นายกฯแพทองธาร ลงนามคำสั่งแรก ตั้ง คอส.-ศปช. แก้อุทกภัย วาตภัย ดินโคลนถล่ม

16 ก.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2567 เรื่องแต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) มีเนื้อหาสรุปว่า

ขณะนี้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม พื้นที่หลายจังหวัดเพื่อให้การอำนวยการดำเนินไปอย่างเป็นระบบ อาศัยอำนาจตามมาตรา 11(6)และ(9) แห่งพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน จึงให้มี คอส. มีนายกฯเป็นประธาน รองประธานประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ขณะที่กรรมการจะมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เช่น รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.สาธารณสุข มีหน้าที่และอำนาจในการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม รวมถึงเตรียมความพร้อมติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ ช่วยเหลือเยียวยา และฟื้นฟูบูรณะภายหลังเกิดภัย พร้อมทั้งศูนย์ ศปช. มีนายภูมิธรรม เป็นผู้อำนายการศูนย์ มีนายอนุทิน นายสุริยะ นายประเสริฐ เป็นรองผู้อำนวยการ มีหน้าที่เป็นหน่วยบัญชาการที่บูรณาการหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อำนวยการและปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแบบเบ็ดเสร็จ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดิจิทัล วอร์รูม เตือนภัยฝ่าน้ำท่วม-ดินโคลนถล่ม

ภาคเหนือเผชิญอุทกภัยรุนแรง โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย น้ำท่วมตัวเมือง มีน้ำป่าไหลทะลักลงตามแม่น้ำสาย ทำให้บ้านเรือน ร้านค้า ตลาดสด พื้นที่เกษตรที่ติดลำน้ำสายได้รับความเสียหายอย่างหนัก ปัจจุบันแม้น้ำแห้งแล้วแต่ประชาชนยังจมโคลนจมฝุ่นต้องการการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาจากปัญหาที่น้ำท่วมได้ทิ้งไว้ตามบ้านเรือนของประชาชนและสถานที่ต่างๆ  

นายกฯ กำชับ ผบ.ตร. ติดตามคดี 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ให้เป็นบรรทัดฐานแก้ปัญหา

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ภายหลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

'แพทองธาร' หารือทวิภาคีนายกฯออสเตรเลีย ชม 'หมูเด้ง' ช่วยดึงดูดการท่องเที่ยว

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการหารือว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ไทยจะสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกันในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ตามแนวทางการทูตทางเศรษฐกิจเชิงรุกของไทย