
18 ก.ค.2566- ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 17 ก.ค. นายเศวต ทินกูล อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 (ส.ส.ร.ฯ) นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นต่อ นายสมพจน์ แพ่งประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม เพื่อกล่าวหาสมาชิกวุฒิสภา(สว.) จำนวน 43 คน ทุจริตต่อหน้าที่ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทยและประชาชน โดยเนื้อหาระบุว่าเป็นการเจตนาจงใจ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง
สืบเนื่องจากวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา มีการประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ปรากฏว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.)จำนวน 43 คน ไม่เข้าร่วมประชุม โดยไม่มีเหตุอันควร และมิได้แจ้งเหตุของการขาดประชุมให้ประธานรัฐสภาทราบ ถือว่าเป็นเจตนาจงใจ ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 อันเป็นกฎหมายสูงสุด จึงได้เข้ายื่นหนังสือกล่าวหา สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 43 คน ให้ ทาง ป.ป.ช. พิจารณา ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
โดยนายเศวตเน้นย้ำ ว่า การออกมายื่นหนังสือกล่าวหาดังกล่าว ไม่ได้สนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แต่เป็นหน้าที่ของประชาชน และกระทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประเทศชาติบ้านเมือง และความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทย รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
ทางด้าน นายสมพจน์ แพ่งประสิทธิ์ ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม ก็จะได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อ ป.ป.ช. กลาง พิจารณา ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป เนื่องจากเป็นการกล่าวหา ข้าราชการระดับสูงเกินอำนาจหน้าที่ ของ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครพนม จึงต้องเสนอตามขั้นตอนต่อไป
นายเศวต ทินกูล อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 เปิดเผยว่า ในการออกมายื่นหนังสือกล่าวหา สมาชิกวุฒิสภา ทั้ง 43 คน ครั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นด้อมส้ม หรือเป็นคนของพรรคการเมืองใด และไม่ได้หวังประโยชน์ทางการเมือง แต่อยากให้สมาชิกวุฒิสภา ที่จงใจไม่เข้าร่วมประชุมรัฐสภา สำนึกในอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่เป็นกฎหมายสูงสุด เนื่องจากมั่นใจว่า การกระทำดังกล่าว มีเจตนาจงใจ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยทุจริตต่อหน้าที่ แสวงหาผลประโยชน์แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด หรือพรรคการเมืองหนึ่งการเมืองใด เพื่อให้เป็นหรือไม่เป็นนายกรัฐมนตรี โดยวิธีไม่มาประชุมหรือขาดประชุมสมาชิกวุฒิสภา โดยไม่มีเหตุอันควร เป็นเหตุให้ไม่สามารถเห็นชอบผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
นอกจากนี้ทำให้ประเทศไทยและประชาชนคนไทย ทั้งประเทศได้รับความเสียหาย โดยมิอาจมีนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศ ตามความต้องการของประชาชน พร้อมฝากเตือนว่า ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่จะถึง ในการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา ทุกคนจะต้องเข้าร่วมประชุม และทำหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ หากไม่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย เจอกันแน่ ตนจะทำหน้าที่ในฐานะประชาชน ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับทุกคน ที่ไม่เห็นความสำคัญของกฎหมายรัฐธรรมนูญ และไม่เห็นแก่ประเทศชาติ รวมถึงประชาชนเป็นสำคัญ ยืนยันหากใครกระทำผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีถึงขั้นติดคุกแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คดีค้างอื้อ! เบรกสว.สีน้ำเงินลงมติห็นชอบ ชี้ขัดกันแห่งผลประโยชน์
สว.อิสระค้าน พุธนี้สภาสูงลงมติเห็นชอบป.ป.ช.-ตั้งกมธ.สอบประวัติว่าที่กกต. ยกเหตุเพื่อป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หลังสว.เกินครึ่งมีเรื่องค้างที่ตึกป.ป.ช.-กกต.
สภาสูงโหวต ป.ป.ช.ใหม่ 2 ชื่อพุธนี้ วัดใจ 'สว.สีน้ำเงิน' ชี้รอดหรือร่วง
สภาสูงโหวต ป.ป.ช.ใหม่สองชื่อพุธนี้ วัดใจ สว.สีน้ำเงิน ให้ผ่านหรือตีตก สองบิ๊กตุลาการ พ่วงตั้งกมธ.สอบประวัติฯ ว่าที่กกต.ใหม่สองคน พบแบ็คกราวด์ไม่ธรรมดา แน่นปึ๊กสีน้ำเงิน
ดีเอสไอ สรุปสำนวนคดีคุกวีไอพีจีนเทา ส่ง ป.ป.ช. เชือด ’ผบ.เรือนจำ’ ม.157 - ค้าประเวณี
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 พ.ย. เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีความมั่นคง คณะกรรมการตรวจสอบข้
‘เพจด้อมส้ม’ เพ้อหนัก! อ้างโพลเลือกตั้ง 69 ของ 4 สำนักข่าว ‘พรรคส้ม’ ชนะขาด ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เลย
เพจ พรรคประชาชน - People's Party ซึ่งเป็นเพจของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชน โพสต์แบนเนอร์อ้างเป็นโพลเลือกตั้ง 69 จาก 4 สำ
ปชน. ยื่นซักฟอก หลังแพ้โหวตคงอำนาจ สว. 1 ใน 3 แก้ รธน.
บรรยากาศจากอาคารรัฐสภา ว่า ภายหลังจากการโหวต มาตรา 256/28 ที่ประชุมรัฐสภามีมติไม่เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก ในการใช้เสียงกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา เห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ
'ณัฐพงษ์' เรียกร้องนายกฯ ยุบสภา โวยภูมิใจไทยบิดพลิ้ว ปมตัดเสียง สว. 1 ใน 3 โหวตแก้ รธน.
ยืดเยื้อ! หลังที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีเสียงห่างไม่เกิน 30 จนต้องนับใหม่แบบขานชื่อ! "ณัฐพงษ์" ขอตัดอำนาจเสียง สว. 1 ใน 3 ชี้ หากไม่เห็นด้วย คงยอมให้ไปถึงวาระ 3 ไม่ได้ เรียกร้องนายกฯ ต้องยุบสภา ซัด ที่ผ่านมามีความจริงใจจริงหรือไม่

