นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมแก้ปัญหาค้ามนุษย์ วางเป้าหมายต่อไป มุ่งเป้า เทียร์1 หรือขจัดค้ามนุษย์ให้หมดไป
10 ส.ค.2565 - น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 นายกรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ประจำปี 2564 และกล่าวชื่นชมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ จนทำให้สถานะการค้ามนุษย์ (TIP) ประจำปี 2022 ของไทย ที่รายงานโดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ อยู่ในระดับเทียร์2 ดีขึ้นกว่าสองปีก่อน ที่อยู่ใน ระดับเทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานทุกภาคส่วนสำเร็จเป้าหมาย เลื่อนสถานะสู่เทียร์ 1 และขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดไปในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของ ประจำปี 2564 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ (พม.) รายงานว่า สามารถจับกุมและเริ่มการดำเนินคดีอาญา 188 คดี เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 41.75 (ที่มีจำนวน 133 คดี) ในจำนวน 188 คดีนี้ เป็นคดีที่มาจากการสืบสวนสอบสวนช่องทางออนไลน์มากที่สุด จำนวน 107 คดี คิดเป็นร้อยละ 56.91 ของจำนวนคดีค้ามนุษย์ในชั้นสืบสวนทั้งหมด นอกจากนี้ สามารถดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น 17 คน
นอกจากนั้นมีการให้ความช่วยเหลือและการให้ความคุ้มครองผู้เสียหาย 414 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 79.22 โดยให้การคุ้มครองช่วยเหลือ เช่น 1.คุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการที่เข้ารับการคุ้มครองในสถานคุ้มครอง 148 คน 2.ลดระยะเวลาการคุ้มครองผู้เสียหายในสถานคุ้มครองจาก 158 วัน ในปี 2563 เป็น 143 วัน ในปี 2564 ทำให้ผู้เสียหายไม่ต้องอยู่ในสถานคุ้มครองนานเกินความจำเป็น 3.เตรียมความพร้อมให้กับผู้เสียหายเข้าสู่กระบวนการทางศาลอย่างเหมาะสม และ 4.สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการคุ้มครองพยานเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ถึงร้อยละ 153.02 และผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยาชดเชยในฐานะผู้เสียหายและพยานในคดีอาญา เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 123.9 ส่วนการป้องกันการค้ามนุษย์ ได้ดำเนินการ เช่น การพัฒนากฎหมายสำคัญที่เกี่ยวกับสิทธิคนต่างด้าวในการจัดตั้งสหภาพแรงงานเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านแรงงานสัมพันธ์ให้เหมาะสม
น.ส.รัชดา กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในระยะต่อไป เช่น 1. เพิ่มขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย 2. ถอดบทเรียนแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3. ยกระดับศูนย์บัญชาการป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน 4. เร่งจัดสรรอัตรากำลังเพิ่มเติม 5. ยกระดับระบบรับเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียนการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน การบริหารจัดการข้อมูล และการส่งต่อคดี และ 6. จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจต่อต้านการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯจี้สางมาเฟียภูเก็ต!
"เศรษฐา" ลงภูเก็ต สั่งตำรวจจับตามาเฟียต่างชาติ
เศรษฐาชี้อย่าเทียบคดีโจ๊กกับบิ๊กต่อ
"เศรษฐา" ชี้คำสั่งเด้ง "บิ๊กโจ๊ก" ออกจากราชการเป็นอำนาจ
ปัดยึดเก้าอี้ปธ.สภา แกนนำ‘เพื่อไทย’ลิ้นพันแจง/‘วันนอร์’ลั่นทำไม่ได้ไปเอง
“เศรษฐา” ย้ำ รมต.ให้ใช้ผลงานเป็นภูมิคุ้มกัน “สุทิน” รับเสียดายถ้าต้องหลุดเก้าอี้
'พวงเพ็ชร' หวั่นไหวหลุดเก้าอี้ รมต. ขอโอกาสทำงานต่อ
'พวงเพ็ชร' ยังไม่รับแจ้งจากนายกฯ รับหวั่นไหวหลังมีชื่อหลุดเก้าอี้รัฐมนตรี ขอโอกาสทำงานต่อ รอใช้งบได้โชว์ฝีมือเต็มที่
ลือสะพัด! เปลี่ยนโฆษกรัฐบาล 'จิรายุ' เสียบแทน 'หมอชัย'
มีความเคลื่อนไหวเรื่องการยกเครื่องการทำงานของทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'วันนอร์' โล่ง! เพื่อไทยการันตีไม่ยึดคืนเก้าอี้ 'ปธ.สภา'
'ภูมิธรรม' ยันไม่คิดเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ ชี้ 'วันนอร์' ทำหน้าที่ได้ดีสมเกียรติ ขออย่าจินตนาการ สร้างความรู้สึกบั่นทอน