28 มี.ค.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 30 มี.ค.นี้เวลา 13.30 น.ศาลปกครองสูงสุดนัดไต่สวนใน 3 คดีที่มีผู้ยื่นฟ้องขอเพิกถอนประกาศกกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค.66 โดยคดีแรก เป็นคดีที่นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ยื่นฟ้องว่าประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าวโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานคร มีการรวมเฉพาะแขวงโดยไม่มีเขต หรืออำเภอหลัก มาเป็นเขตเลือกตั้งใหม่ทั้งที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 27 (1) กำหนดหลักเกณฑ์การแบ่งเขตให้ “รวมอำเภอต่าง ๆ เป็นเขตเลือกตั้ง” ประกาศแบ่งเขตของกกต.จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีที่ 2 เป็นคดีที่ นายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งส.ส.สุโขทัยในนามพรรคประชาธิปัตย์ ฟ้องว่า ประกาศแบ่งเขตดังกล่าวของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก การแบ่งเขตการเลือกตั้ง รูปแบบที่ 1 เป็นการรวมตำบลเพื่อกำหนดเป็นเขตเลือกตั้ง โดยไม่ได้ยึดหลักเกณฑ์รวมอำเภอต่างๆ เป็นเขตการเลือกตั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 มาตรา 27 กำหนดไว้ ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง และกระทบสิทธิของประชาชนสร้างความสับสนในการใช้สิทธิเลือกตั้ง และกระทบต่อจำนวนราษฎรผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง
คดีที่ 3 เป็นคดีที่นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและมีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ฟ้องว่าประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าวโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับจ.สุโขทัย ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงความคิดเห็นของผู้ฟ้องคดีซึ่งเหมาะสมกว่า รูปแบบดังกล่าวส่อไปในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยึดถือตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.สุโขทัยอย่างชัดแจ้ง ประกาศดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
และคดีที่ 4 เป็นคดีที่นายพัฒนา สัพโส ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ฟ้องว่าประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งดังกล่าว เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับจ.สกลนคร ไม่รับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทั่วไป รวมถึงความคิดเห็นของผู้ฟ้องคดีซึ่งเหมาะสมกว่า รูปแบบที่กกต.มีมติ ส่อไปในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ยึดถือตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เป็นการใช้ดุลพินิจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกาศดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชัดเจน 'ประพันธุ์' ชำแหละ 'นิตินิยาย-พิธา' สู้คดีหุ้นไอทีวี
ายประพันธุ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว) และนักกฎหมาย แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล โดยชี้ว่า "นาย
'เรืองไกร' เล่าเบื้องหลัง 'พิธา-พรรคส้ม' เผยเคยมีคนฝากให้ยกเว้นหัวหน้าพรรคสักคน!
'เรืองไกร' เล่าความหลังเรื่อง 'พิธา-พรรคส้ม' เผยเคยมี ส.ส.ฝากว่าถ้ามีอะไรก็เว้นหัวหน้าเขาสักคน ย้ำหากแดดดี้ไม่รอด 39 ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก้าวไกลพร้อม ส.ส.เขตน่าจะพ้นสภาพ
'พิธา' คอพาดเขียง! กกต. ถกคำร้องฟันถือหุ้นไอทีวี เข้าข่ายรู้อยู่แล้วไม่มีสิทธิ แต่ยังสมัคร ส.ส.
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการพิจารณากรณีสำนักงานกกต.รายงานผลการดำเนินการเกี่ยวกับคำร้องขอให้ตรวจสอบว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล
อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว ยื่น กกต. เรียกพยานปากเอก ให้ข้อมูลมัดพิธาถือหุ้นไอทีวี
นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ กกต.ขอให้เชิญนายนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เขต 17 คลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นพยานกรณีที่ตนได้ยื่นให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีการถือหุ้นบริษัทไอทีวี
'8 พรรคร่วม' ตั้งคณะทำงานเพิ่ม 5 ชุด ต้านคอร์รัปชัน ปราบส่วย แก้ขาดบุคลากรแพทย์ ปฏิรูปที่ดิน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แถลงหลังการประชุมคณะทำงานชุดเล็กทั้ง 7 คณะที่ตั้งขึ้นตามมติพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยนายพิธา กล่าวว่า วันนี้มีวาระการประชุมในการตามงานจากคณะทำงาน
'พิธา' รับกังวลปมถือหุ้นไอทีวี ส่อฟื้นคืนชีพ แจ้งโอนให้ทายาทแล้ว ไม่ใช่ขาย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แถลงหลังการประชุมคณะทำงานชุดเล็กทั้ง 7 คณะที่ตั้งขึ้นตามมติพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยนายพิธา กล่าวว่า วันนี้มีวาระการประชุมในการตามงานจากคณะทำงานทั้ง 7 คณะ