ปักหมุดจุดเช็คอินใหม่'Nature Walkwayเขื่อนสิรินธร - 9,000โบก โขงเจียม'

จังหวัดอุบลราชธานี เมืองรองอีกจังหวัดในภาคอีสานที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ หากเอ่ยถึงสถานที่เหล่านี้หลายคนคงคุ้นหูไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำสองสี ที่เรียกว่าโขงสีปูน มูลสีคราม ตระการตาแก่งหินสามพันโบก จุดชมแสงแรกของวันที่ผาชนะได เดินเล่นหาดทรายสูง สัมผัสแหล่งประวัติศาสตร์ภาพเขียนสีผาแต้ม วัดพระธาตุหนองบัว และอีกมากมาย เหมาะทั้งสายชิลล์ สายเดินป่า สายมู สายคาเฟ่ ไม่ว่าจะสายไหนอุบลก็เอาอยู่

สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนอุบลฯ กับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้โครงการเมืองรองต้องไป @ตะวันออกเฉียงเหนือ  เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรองและเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งล่าสุดในพื้นที่อุบลมีจุดเช็คอินใหม่เพิ่งเปิดให้ไปเที่ยวได้ไม่นาน  รู้แล้วก็ตื่นเต้นอยากไปเห็น แล้วนำมาบอกเล่าให้ทุกคนฟัง เชื่อว่าหลายคนคงอยากบินตามไปดูแน่นอน

โบก 3 แอ่งมรกต

เมื่อถึงวันเดินทางเครื่องบินแลนดิ้งลงจอดที่สนามบินอุบลปุ๊บ ก็มุ่งหน้าหาของกินยามเช้าก่อนเลยที่ร้านสามชัย กาแฟ มาอุบลทั้งทีก็ต้องสั่ง ก๋วยจั้บญวณ รสชาติกำลังดี ชอบตรงที่เส้นเหนียวนุ่มหนึบๆ หมูยออร่อยมาก ปรุงตามรสปากกินจนจุก ตบท้ายด้วยชาเย็นๆ ก็พร้อมเดินทางต่อไปที่จุดเช็คอินใหม่กันแล้วที่  อ.สิรินธร คือ เส้นทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway) ที่เขื่อนสิรินธร โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ชมมุมสูงของ แผงโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดใหญ่ที่สุดในโลกได้ชัดมากยิ่งขึ้น

ทางเดินนี้มีความยาวกว่า 415 เมตร มีลักษณะคล้ายกับสกายวอล์ค แต่โครงสร้างรูปร่างเราจินตนาการว่าเหมือนกับกังหันลม  เพราะจากจุดเดินเริ่มต้นจะเป็นทางเดินปกติ ไปจนถึงตรงกลางวงกลม ที่เป็นทางเดินเป็นแฉกพื้นกระจก 5-6 แฉก ซึ่งสามารถเดินแยกออกไปชมวิวมุมสูง ทำให้เห็นแผงโซลเซลล์ได้ขนาดใหญ่ตั้งเด่นตระหงานอยู่กลางน้ำ และมองเห็นต้นไม้นานาพรรณที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งช่วงที่ไปพื้นที่สวนโดยรอบกำลังปลูกต้นไม้ และตกแต่งให้สวยงาม หากใครได้ไปชมตอนเสร็จสมบูรณ์ก็อย่าลืมถ่ายลืมมาฝากด้วยนะ ที่เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.00-17.00 น.

โบกแห่งความรัก รูปหัวใจ

ช่วงเที่ยงก็ไปทานมื้อกลางวันบนแพ ที่ลำโดมน้อย ซึ่งเป็นลำน้ำท้ายเขื่อนสิรินธร บรรยากาศก็จะชิลๆ ลมเย็นๆ พร้อมเอนกายนอน ส่วนใหญ่จะมากันเป็นแบบครอบครัว เพราะสามารถเปิดเพลง ร้องคาราโอเกะ ทานอาหารได้ มีดาดฟ้าให้ชมวิว ล่องไปเรื่อยๆด้านขวามือจะมีรูปปั้นพญานาค ที่ชาวบ้านเคารพบูชา ก่อนที่แพจะไปสิ้นสุดที่สันเขื่อน ราคาค่าบริการแพละประมาณ 3,000-4,000 บาท มีน้ำดื่ม ถ้วยจานให้บริการฟรี รองรับได้ประมาณ 30 คน ปกติเรือจะออกตั้งแต่ 09.00-16.00 น. หรือเวลาที่ลูกค้ากำหนด ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยความสวยงามของวัดภูพร้าว

.ถ่ายรูปใต้รูโบกก็เก๋ไปอีกแบบ

ที่อุบลไม่ได้มีแค่สามพันโบกแล้วนะ เพราะวันต่อมาเรากำลังไปเยือน 9,000โบก ที่บ้านตามุย ต.ห้วยไผ่ อ.โขงเจียม อีกแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดได้เพียง  2-3 ปี โดยป๋าเต๋อ สมศรี แสงสุนี เจ้าของสวนแสงสุนี  ผู้ให้บริการเรือรายเดียวในหมู่บ้าน ณ ปัจจุบัน และเป็นผู้ตั้งชื่อว่า 9,000โบก เล่าว่า โบกที่นี่มีการบอกเล่าต่อกันมา ป๋าเต๋อจึงมีความคิดที่จะหามุมถ่ายรูปสวยๆให้นักท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่นี่จะมีความแตกต่างจากสามพันโบกด้วยขนาดที่ใหญ่และโบกเยอะกว่า ซึ่งต้องนั่งเรือไปเพียงอย่างเดียวใช้เวลาประมาณ 45 นาที แนะนำให้มาในช่วงเดือนพฤศจิกายน หรือต้นเดือนธันวาคม ไปจนถึงพฤษภาคม เพราะหลังจากนี้เดือนนี้ไปแล้ว น้ำโขงจะท่วมโบก ถือว่าเป็นธรรมชาติรังสรรค์ เพราะโบกจะมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากหินลูกกรวดและน้ำจะกัดเซาะโบกให้มีหลุมหรือขนาดที่ใหญ่ขึ้น ใครได้มาก็อาจจะพบโบกหน้าตาใหม่ๆได้

เส้นทางเดินชมธรรมชาติ (Nature Walkway)

นั่งเรือออกมาได้สักพักก็ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำโขงไปพลางๆ ช่วงนี้น้ำโขงลดลงไปมาก ทำให้เห็นโขดหิน เนินทรายปรากฎขึ้นตามริมฝั่ง เรือยังแล่นผ่านหาดวิจิตรา ผาเจ็ก ซึ่งเป็นผาหินสูงชันที่เรียงรายสวยงาม ก่อนถึงจุดหมาย ป๋าเต๋อ บอกว่า มีไฮไลท์คือน้ำวนขนาดใหญ่ หากใครได้มามีความเชื่อว่าจะต้องอธิษฐาน ความดีให้วนมา ความชั่วให้วนหนี แล้วเอาน้ำลูบหัว แต่ต้องจับเรือให้มั่นนะเพราะน้ำวนค่อนข้างแรงเรือโคลงเคลงอาจจะพลัดตกได้

มาถึงจุดหมาย 9,000 โบก แนะนำว่าให้มาตอนเช้าตรู่ ไม่ก็ช่วงเย็นๆ เพราะถ้ามาตอนเที่ยงแบบพวกเราแดดก็จะเผาหัวเอาได้ เอาจริงๆที่สามพันโบกกับเก้าพันโบกก็สวยไปคนละแบบ เพราะที่นี่จะต้องเดินผ่านเนินทรายมายังลานหินที่กว้างมาก มีโบกเป็นรูขนาดใหญ่และมีน้ำขังสีเขียวมรกตที่ดูสวยแปลกตา

ทางเดินด้านบน สู่จุดชมวิวสกายวอล์ค

ป๋าเต๋อทำหน้าที่เจ้าบ้านนำเที่ยวแนะโบกที่มีรูปร่างต่างๆ ที่ได้ตั้งชื่อไว้แล้ว เริ่มที่โบก 3 แอ่งมรกต ที่มีน้ำสีเขียวมรกตอยู่ในโบก, โบกแห่งความรัก ที่เป็นรูปหัวใจ, โบกร้อยเท้านายพราน, โบกฮักแพง เพราะเมื่อถ่ายภาพกับเพื่อนหรือคนรักต้องจับมือกัน จะได้ภาพเงาสะท้อนในน้ำ บอกเลยว่าถ้ามา ต้องเตรียมแบตเตอร์รี่กล้องมาให้พร้อมเพราะมุมถ่ายรูปเยอะจริงๆ อัตราค่าบริการเรือคนละ 200 บาท(ไม่เกิน  7 คน) หรือเหมาลำ 1,500 บาท รอบเรือมี 2 เที่ยว คือเช้าเวลา 06.00 น. และบ่ายเวลา 14.00 น. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 086 243 6796

จุดชมวิวแผงโซลาเซลล์ไฮบริด

นอกจากอุบล ในภาคอีสานยังมีแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series อีก 5 แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ โรงไฟฟ้าลาตะคองชลภาวัฒนา (เมืองใต้พิภพและเมืองลอยฟ้า) จ.นครราชสีมา, เมืองพญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร, ภูพระ (ภูเขาแห่งแรงศรัทธา) จ.เลย, หอโหวด 101 จ.ร้อยเอ็ด และโลกของช้าง จ.สุรินทรหรือแคมเปญใหญ่ของปีนี้  Amazing COOL ISAN : หลงรักแผ่นดินถิ่นอีสาน ISAN IN LOVE เอาใจนักท่องเที่ยว กับการเที่ยวอีสานสายมู ตามรอยพญานาคราชเสริมสิริมงคลในภาคอีสาน

วัดภูพร้าวยามเย็น
น้ำวน ใจกลางโขง
ล่องแพ พักผ่อนพร้อมทานข้าวเที่ยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เทศกาลสร้างสรรค์'3 ศิลป์ 3 ศาสน์ ย่านกะดีจีน'

งานเฟสติวัลในย่านเก่าเป็นอีกกิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างแรงกระเพื่อมให้มหานครมีมิติร่วมสมัยควบคู่ไปกับการดูแลรักษาศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม สีสันความสนุกที่เคลือบด้วยสาระและคุณค่าของย่านกะดีจีนจะเกิดขึ้นในงานเทศกาล ” 3 ศิลป์ 3 ศาสน์ ย่านกะดีจีน”

สงกรานต์'รางน้ำ' พิกัดใหม่เล่นน้ำสุดฉ่ำ

สงกรานต์กรุงเทพฯ จุดเล่นน้ำสงกรานต์ยอดฮิตที่มีคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างคับคั่งเป็นประจำทุกปี คนจะนึกถึงถนนข้าวสาร เขตพระนคร หนึ่งในย่านท่องเที่ยวและจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์ยอดนิยมเสมอมาของกรุงเทพฯ  รองลงมาสงกรานต์สีลมซึ่งปิดถนนให้เล่นน้ำสงกรานต์กันตลอดเส้นสีลม ยังมีพื้นที่ของคนกลุ่มความหลากหลายทางเพศ LGBTQ ที่จัดประกวดเทพีสงกรานต์ เดินขบวนพาเหรด การแสดงศิลป

'ภูมิธรรม' ใช้อินฟูเอนเซอร์ช่วยโปโมตอัตลักษณ์ผ้าไหมหนองบ่อ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มอาชีพสตรีทอผ้า บ้านหนองบ่อ (ศูนย์ผ้าไหม) อำเภอเมือง อุบลราชธานี ว่า รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็น Soft Power ของเรา

ทำพิธีอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ไปจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว

ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พร้อมส่วนราชการหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ร่วมในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระ

รมว.ท่องเที่ยวนำเอกชนไทยบุกตลาดอินเดียหวังโกยรายได้ 80,000 ล้านในปี 67

รมว.ท่องเที่ยวนำผู้ประกอบการเอกชนไทยร่วมงาน SATTE 2024 เร่งบูสต์ตลาดอินเดีย พร้อมตั้งเป้ารายได้ตลาดอินเดียกว่า 80,000 ล้านบาทในปี 2567