'กรณ์-จูรี' ปราศรัยฝ่าพายุฝน! มั่นใจ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ส่งลูกชาวบ้านเข้าสภา

'กรณ์-จูรี' ปราศรัยฝ่าพายุฝน! ประชาชนไม่ถอย มั่นใจ 'ดาวติ๊กตอก' สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้สงขลา ส่งลูกชาวบ้านเข้าไปเป็นดาวสภา โวยป้ายหาเสียงถูกทำลาย สาบานถ้าใช้เงินซื้อเสียง ขอให้ตายโหง

10 พ.ค.2566 - เมื่อช่วงค่ำวันที้่ 10 พฤษภาคม พรรคชาติพัฒนากล้า จัดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ณ บริเวณ สี่แยกสะพานดำ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เลือกตั้งของ นายจูรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กตอกชื่อดัง ขวัญใจคนใต้ ผู้สมัครพรรคชาติพัฒนากล้า เขต2 เบอร์ 8 ผู้ที่มีคะแนนนิยมอย่างล้มหลามจากกระแสทั้งชุมชนและออนไลน์ โดยมีแกนนำพรรคนำโดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค ร่วมด้วย ผู้สมัคร ทั้ง 3 คน ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 3 ผศ.ดร.ประสิทธิ รัตนพันธ์ ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 3 และทนายอาร์ม สุวรรณรักษา ผู้สมัครเขต 9 เบอร์ 8 มาให้การสนับสนุนอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางประชาชนที่เข้ารับฟังอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการปราศรัย ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนก็ยังปักหลักฟังการปราศรัยไม่ถอย โดยจูรี กล่าวปราศรัยท่ามกลางสายฝน โดยมีนายกรณ์ กางร่มให้ สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้าร่วมฟังปราศรัยเป็นอย่างมาก

โดยนายจูรี กล่าวว่า วันนี้ฟ้าฝนมาพรมน้ำมนต์ ให้ความเป็นสิริมงคล ว่าเราได้ทำสิ่งที่ดี ที่ถูกต้อง เราไม่ได้มาทำอะไรที่จะนำไปสู่การทุรยศ อัปรีย์ จัญไร ให้เกิดขึ้นกับบ้านเมือง มั่นใจตนจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน จ.สงขลา ให้เกิดขึ้นได้ เชื่อมั่นว่าพี่น้องประชาชนเขต 2 จะส่งลูกชาวบ้านเข้าสภาได้อย่างแน่นอน

นายจูรี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่างลูกชาวบ้าน กับเงิน และอิทธิพลมากมาย ป้ายหาเสียงของตนถูกทำลายเกือบทั้งหมด ในคูหาภาพก็หาย โดนแม้กระทั่งมีคนเอาเงินไปแจกชาวบ้านหัวละ 200 แล้วบอกว่าเป็นเงินของจูรี ตนขอสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อทวด หลักบ้านหลักเมือง จ.สงขลา ว่าหากตนใช้เงินซื้อเสียงแม้แต่บาทเดียว ขอให้ตายโหงไปเลย แต่ไม่ว่าใครจะทำอะไรก็ตาม เบอร์ 8 อยู่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนแล้ว ตนจะทำให้การเมืองบริสุทธิ์จะเกิดขึ้นที่ จ.สงขลา วันที่ 14 พฤษภาคม เขต 2 สงขลา กาเบอร์ 8 หักปากกาเซียน ด้วยปากกาของพี่น้องประชาชน เพื่อให้วันที่ 15 พฤษภาคม ข่าวออกไปทั่วประเทศว่า การเมืองบริสุทธิ์ใสสะอาด เกิดขึ้นที่ หาดใหญ่ จ.สงขลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายจูรี ได้ทดลองอภิปรายถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสงขลา ได้อย่างฉะฉาน ซึ่งมีเสียงตะโกนว่าส่งจูรีเข้าไปเป็นดาวสภา

ด้านนายกรณ์ กล่าวว่า วันนี้พี่น้องประชาชนสุดยอดจริง ๆ ตนได้เห็นแววตา เห็นรอยยิ้ม เห็นหัวใจของพี่น้องทุกคน ทำให้มั่นใจว่า วันที่ 14 พฤษภาคม เราจะได้สรางประวัติศาสตร์ร่วมกันอย่างแน่นอน ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้ร่วมหาเสียงกับจูรี มาหลายครั้ง เจอทั้งแดด ทั้งฝน แต่เพราะตนรักคนหาดใหญ่ อยากให้ได้ ส.ส. คุณภาพอย่างนายจูรี เข้าไปทำงาน เป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชน เพราะหากสภา ได้ผู้แทนแบบ จูรี และเพื่อน ผู้สมัคร อีก 3 คน ใน จ.สงขลา ของพรรคชาติพัฒนากล้า การเมืองไทยต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน และนั่นก็เป็นเหตุผลว่า จ.สงขลา มี 9 เขต แต่เราส่งผู้สมัคร แค่ 4 เขต ทั้งที่ความจริงเราจะส่งครบก็ได้ แต่เพราะเราเลือกคนมีอุดมการณ์เดียวกัน ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง สร้างการเมืองที่ใสสะอาดให้กับ จ.สงขลา เราจึงส่งคนที่เราคิดว่าจะสามารถเดินไปสู่จุดหมายเดียวกันได้

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า วันนี้ตนมั่นใจว่าเรายืนในจุดที่ถูกต้อง จึงขอให้ประชาชนเลือกคนที่รัก คนที่เราศรัทธา ท่ามกลางการเมือง ที่พยายามปั่นกระแส สร้างความเกลียด สร้างความกลัว ให้พวกเราอึดอัดสับสน ว่าจะเลือกใครดี ตนขอบอกว่า สูตรสำเร็จทางการเมือง คือ ทำให้พวกเรากลัว ทำให้เกลียด ทำให้หลงรักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ตนโดนมาตลอด เคยยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ถูกหาว่าเป็นเผด็จการ ทั้งที่ท่านก็ได้เสียงมากกว่าคู่แข่งทุกคน พอขึ้นเวทียิ้มให้นายพิธา ก็โดนกล่าวหาว่าติ่งส้ม มันมีความพยายามที่จะแบ่งคนเป็นขั้ว เพื่อให้พวกเราเลือกตามขั้ว แทนที่เราจะเลือกคนอยากเลือก แทนที่เราจะเลือกนโยบายที่เราอยากได้ เราถูกบังคับให้เลือกใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ

“วันนี้ผมมั่นใจ เห็นด้วยใจ ด้วยสายตาของทุกท่าน ว่าท่านเลือกจูรี แน่นอน แต่ยังมีอีกหลายคนที่ติดกับดักว่า ถ้าเขาเลือกแล้ว ใครจะมา คนที่เขากลัวจะชนะหรือเปล่า ผมขอบอกว่า ผมทำงานการเมืองมาเกือบ 20 ปี ในแต่ละยุค แต่ละสมัย เราจะได้นักการเมืองแห่งอนาคต ที่ชาวบ้านสามารถฝากความหวังไว้ได้ ยุคละไม่เกิน คนสองคน ผมไม่เคยเห็น ใครที่เป็นร่างทรงที่แท้จริงของชาวบ้าน ฝ่าด่านอุปสรรค ความยากจน สะสมความรู้ ประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ มากกว่าผู้สมัครคนอื่นทุกพรรค จึงขอฝากพี่น้องประชาชน ช่วยผลักดันจูรี ให้มีโอกาสเข้าไปทำงานในสภา นี่คือเพชรน้ำงามของ จ.สงขลา ที่ทั้งชีวิตอาจจะไม่มีใครน่าเลือกไปกว่านี้อีกแล้ว” นายกรณ์ กล่าว

ด้านนายอรรถวิชช์ ก็ได้ร่วมฝ่าสายฝน เพื่อให้กำลังใจ นายจูรี และผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 คน โดยระบุว่า ฝนตกก็หยุดเราไม่ได้ ขอให้เชื่อในสิ่งที่เราทำ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า เราได้เดินมาในหนทางที่ถูกต้องแล้ว และเชื่อว่าการเมืองที่ใสสะอาด จะเกิดขึ้นได้ ขอให้พี่น้องประชาชน ส่งลูกชาวบ้านเข้าสภา เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ให้เกิดขึ้นที่ จ.สงขลา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุวัจน์’ ชี้เปรี้ยง ‘อุ๊งอิ๊ง’ เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก ‘เศรษฐา’

8 ม.ค.2567 - ที่จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการมองการเมืองปีมังกรทอง 2567 ว่า เมื่อสองวันที่ผ่านมาการเมืองถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดีที่สภาให้ความเห็นชอบงบประมาณสำหรับปี 2567 จำนวน 3.48

'สุวัจน์' แนะนายกฯโฟกัสหารายได้เพิ่มให้ประเทศ ใช้ประสบการณ์ทางธุรกิจผลักดันผลงาน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า(ชพก.) ประเมินผลการทำงานของรัฐบาล 3 เดือนว่า รัฐบาลพยายามทำงานในสิ่งที่สัญญากับประชาชนไว้ตอนเลือกตั้ง โดยเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้า เช่น เศรษฐกิจระยะสั้น การตรึงราคาค่าไฟ ค่าน้ำมัน หนี้นอกและในระบบเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนให้ดี

'เทวัญ' เผยนายกฯไม่ได้ลงรายละเอียดถกงบปี 67 แต่กำชับให้อยู่ครบองค์ประชุม

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯได้ฝากให้แต่ละพรรคกำชับสมาชิกให้เข้าร่วมการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3-5 ม.ค.67 อย่างพร้อมเพรียง

'สุวัจน์' แจงเหตุรับ 'สส.แจ้' ย้ายซบชาติพัฒนากล้า

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรีสมัครเข้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า ทางพรรคฯโดยนายทะเบียนพรรคฯก็ได้ตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆและได้รับเข้าเป็นสมาชิกพรรค

'ชาติพัฒนากล้า' จัดประชุมใหญ่เลือกหัวหน้า-เปลี่ยนชื่อพรรค 'สุวัจน์' แบะท่าหวนคืน

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า(ชพก.)ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมใหญ่พรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากที่นายกรณ์ จาติกวณิช ลาออกจากหัวหน้าพรรค ว่า เมื่อนายกรณ์ ลาออก ส่งผลให้ กรรมการบริหารพรรคสิ้นสภาพ และต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน