'จตุพร' ย้ำไม่มีใครได้รับแจกเงินดิจิทัล เชื่อทำไม่สำเร็จ ถูกแรงต้านกระพือโหมรุมขวาง จับตา 'นช.ทักษิณ' กลับบ้าน ธ.ค. กระทบ 'เศรษฐา' ถูกเด้งตายไปพร้อมกับเงินดิจิทัล ถามนายกฯ ทำไมหมูเถื่อนราคาถูกกว่าหมูในประเทศ
17 พ.ย. 2566 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้มุ่งหวังให้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเกิดความสำเร็จ เพียงแสดงความพยายามจะทำให้ประจักษ์ว่าได้ทำจริงเท่านั้น แต่ยังทำไม่ตรงปกตามสัญญาขอคะแนนเสียงจากประชาชน
“ผมไม่ขวางแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยยืนยันทำได้ ก็ให้รีบทำ อยากรู้จะทำได้สำเร็จได้จริงหรือไม่ อย่าเอาแต่ปลุกปั่นถูกคนอื่นขัดขวาง” นายจตุพร ระบุ
นายจตุพร ย้ำว่า สิ่งสำคัญ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศโครงการนี้ไม่มีกู้เงินมาแจกคนละหมื่นบาทจำนวนการแจกขณะประกาศหาเสียงไว้ คือ 56 ล้านคน เป็นเงิน 5.6 แสนล้านบาท อีกทั้งยังรายงานการเสนอโครงการต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า จะบริหารจัดการการใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินเพื่อนำมาแจก
“ถึงที่สุดต้องมาเปลี่ยนเป็นออก พรบ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จึงเป็นการรายงานเท็จ ผิดสัจจะ และฝ่าฝืนกฎหมายวินัยการเงินการคลังตาม ม. 53 ซึ่งระบุให้กู้เงินนอกงบประมาณได้เมื่อเกิดกรณีเร่งด่วน จำเป็นต่อเนื่อง และไม่สามารถตั้งไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน หากจะแก้กฎหมายเพื่อเอื้อให้รัฐบาลกู้เงินได้ตาม ม.53 แล้ว คงเป็นเรื่องยากที่จะเป็นจริงได้”
นายจตุพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำโครงการดิจิทัลไม่สำเร็จ อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลมีท่าทีเก็บซ่อนการหนุนไว้อย่างเต็มที่และชัดเจน ถ้าโครงการนี้เข้า ครม.อาจเกิดรอยปริแยกขึ้นทันที ทั้งนี้ต้องจับตาการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 12 ก่อน จะส่งสัญญาณรอด หรือ ร่วงให้เห็นเป็นเบื้องต้น
ส่วนกรณี นช.ทักษิณ ชินวัตร พักอยู่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ไม่ยอมกลับไปติดคุกสักวัน นายจตุพร กล่าวว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วทักษิณ จะได้กลับบ้านใน ธ.ค.นี้ เพราะผู้ใหญ่คืนดีกันแล้วจึงยุติปัญหาบาดหมางกันไป
อีกทั้ง เมื่อพิจารณาการได้รับพระราชทานลดโทษจาก 8 ปีเหลือ 1 ปี แต่โทษที่เหลือยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย ดังนั้นจากนี้ไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็เรียบร้อย คงถูกปล่อยตัวพ้นโทษได้กลับไปอยู่ตัวเองแล้วค่อนข้างแน่นอน
"เมื่อทักษิณกลับไปอยู่บ้าน เรื่องโครงการดิจิทัลแจกเงินหมื่นคงจบลง โดยไม่มีใครได้เงินแจกสักคน และส่อจะล้มเลิกไปพร้อมกับนายเศรษฐา ที่ถูกให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ เช่นกัน ซึ่งพูดได้ชัดๆว่า โครงการดิจิทัลคงตายไปพร้อมกับนายเศรษฐา พ้นจากนายกฯ”
นายจตุพร กล่าวถึงนายเศรษฐา พูดดุดันใส่เจ้าหน้าที่ปราบหมูเถื่อนจากต่างประเทศได้ช้า ว่า นายกฯ ไม่สงสัยเลยหรือ เมื่อหมูเถื่อนมาจากต่างประเทศข้ามน้ำทะเลมาไกลจากทวีปยุโรป ส่งมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ก็มี เข้ามาไทยกลับขายถูกกว่าราคาหมูที่ผลิตที่ในไทยด้วยซ้ำ แล้วยังได้กำไรอีกมากจนแจกจ่ายประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่ได้
“นายกฯ ไม่สงสัยเลยเหรอว่า ราคาหมูเถื่อนทำไมถูกกว่าหมูในประเทศ เป็นเพราะอะไร ทำไมไม่แก้ไขให้เกิดความเป็นธรรมกับคนไทยเพื่อให้ได้ซื้อหมูในราคาถูก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับตาอาจมีการแจ้งจับ 'บิ๊กโม่ง' ก้าวก่ายแทรกแซงป.ป.ช.ไต่สวน ป่วยทิพย์ชั้น 14
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า เรื่องแปลกแต่จริงของประเทศไทย ตามข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบไต่สวน กรณีป่วยทิพย์ชั้น 14
'คำนูณ' เตือนอย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย! ชี้ไทยไม่รับอำนาจศาลโลกมา 64 ปีแล้ว
นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก
'โรม' สุดต้าน 'พท.' แก้เกมดึงเช็งถกลับปมชั้น 14 ไร้เงา 'ทักษิณ' ลงรับหนังสือแต่ไม่ตอบกลับ
'โรม' สุดต้าน 'เพื่อไทย' แก้เกม ดึงเช็งถกลับปมชั้น 14 บอกให้หารือขอบเขตอำนาจหน้าที่ กมธ.ก่อน หลัง 'กรมราชทัณฑ์' ติงไร้อำนาจสอบ หวั่น ผิดจริยธรรมยกคณะ ทำ 'ทวี' ต้องนั่งรอไปก่อน ขณะที่ไร้เงา 'ทักษิณ' ลงรับหนังสือแต่ไม่ตอบกลับ
'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง
'รังสิมันต์' ลั่นกมธ.มั่นคงฯมีอำนาจตรวจสอบเทวดาชั้น 14 ยันไม่ซ้ำซ้อนคณะอื่น รับทำงานลำบากหน่วยงานไม่ให้ข้อมูล ท้า 'ทักษิณ' บริสุทธิ์จริงต้องมาชี้แจง วอนขรก.น้ำดีหากพบพิรุธส่งมาให้กมธ.
อดีตรองผู้ว่าฯ สุดทน 'ทักษิณ' สำราก 'กฎหมายเฮงซวย' ยุดำเนินคดี ละเมิดพระราชอำนาจ
นายสมโภช โชติชูช่วง อดีตรองผู้ว่าราขการจังหวัดกระบี่ โพสต์ข้อความถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี ว่า
กระตุกแพทยสภาสอบจริยธรรมแพทย์เอื้อประโยชน์นช.ทักษิณ ชั้น14 น่าจะได้ข้อสรุปแล้ว
อดีตเลขาธิการแพทยสภาท่านหนึ่ง ให้ความเห็นถึงกรณีมีการร้องแพทยสภาให้สอบสวนเรื่องดังกล่าว ว่า กระบวนการพิจารณาจริยธรรมของแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภานั้นน่าจะได้ข้อสรุปแล้ว