
'นันทิวัฒน์' ชี้ภูมิภาคอาเซียนเป็นพื้นที่ช่วงชิงของมหาอำนาจ การสู้รบใน'เมียนมา'ส่งผลกระทบต่อคนไทยตามแนวชายแดนเดือดร้อน ลั่นอย่าผลักเพื่อนเป็นศัตรู เผยการพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการบรรยากาศดีมาก
23มิ.ย.2566-นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก หัวข้อ อย่าผลักเพื่อนเป็นศัตรู มีเนื้อหาดังนี้
ไทยกับเมียนมามีพรมแดนติดต่อกันและไม่สามารถยกประเทศหนีกันไปไหนได้ ต้องอยู่กันไปแบบนี้. ต้องถามตัวเองว่า. อยากมีเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน. พูดจากันได้ หรือจะอยู่กันแบบไม่เป็นมิตร. ไม่พูดไม่จากัน. ต้องคอยหวาดระแวงกันตลอดเวลา. ชอบแบบนั้นหรือ
ในอดีตไทยกับพม่าเคยรบรากันมาตลอดในประวัติศาสตร์ของทั้งสองชาติ. น่าจะพอแล้วมั้ง
นายอาลี. อาลาตัช. อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียที่มีชื่อเสียงและเป็นผู้อาวุโสในเกมการเมืองระหว่างประเทศ ได้เคยกล่าวไว้ว่า ภายใต้คำประกาศกรุงเทพ 1967 Bangkok Declaration อาเซียนจะรับผิดชอบร่วมกันเพื่อความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้
อาเซียนมีกำเนิดจากความขัดแย้งของมหาอำนาจและสงครามเย็น ดังนั้น อาเซียนต้องสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่งคั่ง คำประกาศของอาเซียน Asean Declaration คือ ภูมิภาคแห่งสันติภาพ เสรีภาพและเป็นกลาง. รวมทั้ง การก่อตั้ง ARF. Asian Regional Forum เพื่อให้เป็นเวทีของการสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก.
คำกล่าวของนายอาลี อาลาตัชนี้. น่าจะช่วยเตือนสติและสะท้อนแนวความคิดของผู้นำในอดีตที่ผ่านความขัดแย้งในภูมิภาคระหว่างสมาชิกและความขัดแย้งภายในของประเทศสมาชิก
ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีการเจรจา ปฏิเสธการพูดคุย
วันนี้ สมาชิกอาเซียนอาจจะมีแนวความคิดในการผูกสัมผัสกับเมียนมาที่ไม่สอดคล้องต้องกันมากนัก บางประเทศอาจต้องการใช้ไม้แข็งกับรัฐบาลทหารเมียนมา ด้วยการกีดกันรัฐบาลทหารเมียนมาออกจากกิจกรรมต่างๆของอาเซียน ไม่สนใจที่จะรับฟังข้อมูลใหม่ๆของเมียนมา แต่กลับสนใจทึ่จะผูกสัมพันธ์กับกลุ่ม NUG และสนับสนุนกองกำลัง PDF.
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภูมิภาคนี้ตกอยู่ภายใต้การแข่งขัน และเป็นพื้นที่ช่วงชิงของมหาอำนาจ แนวทางเก่าๆที่เคยทำกันมาในอดีตกำลังย้อนกลับมาใช้อีก
ประเทศไทยเลิกนโยบายสร้างพื้นที่กันชน Buffer Zone ในประเทศเพื่อนบ้านมา 40 ปีมาแล้ว. และไม่เคยประสบความสำเร็จ หวังว่าจะไม่มีการเดินย่ำรอยความล้มเหลวเดิมๆ
การสู้รบในเมียนมาส่งผลกระทบโดยตรงต่อไทย ผู้ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ คนไทยตามแนวชายแดนเดือดร้อน เมื่อมีการสู้รบ. กลุ่มต่างๆต้องหาเงินเพื่อซื้ออาวุธ
ปัญหาที่ติดตามมาคือ การลักลอบส่งอาวุธเข้าไปให้กลุ่มตรงข้ามกับรัฐบาล เกิดการค้าอาวุธสงคราม ค้ายาเสพติดเพื่อหารายได้ อาชญากรรมใหม่ call center ที่อยู่ในพื้นที่ของกลุ่มตรงข้ามรัฐบาลเมียนมา ที่สร้างความเดือดร้อนทั้งในไทยและภูมิภาค
การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ อยากจะเล่าว่า ดำเนินไปภายใต้บรรยากาศที่ดีมาก ต่างฝ่ายต่างรับฟังซึ่งกันและกันเพียงแต่เอามาเล่าไม่ได้ว่าใครพูดว่าอะไรบ้าง ด้วยหลักการ Chatham House Rule ที่จะไม่เปืดเผยผลการหารือให้คนนอกทราบ
แต่พูดได้ว่า ผลการพูดคุยดีมาก รอดูความคืบหน้า
รัฐบาลต้องห่วงผลประโยชน์และความมั่นคงของไทยเหนือสื่งอื่นใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เตือน อย่าทำตัวเป็น running dog ไทยมีอิสระในการดำเนินนโยบาย
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' เตือน อย่าทำตัวเป็น running dog ไทยเป็นเอกราชไม่ใช่อาณานิคมมีอิสระในการดำเนินนโยบาย ไม่ต้องรายงาน-ขออนุญาตประเทศใด การระงับความตกลงกับเพื่อนบ้านเป็นสิทธิอันชอบธรรม ต้องถ่วงดุลอำนาจไม่ผูกพันฝ่ายใด
ยังไม่พอ 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ลั่นต้องยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง ไฟเขียวทหารใช้กำลังจัดการกัมพูชา
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า แค่นี้ยังไม่พอ
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ท้า 'ฮุนเซน' เปิดให้หมดนักการเมือง-ทหารไทยเอี่ยวธุรกิจสีเทาในเขมร
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า
อดีตบิ๊กข่าวกรอง ตั้งคำถาม 'ตาควาย' จะได้คืนไหม
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' กังขา 'ข้อตกลงสันติภาพ-คำพูดนายกฯ' เตือนเขมรเคลมแผ่นดินไทยทุกจุด
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า สันติภาพ ? นายกหนูไปลงนามสันติภาพกับผู้นำเขมร
พายเรือในอ่าง 'อดีตบิ๊กข่าวกรอง' ย้อนถามควรดีใจกับผลการประชุม 'จีบีซี' ไหม แทนที่จะกดดันได้มากกว่านี้
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความว่า


