ไม่รู้จะเสียบดอกไม้ หรือจะให้ก้อนอิฐเป็นของขวัญ “ตำรวจ” ยุคที่มี ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กุมบังเหียน “แม่ทัพสีกากี” ดี

อะพิโธ่ อะพิธัง “สีกากี” นึกว่า “ผู้บังคับบัญชา” จะเป็นที่พึ่งให้ “ตำรวจ” ไร้เส้น ไร้สาย ได้ลืมตาอ้าปากในการแต่งตั้ง “นายพัน” ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) – สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2566

ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา น่าจะเป็นคำเปรียบเปรยที่อยู่ในใจใครหลายคนที่ติดตาม “โผตำรวจ” ปีนี้

จับกระแสการแต่งตั้ง “นายพัน” ระดับ รองผู้การ ลงมาถึง สารวัตร วาระประจำปี 2566 ยุค “ผบ.ต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กุมบังเหียนผู้นำกรมปทุมวัน ในรอบนี้

หมดกัน! โผแต่งตั้ง “ตำรวจ” ยุค ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กุมบังเหียนกรมปทุมวัน อุตส่าห์ฟูมฟักแถวตรงมาตั้งแต่การแต่งตั้ง “นายพล” จนได้รับเสียงชื่นชม ได้รับเสียงปรบมือ

เห็น “ผบ.ต่อศักดิ์” สานต่อโครงการดีๆ ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีต ผบ.ตร. อย่างโครงการลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน แล้ว

เอ๊ะยังไง! ชื่อ บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนจะมีข่าวลือไปพัวพันหลายๆ เรื่อง

“แต่งตั้งโยกย้าย”

ต้องร้องอุต๊ะ! แต่งตั้ง “นายพลสีกากี” หรือ “นายพลเล็ก” ตำแหน่ง รอง ผบช.ลงมาถึง ผบก. วาระประจำปี 2566 ที่มี นายกฯ เศรษฐา ไปนั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน ก.ตร. เมื่อวันก่อน

สัปดาห์นี้น่าจะได้เห็นฝีมือการบริหารงานบุคคล ของ “ผบ.ต่อศักดิ์” ในการจัดทัพปรับทิศ “สีกากี” ระดับ “นายพล” ครั้งแรก แบบอำนาจเต็มๆ มือ

นี่ซิ..นักรัฐศาสตร์ของจริง แค่ก้าวแรกในการกุมบังเหียน “กรมปทุมวัน” ของ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี ก็ใช้หลักบริหารงานเชิงรัฐศาสตร์การปกครอง ที่น่าสนใจ ที่น่าติดตาม โดยเฉพาะการบริหารงานบุคคล

ชื่นชมๆ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ยึดหลักการและแนวทางของตัวเองในการพิจารณาหลักเกณฑ์ของกฎหมายในการแต่งตั้ง

ใจหาย…เหลืออีกเพียง 7 วัน ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็จะครบเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. 2566

เผลอแป๊บเดียวเหลืออีกเพียงไม่ถึงครึ่งเดือน ก็จะถึงวันที่ 30 ก.ย. 2566 วันเกษียณอายุราชการของข้าราชการทุกๆ หน่วย

จริงๆ ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” หรือ “ผบ.ตร.” คนที่ 14 ที่จะเข้ามาแตะมือต่อไม้ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ซึ่งจะเกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย. 66

หลัง “โผนายพลสีกากี” เดิม ในยุค นายกฯ ลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกรื้อ ถูกล้างไพ่ ตามแรงบีบ แรงกดดัน ในเรื่อง “ความเหมาะสม” และ “หลักธรรมาภิบาล”

“ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้…” มอตโตสุดคลาสสิกของ “พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์” อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ที่ใช้ได้กับทุกเหตุการณ์ กับทุกยุคทุกสมัย ในแวดวง “ตำรวจ”

ต้องออกตัวล้อฟรีกันก่อน “จั่วหัว” แบบนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่กำลังวุ่นวายกันอยู่ตอนนี้
“รวดเดียวจบ”

พอการเมืองไม่นิ่ง การโหวตนายกรัฐมนตรีต้องเลื่อนออกไป การจัดตั้งรัฐบาลที่ตกมาอยู่ในมือ “เพื่อไทย” ก็ต้องลากยาวตามไปด้วย

เมื่อสัปดาห์ก่อน นายกฯ ประยุทธ์ ในฐานะประธาน ก.ตร. เซ็นออกข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 มีเนื้อหาเป็นกฎเหล็กเอาไว้ 47 ข้อ