
10 ก.ค. 2566 – รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เราจะได้รู้ว่าการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรีจะเป็นแบบม้วนเดียวจบ หรือจะต้องเลือกกันหลายครั้ง ซึ่งก็ยังไม่มีใครคาดได้แบบ 100% ว่าคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้คะแนนเสียงจากทั้ง 2 สภารวมกันเกินกว่า 375 เสียงหรือไม่ ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรในอนาคต สถาบันพระมหกษัตริย์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจะมีกาารพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับการลงคะแนนเสียงของรัฐสภาในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.ค. นี้
น่าหนักใจแทนสมาชิวุฒิสภาทุกคนที่กำลังถูกกดดันอย่างหนัก ด้วยเหตุผลว่า พรรคก้าวไกลได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง 14 ล้านเสียง ดังนั้นจะต้องเคารพเสียงของประชาชน แน่นอนว่าเป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลที่จะเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนให้คุณพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิทธิของสมาชิกวุฒิสภาที่จะลงคะแนนให้หรือไม่ก็ได้ และกติกานี้ไม่ว่าจะโจมตีกันอย่างไร ก็เป็นกติกาที่ทุกคนทราบล่วงหน้าอยู่แล้วก่อนตัดสินใจเข้าสู่สนามแข่งขันทางการเมือง ดังนั้นเมื่อตัดสินใจลงสนามแข่งขันก็ต้องยอมรับในกติกานี้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องไม่ลงแข่งขันตั้งแต่แรก
ผู้สื่อข่าวตั้งคำถามกับคุณพิธา เรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังพิจารณาเรื่องการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีถือหุ้น itv ว่าจะทำให้การเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือไม่ คุณพิธาตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด และพร้อมที่จะต่อสู้และชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ
น่าแปลกใจว่าทำไมสื่อมวลชนสนใจกรณีการถือหุ้น itv ของคุณพิธา แต่ไม่ค่อยจะสนใจประเด็นเรื่องจริยธรรมสักเท่าใด กรณีปล่อยเงินกู้ 117 ล้าน ของบริษัท oil for life ให้กับบุคคลที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อในขณะที่คุณพิธาเป็นผู้บริหาร โดยไม่มีดอกเบี้ย และไม่มีการทวงถามให้ใช้คืน แต่กลับตัดเป็นหนี้สูญ กรณียอดขายที่เพิ่มขึ้นมากอย่างผิดปกติใน 5 ปี และกลับลดลงจนขาดทุน การที่บริษัท otava holdings จดทะเบียน 0yf ตั้งบริษัทที่สิงคโปร์เพียง 11 วัน ก็เข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท oil for life เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 การยื่นบัญชีทรัพย์สินของคุณพิธาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีความไม่ปกติ การขายที่ดินที่ปราณบุรีที่ต่ำกว่าราคาประเมินและตำกว่าราคาที่ประมาณไว้ในบัญขีทรัพย์สินกว่าครี่ง
ทั้งหมดข้างต้นล้วนเป็นเรื่องที่น่ากังขาที่คนที่กำลังจะได้รับการลงคะแนนเสียงให้เป็นนายกรัฐมนตรีควรต้องชี้แจง แต่กลับไม่มีการชี้แจงแต่อย่างใดทั้งสิ้น เอาแต่เรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนตามเสียงประชาชน หากคุณพิธามีปัญหาเรื่องจริยธรรมจริง สมาชิกวุฒิสภาก็ยังต้องลงคะแนนให้คุณพิธาด้วยเหตุผลว่าได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนมา 14 ล้านเสียงหรือ
ถ้าแน่จริง ขอเพียงชี้แจงเรื่องเดียวก็ได้ นั่นคือ ชื่อของคนที่ได้รับเงินกู้ 117 ล้านไปจากบริษัท oil for life คุณพิธากล้าหรือไม่ หากไม่กล้าก็อย่าได้โวยวายหากได้เสียงจากสมาชิกวุฒิสภาไม่เพียงพอที่จะเป็นายกรัฐมนตรี เพราะ ส.ว. เขาย่อมต้องใช้ดุลพินิจเพื่อลงคะแนนให้ผู้ที่เหมาะสมที่สุด และปราศจากข้อสงสัยเรื่องจริยธรรม เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะนั่นคือหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภาทุกคน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เทพไท' ชี้ สส.ปูอัด บทเรียนพรรคส้ม
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “สส.ปูอัด : บทเรียนของพรรคส้ม” ระบุว่าผมเห็นข่าวศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับ
'พริษฐ์' นับถอยหลัง 7 วันรอดูความเป็นผู้นำของอุ๊งอิ๊งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ!
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)
ศาลรธน. อนุญาต 'สว.สมชาย เล่งหลัก' ขยายเวลาชี้แจง หลังถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ส่งคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยกรณีนายสมชาย เล่งหลัก สมาชิกวุฒิสภา ผู้ถูกร้อง ต้องคำพิพากษาศาลฎีกาที่
'จิรายุ' เปิดภารกิจ 'นายกฯ อิ๊งค์' เยือนจีน
นายกฯ ออกเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการ พร้อมปฏิบัติภารกิจ เดินหน้าสานสัมพันธ์ผลักดันการแก้ปัญหาในทุกมิติ พร้อมลงนามข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ
'นายกฯ อิ๊งค์' ถาม 'อนุทิน' ปมตัดไฟฟ้าต่อหน้าสื่อก่อนบินไปจีน
'นายกฯ อิ๊งค์' ถามปมตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 'อนุทิน' รายงานเรียบร้อยดี ก่อนยกคณะบินจีน
'เทพไท' เคาะ 3 คำถามปมเลือกตั้ง อบจ.เพื่อถอดบทเรียน
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก