เลขาครป. จี้ 'บิ๊กตู่' แถลงข้อเจรจาก่อนไปซาอุฯ เตือนหยุดการทูตสองหน้า

“เลขา ครป.”  ชี้จุดยืนบิ๊กตู่ แถลงข้อเจรจาก่อนไปซาอุฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178  เตือนยุตินโยบายต่างประเทศแบบหน้าไหว้หลังหลอก การทูตสองหน้า  ต้องยืนความเป็นกลางการเมือง ปกป้องสันติภาพ – ประชาธิปไตย

23 ม.ค.2565 – นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึง กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปราชการที่ประเทศซาอุฯ คืนวันพรุ่งนี้ว่า ก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ ขอให้ได้กลับมาและไม่โดนรัฐประหารซ้ำรอยอดีตนายกฯ ที่ผ่านมา แต่ข้อราชการใดที่ไปติดต่อกับต่างประเทศ ควรแถลงต่อสาธารณะและถ้ามีพันธะสัญญาระหว่างประเทศให้นำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาให้เห็นชอบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ด้วย เดี๋ยวจะกระทำผิดรัฐธรรมนูญซ้ำซ้อนเหมือนที่ผ่านมา

นายเมธา กล่าวว่า สถานการณ์ของประเทศไทยบนความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจจีน รัสเซียและสหรัฐฯ นั้น มีความสุ่มเสี่ยงทางนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก หากรัฐบาลชุดนี้ดำเนินการทางการทูตแบบหน้าไหว้หลังหลอกหรือทำการทูตสองหน้า จะกลายเป็นความไม่จริงใจต่อมิตรประเทศและสันติภาพโลก ประเทศไทยควรดำเนินนโยบายเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศเหมือนเช่นที่ผ่านมา มีจุดยืนสนับสนุนสันติภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความมั่นคงในภูมิภาพ ไม่ใช่กลางวันส่งเสบียงไปช่วยรัฐบาลมินอ่องหล่ายเอาใจจีน แต่กลางคืนให้เครื่องบินปฏิบัติการพิเศษจากสหรัฐฯ ขึ้นลงที่เชียงใหม่ การสนับสนุนให้เกิดสงครามกลางเมือง แทนที่จะปกป้องสันติภาพและประชาธิปไตยในนามประชาคมอาเซียน รวมถึงความคลุมเครือกรณี นโยบายเหล่านี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งสำหรับความมั่นคงไทยที่ไม่มีจุดยืนที่เป็นกลางพอ เพื่อจะต่อรองผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง

“เป็นที่ชัดเจนว่าฮุนเซนไปพม่าเนื่องจากผลประโยชน์ร่วมกับจีน ขณะที่ประยุทธ์จะไปซาอุฯ ก็ขอให้แถลงให้ชัดเจนว่าจะไปเจรจาเรื่องน้ำมัน-พลังงาน หรือปัญหาแรงงานอะไรที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์หรือจะได้รับผลกระทบอย่างไร เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ขาดช่วงไปในยุคที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไม่มีความชัดเจนในนโยบายต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกิดความรุนแรงในพม่า ทั้งยังไม่ได้ประกาศยกเลิกการฝึกคอบร้าโกลด์ 2022 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2565 แม้ว่าสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลายนั้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ขณะที่สหรัฐฯ ประกาศนโยบายปิดล้อมจีนและความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ที่เต็มไปด้วยเรือรบระหว่างประเทศ การฝึกคอบร้าโกลด์ก็จะกลายเป็นเครื่องมือแสดงแสนยานุภาพและข่มขวัญอีกฝ่ายหนึ่งไปในตัว และไทยจะสูญเสียจุดยืนความเป็นกลางในการต่อรองมหาอำนาจ” นายเมธา ระบุ . 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โต๊ะเล็กช้างศึก' ไล่อัด 'เมียนมา' 5-0 การันตีเข้ารอบ 8 ทีม ฟุตซอลเอเชีย

ฟุตซอลไทย อีกก้าวเดียว ได้ไปฟุตซอลโลก2024 หลังถล่ม เมียนมา 5-0 "เทพอาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง เทพจริงๆ ยิงสอง ผงาดนำดาวซัลโว 3 ประตู การันตีสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เอเอฟซี ฟุตซอล เอเชียนคัพ 2024 เป็นทีมแรก

'อองซาน ซูจี' ย้ายจากเรือนจำมากักบริเวณในบ้าน เหตุเสี่ยงเป็นโรคลมแดด

เมียนมาตกอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารมาตั้งแต่ปี 2021 และอองซาน ซูจี-อดีตหัวหน้ารัฐบาล เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสั

'ธนกร' ซัด 'กัณวีร์-ฝ่ายค้าน' ส่อจุ้นกิจการภายในเมียนมา ระวังคำพูดกระทบความมั่นคง

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายกัณวีร์ สืบแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตัดสินใจแก้ไขปัญหา กรณีการสู้รบในเมียวดี