'สมศักดิ์' แจงปมประสิทธิ์หนีศาล 'อมรัตน์' ฉะราชทัณฑ์ไม่เคร่งครัดเหมือนคุมผู้ต้องหาสามนิ้ว

29 ธ.ค.2565 - เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสด โดยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถามนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กรณีนายประสิทธิ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงพยายามหลบหนีระหว่างถูกนำตัวมาฟังการพิจารณาคดีที่ศาลอาญาว่า อยากทราบความคืบหน้าการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบดำเนินการถึงไหน ใครต้องรับผิดชอบบ้าง เพราะวันที่ 29 ธ.ค.ครบกำหนด 7 วันที่กรมราชทัณฑ์จะสรุปข้อเท็จจริงเสร็จ

 

เหตุใดวันเกิดเหตุให้นายประสิทธิ์ใช้ห้องน้ำประชาชนที่มาติดต่อราชการ แทนห้องน้ำผู้ต้องขัง กุญแจที่นายประสิทธิ์ไขหลบหนีเอามาจากไหน ดูแล้วตามใจผู้ต้องขังมากกว่าปกติ ไม่เหมือนคดีเด็กและเยาวชนที่ถูกคุมขังที่เคร่งครัดระเบียบทุกอย่าง 2 มาตรฐานชัดเจน กรมราชทัณฑ์เป็นดินแดนสนธยาตรวจสอบไม่ได้  ทราบว่ามีการใช้แรงงานทาสในเรือนจำ พับริบบิ้น พับกล่องได้ค่าแรงเดือนละ 80 บาท และลิดรอนสิทธิเสรีภาพผู้ต้องขังไม่ให้รับฟังข่าวมูลข่าวสารภายนอก พอพ้นโทษไปก็ปรับตัวไม่ได้ ไม่ได้พัฒนาตัวเอง ต้องกลับมาติดคุกใหม่ ขอเสนอแนะให้นักโทษ 2 แสนกว่าคน สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้เหมือนประเทศอื่นๆ

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงว่า นายประสิทธิ์เป็นผู้ต้องขังอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.2564 รวม 1 ปี 7 เดือน มาขึ้นศาลเป็นร้อยครั้งแล้ว วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำตัวนายประสิทธิ์มาที่ศาลอาญา เวลา 9.00 น. มาอยู่ที่ห้องชั้นล่างศาลอาญา มีห้องน้ำเฉพาะของนักโทษ แต่นายประสิทธิ์ไม่ใช้ห้องน้ำชั้นล่าง กระทั่งนำตัวนายประสิทธิ์ไปที่ห้องพิจารณาคดี ชั้น9 ระหว่างอยู่ในห้องพิจารณาคดี นายประสิทธิ์ขออนุญาตเข้าห้องน้ำชั้น9 และเกิดเหตุเปลี่ยนชุดหลบหนี ผู้คุมก็ไม่ได้สังเกตเป็นนายประสิทธิ์หรือไม่ เพราะปลอมแปลงตัว เมื่อเข้าไปห้องน้ำไม่เจอตัว จึงวิ่งติดตาม

 

วันดังกล่าวมีผู้ต้องขังมาขึ้นศาล 99 คน การดำเนินการบางอย่างอาจไม่เคร่งครัด ส่วนกุญแจที่นายประสิทธิ์ไขหลบหนีนั้น เนื่องจากเมื่อนำตัวนายประสิทธิ์มาถึงแดนควบคุมกลาง เพื่อเตรียมติดเครื่องพันธนาการ จะมีที่เก็บกุญแจโดยเฉพาะ นายประสิทธิมาขึ้นศาลเป็นร้อยครั้ง จึงทราบว่ากุญแจแขวนตรงไหน ช่วงที่ผู้คุมเผลอ จึงแอบหยิบกุญแจไป แม้จะติดเครื่องพันธนาการ แต่ก็แอบไปไขกุญแจออก เรื่องสถิติผู้ต้องขังหลบหนี  ร้อยละ 99.99 สามารถตามกลับมาได้หมด

 

ยืนยันดูแลผู้ต้องขังเท่าเทียมกัน ไม่มีเลือกที่รักมักที่ชัง ดูแลใครเป็นพิเศษ เรื่องที่ผู้ต้องขังได้ค่าแรงทำงานเดือนละ 80 บาท ขอให้ส่งข้อมูลมาจะตรวจสอบให้ ขณะที่เสรีภาพผู้ต้องขังอยากให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น  ถ้าให้ไปใช้สิทธิได้ ตนคงได้คะแนนเยอะ เพราะดูแลผู้ถูกคุมขังอย่างดี แต่คิดว่ายังทำไม่ทัน ส่วนผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะนี้สอบสวนอยู่ในวันสุดท้าย ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จึงยังไม่มีรายงานถึงตน แต่ใครทำผิดต้องว่าไปตามผิด