
“สมชาย” ชี้ปม”แตงโม” ยังไม่จบ ระบุอาจมีคนติดคุกเพิ่ม ผลพวงจากบิดเบือนจริงเป็นเท็จ เชื่อเรื่องนี้สังคมต้องการความยุติธรรม
3 เม.ย.2565 – นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ #คดีแตงโมยังไม่จบอาจมีคนติดคุกเพิ่ม #ผลพวงบิดเบือนเรื่องจริงเป็นเท็จ #เตรียมตัวเปลี่ยนสถานะกันได้เลย
จากการติดตามความคืบหน้าล่าสุดในข่าวคดีแตงโม เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการหลายเรื่องที่ กมธ. เคยมีข้องสังเกตและเสนอแนะ อาทิ การสอบสวนพยานบนเรือเพิ่มเติมอีก และอื่นๆฯลฯ
ซึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งในการให้การต่างๆในคดีที่ดูจะขัดกัน เริ่มปรากฏความชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะข้อสังเกตเกี่ยวกับการให้การเป็นพยานเท็จ การทำลายหลักฐาน การให้คำปรึกษาเพื่อไม่ต้องให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง หรืออาจพลิกหากมีหลักฐานว่าร่วมสนับสนุนการกระทำผิดด้วย ขณะนี้จึงน่าจะประมวลข้อมูลและข้อกฎหมายเบื้องต้นนอกเหนือจากที่ผู้ต้องหา 2 คนคือนายปอกับนายโรเบิร์ต อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา291 ผู้ใดกระทําโดยประมาท และการกระทํานั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท แล้ว อาจมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อาจต้องรับโทษเพิ่ม
เท่าที่พอเห็นเค้าลางขณะนี้แบ่งได้เป็น 3-4 บุคคลหรือกลุ่มบุคคล ดังนี้ ครับ
1)บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่แจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 172 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา
แก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
2)บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยว่ามีการจงใจทำลายหลักฐานทิ้งหายไป
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 184 ผู้ใด เพื่อจะช่วยผู้อื่น มิให้ต้องรับโทษ หรือ ให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือ ทำให้สูญหาย หรือ ไร้ประโยชน์ ซึ่ง พยานหลักฐาน ในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือ ปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
3)บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นนอกเรือที่ช่วยให้คำปรึกษาแนะนำ
โดยมีเจตนา คือรู้หรือควรรู้ว่าบุคคลนั้น เป็นผู้กระทำ ความผิดหรือ
รู้ว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ต้องหากระทำความผิด และมีมูลเหตุจูงใจเพื่อไม่ให้ต้องโทษ
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 189 ผู้ใด ช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำ ความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4)หากเป็นกรณีถ้าคดีพลิกมีหลักฐานว่าเป็นการร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิด บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ร่วมสนับสนุนจะมีความผิดรับโทษ2ใน3 นั้นด้วย
ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ก่อนหรือขณะกระทำ ความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความ สะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
ส่วนการสืบสวนสอบสวนจะเป็นไปตามนี้หรือไม่จะพาดพิงไปถึงใคร มีพยานหลักฐานมากน้อยแค่ไหน รัดกุมเพียงใด
ขอให้ทุกท่านอดใจรอ
เชื่อมั่นเถอะครับว่าเรื่องที่สังคมต้องการความยุติธรรมและต้องการเห็นความเป็นธรรมกับคดีแตงโมนั้น ไม่สูญเปล่าครับ
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา จะไม่วางมือจะคอยช่วยติดตามต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความเป็นธรรมแน่นอนครับ
สมชาย แสวงการ
3 เม.ย 2565
#แตงโมต้องไม่ตายฟรี
#ความจริงมีหนึ่งเดียว
#ไม่หิวแสงแต่กระหายความยุติธรรม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เตือนซ้ำรอย! 'นิกร' กระตุก กกต.ฟังข้อสังเกตกมธ.แบ่งเขตเลือกตั้ง
"นิกร" แนะ กกต.ฟังข้อสังเกตกมธ.เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้ง อย่าได้ไม่ซ้ำรอยปี 62 ปัญหาตามมาด้วยการฟ้องร้อง
เตรียมงัดกม.ใหม่รับ117คนพ้นคุก
"สมศักดิ์" สั่งทุกหน่วยงานยุติธรรมเตรียมรับกฎหมาย JSOC บังคับใช้ 23 ม.ค. ประสานหน่วยงานต่างๆ-ทดสอบระบบให้เรียบร้อย ก่อนมีนักโทษในข่าย 117 คนพ้นคุก เผื่้อศาลสั่งคุมขังฉุกเฉินเพื่อคุมประพฤติต่อ
กสม.ชี้ จนท.กรมบังคับคดีทำงานหนัก-โอทีน้อยเป็นการละเมิดสิทธิฯ
กสม.เผยเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีภาระงานหนัก ไม่ได้รับค่าตอบแทนล่วงเวลาที่เหมาะสม กระทบสิทธิพักผ่อนและการสร้างครอบครัว เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ชี้ ก.พ.เร่งแก้ไขเพิ่มค่าตอบแทน-สวัสดิการ
เฮลั่นคุก! นักโทษได้ดูฟุตบอลโลก
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราช ทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ได้จัดมหกรรมฟุตบอลโลกขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ณ ประเทศ
สธ.ชูผลงานช่วงเอเปกดูแลผู้ป่วยไทย-เทศ 572 ราย!
สธ.โอ่ผลงานในเอเปก 2022 เน้นความปลอดภัยสูงสุดตามหลักวิชาการ ทั้งป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ ดูแลสุขภาพจิต รักษาและส่งต่อ ให้บริการถึง 572 ราย
'ณัฐวุฒิ' งานเข้าอย่างจัง! ถูกเพจสามนิ้ว บิดปมพรรคเพื่อไทยกับมาตรา 112
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ข้อความเป็นเท็จ ผมตอบคำถามนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์ เรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112