วราวุธ” ส่งทีม พม. ช่วยแม่ติดเตียงอยู่ลำพัง รับคุ้มครองชั่วคราว หลัง ลูกสาวเสียชีวิตกระทันหัน แจ้งเลขที่บ้านผิด กู้ชีพไม่ทัน
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า ทางศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวง พม. รายงานว่า ศรส.จังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของหญิงวัย 54 ปี
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบกายอุปกรณ์และขนมขบเคี้ยวช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ในโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเคลื่อนที่
วันที่ 18 เมษายน 2568 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ และภาคีเครือข่ายร่วมกับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ส่งมอบกายอุปกรณ์และขนมขบเคี้ยวให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ภายใต้โครงการ “น้ำพระทัยพระราชทานเคลื่อนที่”
“วราวุธ” บรรยายพิเศษให้ วปอ. รุ่น 67 ฟัง ชูนโยบาย พม. 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร - พันธกิจสำคัญ 9 ด้าน หวังแก้ปัญหา ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(รมว.พม.) บรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยอย่างยั่งยืน“
วราวุธ เผย กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ แจ้งข่าวดีรับปีใหม่ไทย หลัง ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ ปรับเพิ่มค่าตอบแทน ให้ผู้ช่วยคนพิการ แนะ อบรมหลักสูตรพื้นฐาน
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
'วราวุธ' เผย พม. เปิดหน่วยงานทั่วประเทศ เป็นจุดพักรถ-พักคน ช่วงหยุดยาวสงกรานต์ รองรับ พี่น้องประชาชน-กลุ่มเปราะบาง
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย 2568 นี้ มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน มีวันสำคัญคือวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 13 เมษายน และวันแห่งครอบครัว ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายน ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขออวยพรให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขอยู่ด้วยกันกับครอบครัว ญาติพี่น้อง ปู่ย่าตายาย และลูกหลาน เพื่อสร้างสถาบันครอบครัวที่เข้มแข็งให้กับสังคมไทย