'โรม' มองดึงเหยื่อแก๊งคอลเข้ามาไทย เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้ เหตุเขารู้เกิดอะไรขึ้น สามารถให้ข้อมูลกับจนท.นำสู่การปราบปรามได้ ชี้แม้เป็นผึ้งแตกรังแต่ควบคุมได้ ลั่นยังจัดการระดับบอสๆ ได้น้อย
26 ก.พ.2568 - นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมผลักดันเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะทะลักเข้ามาในประเทศไทย ว่า ขณะนี้เข้าใจว่าสถานการณ์วิกฤตจริงๆ เพราะมีเหยื่อและอาจจะมีคนที่ร่วมกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ค้างอยู่ประมาณ 7 พันคน การที่ตัวเลขนี้ค้างอยู่ในพื้นที่ของกองกำลังอาจจะทำให้มีปัญหาตามมาว่าการจะไปช่วยเหลือหรือทลายเพิ่มเติมนั้น อาจจะทำให้เกิดความยากลำบากได้ เพราะกองกำลังอาจจะไม่มีศักยภาพพอที่จะดูแลการให้ข้าวให้น้ำให้อาหารทุกอย่างกับบรรดาเหล่านี้ได้เป็นเวลานาน
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การจะดึงเข้ามาในประเทศไทย เราสามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้ หมายความว่าต่อให้เขาเป็นเหยื่อหรืออาชญากร เขาย่อมรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะบางคนอยู่มานาน เขาจึงสามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่รัฐฝั่งไทยได้ว่าใครเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ซึ่งตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ในการที่จะทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเป็นรูปธรรมได้ โดยประเทศไทยเรามีเครื่องมือที่จะสามารถช่วยดูดข้อมูลจากโทรศัพท์ได้ และเราก็อาจจะเสริมทัพโดยการใช้บุคลากรในการสอบถามข้อมูลได้ นี่เป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดในเวลานี้เพื่อนำไปขยายผลปราบปรามจีนเทา ไทยเทาต่อไปได้
“หากเรารีบส่งคนเหล่านี้เร็วเกินไป สุดท้ายก็ไม่มีอะไรการันตีว่าคนเหล่านี้หากเขากลับไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาอีกได้ และไม่มีการการันตีว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะถูกทำลาย อย่าลืมว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้เขาชักจูงกันมา คนที่เป็นเอเยนต์ในการพามาและได้เงินไปแล้วนั้น ตอนนี้เขายังอยู่ในเมืองไทย ยังอยู่เชียงใหม่ ยังอยู่กรุงเทพฯ ยังอยู่ภูเก็ตหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่เราต้องนำไปสู่การสอบสวนต่อไปให้ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากรับเข้ามาแล้วมองว่าจะคุ้มหรือไม่กับข้อมูลที่เราจะได้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากถามตน ตนคิดว่าเมื่อแลกกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชนชาวไทยระยะยาว ก็คุ้ม และเวลาที่เราบอกจะรับเขาเข้ามานั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะอยู่กับเขาเป็นปีๆ แต่ต้องมีการประสานงานกับสถานทูตต่างๆ และส่วนใหญ่จะต้องมีการประสานงานกับทางประเทศจีน ซึ่งจากที่ทราบมาทางรัฐบาลจีนก็พร้อมดูแลคนของเขา แต่ก็อยู่ที่เรา
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หากเขาพร้อมดูแลและใช้เวลาไม่นานเกินไปในการสกรีนคนเหล่านี้ เชื่อว่าก็ไม่ได้ใช้ทรัพยากรมากกับความคุ้มค่าในความปลอดภัยคนไทย และคิดว่าการพูดคุยกับจีนในการเอาข้อมูลชุดนี้ แหล่งข่าวก็บอกว่าทางจีนยินดี ยืนยันว่าจีนไม่ได้มีปัญหา แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไทยไม่ยอมคุยกับจีน อย่างไรก็ตาม เมื่อคนเหล่านี้จะเข้ามายังประเทศไทยก็จะต้องมีการสกรีนคนที่เป็นอาชญากรและเหยื่ออยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามโปรโตคอลของประเทศไทยที่มีอยู่แล้ว ทุกประเทศต้องเคารพ หากไทยไม่ยอมเอาเข้าสู่กระบวนการนี้ ขณะที่ประเทศอื่นเอาเข้า ก็อาจจะเกิดคำถามว่าประเทศไทยปฎิบัติต่อคนประเทศอื่นไม่เท่าเทียมกัน
เมื่อถามว่า หากมีการอพยพเข้ามาจะเป็นเหมือนผึ้งแตกรังหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า คิดว่าเรื่องอพยพอะไรต่างๆ เป็นคนละส่วนกัน หากเป็นเหยื่อเขาก็ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้น หากเราสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าจะมีกระบวนการและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เชื่อว่าแม้เขาจะเป็นผึ้งแตกรังแต่เขาจะเป็นผึ้งแตกรังที่เข้ามาหาเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถควบคุมได้ แม้อาจจะมีบางส่วนที่กลัวจะเป็นอาญา แต่เราน่าจะสามารถบริหารจัดการได้ และไม่ต้องห่วงเพราะวันนี้เรามีผู้หนีภัยจากการสู้รบในเมียนมามาหลักล้าน น่าจะอยู่ในประเทศไทยเป็นหลักล้านแล้ว สเกลมันน้อยกว่าเยอะมาก ซึ่งที่ต้องยาวไปกว่านั้นคือในจำนวนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 7 พันกว่าคนอาจจะเป็นเปอร์เซ็นต์น้อยของจำนวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมด ยืนยันว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ชเวก๊กโกและเคเคปาร์คนั้นอาจจะมีกว่าแสนคน
เมื่อถามว่า จะต้องมีการติดตามการส่งต่อเรื่องระหว่างรัฐบาลไทยไปยังรัฐบาลจีนหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จะต้องมีการติดตามต่อและต้องปราบให้เด็ดขาด หากคิดว่าวันนี้เราปราบแล้ว พอแล้ว เดี๋ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็จะกลับมา ความเสียหายในประเทศไทยก็จะเกิดขึ้นอีก ซึ่งตนทราบมาว่าวันนี้จำนวนสายและการแจ้งความเรื่องนี้น้อยลงแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอ เรายังต้องปฎิบัติการเชิงรุกต่อไป ต้องขยับให้มากกว่านี้ และทราบมาว่าทางประเทศกัมพูชาก็ขอข้อมูลมา ฉะนั้น เราต้องแชร์ข้อมูลกันเพื่อให้เกิดความร่วมมือกัน แต่ต้องดูว่าจะสามารถแชร์ได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงต้องไปดูว่ายังมีกระบวนการนี้อยู่ที่ประเทศไหนบ้างเพื่อจะได้ไปจัดการ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่เป็นระดับบอสนั้น เรายังจัดการได้ค่อนข้างน้อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ประเสริฐ' มั่นใจกาสิโนไปต่อในจังหวะเวลาที่เหมาะสม!
'ประเสริฐ' รับเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจก่อนประชุมสภาสมัยหน้า หลังมีหลายฝ่ายต้านกาสิโน ยันแกนนำ พท.ไม่หนักใจอะไร เหตุมีอีกหลายเรื่องที่เร่งด่วน
'ประเสริฐ' คาด พ.ร.ก.ไซเบอร์ 2 ฉบับประกาศใช้เร็วๆ นี้
'ประเสริฐ' คาด พ.ร.ก.ไซเบอร์ 2 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็ววันนี้ รับอยากให้ใช้ก่อนสงกรานต์ ยก เป็นมาตรการสำคัญในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
'บิ๊กอ้วน' ลั่น เปลี่ยนผ่านการเกณฑ์ทหารแบบบังคับสู่ระบบสมัครใจ กำลังเป็นรูปธรรม
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ "ทหารเกณฑ์สมัครใจ คือ โอกาสของชีวิต" มีเนื้อหาดังนี้
'พริษฐ์' ให้จับตาประชุมสภา สส.เพื่อไทยจะชงญัตติ กม.กาสิโนให้แซงคิวขึ้นมาก่อน
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)
'ภูมิธรรม' ย้ำนายกฯ สั่งฟันไม่เลี้ยงปมตึก สตง.ถล่ม
'ภูมิธรรม' เผยสั่งทหารสนับสนุนงานกู้ตึก สตง.ถล่มเต็มที่ ระบุ ก.อุตฯ ลุยสอบเชิงลึกเหล็กเส้น นายกฯ สั่งใครผิดฟันไม่เลี้ยง สอบให้เร็ว อย่าทิ้งเวลา พร้อมกำชับกระทรวงเกี่ยวข้องทำหน้าที่เต็มที่
'โรม' ฟาดรัฐบาลฉวยโอกาสดันร่างกม.กาสิโน เข้าสภาฯ แม้ไทยจำเผชิญปัญหาแผ่นดินไหว
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ผมอยากชวนทุกคนจับตาเรื่อง เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งมีคาสิโนเป็นองค์ประกอบสำคัญ