ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสน 'หมอเหรียญทอง' โพสต์หมิ่นประมาท 'สิระ'

ศาลพิพากษาจำคุก“หมอเหรียญทอง” 2 ปี ปรับเงิน 2 แสนบาท โพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นประมาท “สิระ เจนจาคะ”พาดพิงเป็นนักการเมืองไม่ดี ขัดขวางผู้ป่วยช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

19 ก.ค.2566 - ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1015/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ และนายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามมาตรา 328 ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ

โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2564 เวลากลางวัน และเวลากลางคืน จำเลยใช้ชื่อบัญชีเฟซบุ๊กว่า “เหรียญทอง แน่นหนา” ได้โพสต์ข้อความทำนองว่า การที่ ส.ส. สิระ เจนจาคะ ผู้แทนเขตหลักสี่และสำนักงานเขตหลักสี่ ร่วมกันปิดทางเข้ารพ.สนามพลังแผ่นดิน เป็นการขัดขวางการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 และดูหมิ่นผู้เสียหายด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นนักการเมืองที่มีพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่เหมาะสม ลงในเฟซบุ๊ก (facebook) ซึ่งตั้งค่าระบบเป็นสาธารณะเพื่อให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และเมื่อได้อ่านข้อความดังกล่าวอาจเข้าใจว่า เป็นข้าราชการและนักการเมืองที่มีพฤติการณ์ไม่ดี ทำให้ได้รับความอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.

โดยวันนี้ นพ.เหรียญทองพร้อมทนายความ จำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษา
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าจำเลยย่อมทราบว่า การไปตรวจสถานที่ดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เขตหลักสี่และนายสิระ โจทก์ร่วม เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน จำเลยสามารถอธิบายข้อเท็จจริงให้ฟังเท่านั้นก็ได้ แต่กลับไปโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งไม่ใช่การแสดงความคิดเห็น หรือติชมด้วยความเป็นธรรม เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม ซึ่งขณะนั้นเป็นคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ส่วนจำเลยเป็นบุคคลสาธารณะ มีผู้ติดตามบัญชีเฟซบุ๊กจำเลยจำนวนมาก การที่จำเลยโพสต์ข้อความกล่าวถึงโจทก์ร่วมย่อมเป็นที่กระจายไปสู่วงกว้างและย่อมเป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของโจทก์ร่วม การกำหนดค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดย สถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 วรรคหนึ่ง จึงเห็นควรกำหนดให้บางส่วน ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในส่วนนี้เป็นเงิน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี

พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จำคุกกระทงละ 1 ปี และปรับ 100,000 บาท รวม 2 กระทง คงจำคุก 2 ปี และปรับ 200,000 บาท เมื่อพิเคราะห์ถึงการกระทำของจำเลยแล้วมีความมุ่งหมายที่จะช่วยเหลือประชาชนและจำเลยประกอบคุณงามความดีแก่สังคม โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี โดยให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมเป็นเงิน 200,000 บาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งามไส้! คุก 2 เดือน 'ลูก รมต.' เมาขับฝ่าด่าน

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลเเขวง 1

ลุ้น! 26 มี.ค.ศาลนัดพิพากษาคดี ’ทักษิณ’ ฟ้อง ‘ชวน’ หมิ่นประมาท ปมแก้ปัญหาชายแดนใต้

26 มีนาคม 67 นัด พิพากษา คดีอาญาที่ นายทักษิณ ชินวัตร ฟ้อง นายชวน หลีกภัย ข้อหาหมิ่นประมาท ต่อกรณีที่นายชวน หลีกภัย ได้บรรยายที่โรงเรียนการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ.2555 โดยได้กล่าวถึงนโยบายการแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในสมัยรัฐบาลทักษิณ

คุกอ่วม 468 ปี 'อดีตพระอาจารย์คม' ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี กว่า 300 ล้าน

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบรางรถไฟ ศาลอ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 ยื่นฟ้อง นายคมฯ หรือ พระอาจารย์คมอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี กับพวกรวม9 คนเป็นจำเลย

คุกอ่วม! แก๊งนำเข้า-ส่งออกตัวอ่อนให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอุ้มบุญข้ามชาติ หมายเลขดำ อ.1172/2563 ที่พนักงานอัยการฝ่าย