ททท. สำนักงานนราธิวาส ชวนนักวิ่งเปิดประสบการณ์ใหม่ ด้วยการพิสูจน์ฝีเท้าท่ามกลางสายหมอก กับกิจกรรมการวิ่ง “เบตง 21 ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 2” ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จากนั้นพากันไปสัมผัสเสน่ห์เบตง เมืองสายหมอกและดอกไม้ ใต้สุดแดนสยาม ที่มีความงดงามของธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ ยลวิถีชุมชนเรียบง่าย เรียนรู้วัฒนธรรมหลากหลาย อิ่มเอมด้วยอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์
นางสาวนวพร ชัวชมเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนราธิวาส รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายนนี้ จังหวัดยะลา พร้อมด้วยหน่วยงานในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และ ททท. กำหนดจัดกิจกรรมการวิ่ง “เบตง 21 ฮาล์ฟ มาราธอน ครั้งที่ 2” หรือ งาน Betong 21 Half Marathon #2 ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจได้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ในเส้นทางวิ่งที่เต็มไปด้วยสายหมอก สวยงามเย็นสบาย
กิจกรรม Betong 21 Half Marathon #2
กิจกรรมการวิ่งเบตง 21 ฮาล์ฟ มาราธอน ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งในการจัดงานครั้งแรก ได้รับความสนใจจากนักวิ่งจำนวนมาก ทั้งนักวิ่งชาวไทยจากพื้นที่ใกล้เคียง และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ รวมถึงนักวิ่งชาวต่างชาติ จากประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ โดยคาดว่าการจัดงานในปีนี้ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน และทางจังหวัดยะลายังมีเป้าหมายที่จะจัดกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่องไปทุกปี
คอนเสิร์ตชั้นนำ สีสันก่อนวันลงสนาม
กิจกรรมภายในงาน นอกจากจะมีกิจกรรมการวิ่งที่ถูกจัดแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะทาง 5 กิโลเมตร, 10 กิโลเมตร และ 21 กิโลเมตร ก่อนวันงาน ยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ Bodyslam และ Wolftone มาร่วมสร้างสีสัน ณ ลานวัฒนธรรมสัมพันธ์เทศบาลเมืองเบตง สำหรับผู้ที่สนใจ ช่วงนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการสมัครที่เปิดรับถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น โดยสามารถลงทะเบียนสมัครออนไลน์ได้ที่
- Thairun : https://race.thai.run/betong21_2
- Go to race : https://www.gotorace.com/th/betong-21-half-marathon-2-th/
- DTE : https://reg.racexasia.com/register/betong-21-half-marathon-2023
หากอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง สามารถสมัครด้วยตนเอง ได้แก่ ห้องอาหารมรกต โรงแรมคาเธ่ย์เบตง : เวลา 08.30-17.00 น., ร้านนานาภัณฑ์ : เวลา 17.00-20.00 น. และร้านไจ่ไจ๋ : เวลา 09.00-15.00 น. ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เมื่อกล่าวถึง “จังหวัดยะลา” หนึ่งในสามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส) ที่ได้ชื่อว่าเป็น อัญมณีทางการท่องเที่ยวของจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่น่าสนใจ และมีความโดดเด่นทางด้านความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่ผสมผสานและอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว ระหว่างชาวไทย ชาวจีน และชาวมุสลิม กลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้ผู้ที่ได้มาเยือนเกิดความประทับใจ
โดยเฉพาะ “เบตง” สถานที่จัดการแข่งขันครั้งนี้ เบตงเป็นอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดยะลา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองยะลา ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนใต้สุดของสยามที่มีอาณาเขตติดกับประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาสันกาลาคีรี และเป็นอำเภอที่มีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า “ฮาลา-บาลา” หรือ “Amazon of Asia” ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ
สำหรับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมการวิ่งแล้ว สามารถวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวต่อในแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงต่างๆ ที่มีน่าความสนใจได้
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
จุดแรกที่แนะนำและพลาดไม่ได้ เมื่อมาถึงดินแดนสายหมอกและดอกไม้อย่างอำเภอเบตง นั่นคือ การไปชม ทะเลหมอก “อัยเยอร์เวง” ที่กำลังฮอตฮิตติดเทรนด์อยู่ในตอนนี้ เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เขาไมโครเวฟ ซึ่งมีความสูง 2,038 เมตร อยู่ที่ตำบลอัยเยอร์เวง ห่างจากตัวอำเภอเบตง 40 กิโลเมตร ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ชายแดนใต้ ที่มีทะเลหมอกให้ชมได้ในช่วงเช้าของทุกวัน และสามารถชมได้ตลอดทั้งปี เวลาที่จะเห็นสายหมอกได้ดีที่สุดคือตั้งแต่ 06.00-06.30 น. และยังมีอยู่ให้เห็นไปจนถึงช่วง 08.00 น. การเดินทางทำได้สะดวก สามารถนำรถขึ้นมาจอดไว้ที่จุดจอดรถได้เลย
Unseen ชายแดนใต้ ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
ส่วนที่เป็นไฮไลต์ คือ สกายวอล์กอัยเยอร์เวง สามารถเดินจากจุดจอดรถ ระยะทาง 500 เมตร หรือใช้บริการรถสองแถวหรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากจุดจอดรถเพื่อขึ้นไปส่งได้ สกายวอล์กเป็นหอคอยสูง 6 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 3 จะมีทางเดินทอดยาวออกไปจนถึงระเบียงวงกลม เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมที่ทำให้ได้ภาพสวยงามแปลกตา ส่วนบริเวณชั้น 4 ถึงชั้น 6 เป็นจุดชมวิวแบบมีระเบียงออกไป
ไฮไลต์ชมวิวทะเลหมอกบนสกายวอล์ก
การชมวิวจากสกายวอล์กให้ความรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่เหนือทะเลหมอก และขุนเขาเขียวขจีที่เรียงรายสลับซับซ้อน
ชมวิวทะเลหมอกแบบ 360 องศา
จุดชมวิวทะเลหมอกในอำเภอเบตง อีกจุดหนึ่งที่มีความสวยงามมาก คือ บริเวณ ยอดเขาฆูนุงซีลีปัต (ฆูนุงสาลี) ตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 28 ตำบลอัยเยอร์เวง อยู่ห่างจากตัวเมืองเบตงไปตามเส้นทางหมายเลข 410 ประมาณ 21 กิโลเมตร ต้องใช้การเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขา จากจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกจรดขอบฟ้า ในมุมกว้าง 360 องศา เป็นอีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่ผู้มาเยือนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงามและฟินสุดๆ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมทะเลหมอกจะอยู่ในช่วง 05.30-07.00 น. โดยปริมาณหมอกจะขึ้นอยู่กับสภาพฝนและลมในแต่ละวัน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง (กรมป่าไม้) โทรศัพท์ 0-7351-2597
สวนหมื่นบุปผา อำเภอเบตง
ต่อเนื่องกันกับบรรยากาศเย็นๆ กลางหุบเขา สำหรับคนที่ชอบดอกไม้และพันธุ์ไม้ต่างๆ แนะนำให้ไปเยือน “สวนไม้ดอกเมืองหนาว” หรือ "สวนหมื่นบุปผา" เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ ตั้งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านปิยะมิตร 2 หมู่ที่ 2 ตำบลตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง เป็นโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายในสวนมีดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์บานสะพรั่ง แบ่งเป็นโซนให้เดินชม เช่น ดอกแอสเตอร์, ไฮเดรนเยีย, เบญจมาศ, กุหลาบ, พีค็อก, เยอบีร่า, ลิลลี่, แกลดิโอลัส ฯลฯ มีค่าบริการในการเข้าชมสำหรับคนไทย 40 บาท ชาวต่างชาติ 60 บาท
ไม้ดอกเมืองหนาว ที่สวนหมื่นบุปผา
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีห้องพักเปิดบริการสำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืนท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และความสวยงามของมวลหมู่ดอกไม้ ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ ชุมชนสวนไม้ดอกเมืองหนาวบ้านปิยะมิตร 2 โทรศัพท์ 09-5438-8153
ส่วนใครที่อยากดื่มด่ำกับธรรมชาติ ชื่นชอบผจญภัยในป่าเขา แนะนำให้ไปท่องเที่ยวกับชุมชนที่ “หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9” ตำบลแม่หวาด อำเภอธารโต เป็นหมู่บ้านที่รัฐบาลจัดให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยได้อยู่อาศัยและมีพื้นที่ทำกิน โดยปัจจุบันที่นี่อยู่ในความดูแลของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งสภาพโดยรอบหมู่บ้านยังเป็นป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกยางพารา เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ทำสวนผสม อีกทั้งหมู่บ้านแห่งนี้ยังได้รับการพัฒนาเพื่อให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดยะลา ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวิถีชีวิตที่สงบแล้ว ยังจะได้เรียนรู้แง่มุมของอดีตผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่มีการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งได้เยี่ยมชมอนุสาวรีย์วีรชนของผู้ที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองในอดีต นอกจากนี้ยังมีฟาร์มกวางดาว สถานที่กางเต็นท์ และบ้านพักหลังเล็กๆ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
น้ำตกฮาลาซะห์
นอกจากเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านแล้ว ยังมีกิจกรรมให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดินป่าฮาลา-บาลา, เดินชมน้ำตกฮาลาซะห์ที่สวยงาม, เดินป่าชมทะเลหมอกผาหินโยก, ล่องเรือในเขื่อนบางลางชมป่าฮาลา-บาลา, ฯลฯ เปิดให้บริการทุกวัน ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 09-7117-5567 หรือติดตามข้อมูลได้ที่ Facebook Fanpage : ชุมชนท่องเที่ยวจุฬาภรณ์พัฒนา 9 จ.ยะลา
กิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
สำหรับการเดินทางไปหมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 9 ต้องนั่งเรือและเดินเท้าเข้าไปกลางป่า หรืออาจขับรถส่วนตัวไปได้ แต่หนทางค่อนข้างไกล ต้องขึ้นเขาคดเคี้ยวซึ่งต้องใช้เวลามากพอสมควร สำหรับคนที่ไม่อยากใช้เวลาเดินทางนาน แต่อยากสัมผัสความเขียวขจีของผืนป่าฮาลา-บาลา และต้นสมพงษ์ยักษ์ ต้นไม้เก่าแก่อายุนับพันปี ขนาดใหญ่ประมาณ 38 คนโอบ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำจากผืนป่าฮาลา-บาลา สามารถมาเที่ยวชมกันอีกจุดหนึ่งที่ “หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10” ตั้งอยู่ที่ตำบลอัยเยอร์เวง ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเบตงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง กิจกรรมของที่นี่ คือ การชมธรรมชาติและเรียนรู้ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์มลายา รวมทั้งยังมีที่พักของชุมชนและมีอาหารท้องถิ่นเมนูขึ้นชื่อ เช่น ไก่เก้าชั่ง, หน่อไม้ไผ่บาง, ผัดผักน้ำ และผัดหมี่เบตงรสเด็ดฝีมือเชฟชุมชน ให้ได้ลิ้มลอง ผู้สนใจที่ต้องการมารับประทานอาหารหรือใช้บริการของชุมชน สามารถนัดหมายล่วงหน้าได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10 โทรศัพท์ 0-7326-3037 หรือ Facebook Fanpage : peacevillage10
ต้นสมพงษ์ยักษ์ ดัชนีวัดความสมบูรณ์ของผืนป่า
ความน่าสนใจไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีความมหัศจรรย์จากผืนดินที่ควรแวะไปสัมผัสกัน สำหรับคนที่ต้องการความผ่อนคลาย นั่นคือ “บ่อน้ำร้อนเบตง” ตั้งอยู่ในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตาเนาะแมเราะ เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีบ่อพักน้ำที่อุณหภูมิพอเหมาะให้นักท่องเที่ยวสามารถไปใช้บริการแช่เท้า เพื่อผ่อนคลายอาการปวดเมื่อยได้เป็นอย่างดี ในบริเวณบ่อน้ำร้อนยังมีทั้งร้านค้า ห้องน้ำ และที่พักบริการ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
บ่อน้ำร้อนจากธรรมชาติ
สำหรับอาหารการกิน เมื่อมาถึงอำเภอเบตงแล้ว ว่ากันว่าหากไม่ได้กินไก่เบตงคงเรียกว่ามาไม่ถึงสุดเขตแดนใต้ของสยาม เพราะไก่เบตงถือเป็นของดีประจำถิ่น เนื้อเหนียวนุ่ม นิยมทำเป็นไก่สับ ไก่นึ่ง ไก่ต้มเครื่องยาจีน ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าไก่ ฯลฯ
สำหรับคนที่มีโอกาสเดินทางมาอำเภอเบตง และต้องการเรียนรู้เรื่องราวของไก่เบตงมากขึ้น ช่วงวันที่ 26 สิงหาคม-1 กันยายน 2566 จะได้พบกับงานเทศกาลไก่เบตง ณ ลานวัฒนธรรมสัมพันธ์ เทศบาลเมืองเบตง ตรงบริเวณปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ สวนน้ำเทศบาลเมืองเบตง
เมนูจากไก่เบตง อาหารขึ้นชื่อ
ภายในงาน มีการประกวดพันธุ์ “ไก่เบตง” การจัดแสดงนิทรรศการ “ไก่เบตง” “ตลาดนัดไก่เบตง” การประกวดทุเรียนพื้นบ้านและทุเรียนพันธุ์โอฉี่-มูซังคิง ชื่อดังของเบตง, การสาธิตทำอาหาร, สินค้าของดีเมืองเบตง อาทิ กาแฟเบตง อาหารพื้นเมืองเบตง, การประกวดวงดนตรี, การแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น ลิเกฮูลู, มโนราห์,การแสดงของศิลปินนักร้องและนักแสดงต่างๆ, การประกวดธิดาไก่เบตง, การแข่งขันกินไก่เบตง, การแข่งขันกินหมี่เหลืองเบตง
เมนูอาหารต้าเหยิน ตำนานคู่เบตง
นอกจากนี้ หากต้องการลองชิมร้านอาหารในตำนาน แนะนำร้านอาหารจีน “ต้าเหยิน (กิตติ)” ตำนานที่อยู่คู่เบตงมากว่า 40 ปี เมนูเด็ดของร้านได้แก่ ไก่สับเบตง, เคาหยก, ปลาจีนนึ่งบ๊วย, แกงจืดลูกชิ้นแคะ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ร้านต้าเหยินยังมีโรงหมักซีอิ๊วเป็นของตัวเอง หมักด้วยสูตรดั้งเดิมเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน จึงเป็นรสชาติในความคุ้นเคยของชาวเบตงหลายต่อหลายรุ่น และยังมีแบบบรรจุขวดให้ได้ซื้อติดมือกลับบ้านมาเป็นของฝากด้วย พิกัดร้านอยู่ใกล้หอนาฬิกาเบตง (เดินไปทางโรงแรมศรีเบตง) เวลาเปิด-ปิด : 10.00-23.00 น. โทรศัพท์ 0-7323-0461
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานนราธิวาส กล่าวในตอนท้ายว่า “นอกจากจังหวัดยะลาแล้ว หากมีเวลาและมีโอกาสมาเยือนจังหวัดชายแดนใต้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อเนื่องไปยังจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส ประกอบกับการเดินทางในปัจจุบันก็ทำได้สะดวก เดินทางได้ทั้งรถไฟ รถยนต์ และเครื่องบิน ทำให้สามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสงบแนวธรรมชาติและวัฒนธรรม จึงมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่ประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน”
ผู้สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง Facebook Fan page: TAT Narathiwat ททท. สำนักงานนราธิวาส โทรศัพท์ 0-7354-2343 หรือ โทร. 1672 Travel Buddy
สรณะ รายงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขึ้นป้าย ต่อสายตรง 'ผู้การทหารพรานที่ 49' แจ้งเหตุชายแดนใต้
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ทำการติดตั้งป้ายไวนิล สายตรงผู้การทหารพรานที่ 49 ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน " ร่วมกันสอดส่องดูแลชายเเดนใต้
'มีนตรา อินทิรา' ร่วมสมทบทุน ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
นาทีนี้ชาวใต้กำลังประสบอุทกภัยอย่างหนัก เรียกได้ว่าลำบากไม่น้อย มีนตรา อินทิรา ศิลปินสาวจาก Gmm Music ก็ไม่รอช้า ถึงแม้ตัวเองจะมีคอนเสิร์ตทุกคืน ตัวไปไม่ได้แต่ก็ได้ส่งเงินร่วมสมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่