อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกาชง 3 แนวทางแก้ไขคดีฮั้ว สว.

23 ก.ค.2568 - นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ปัญหาของ สว. จากระบบการเลือกกันเองภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 และแนวทางแก้ไข” ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 วุฒิสภาได้ประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน และกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 1 คน

ในส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วุฒิสภามีมติ "ไม่เห็นชอบ" ให้ศาสตราจารย์ ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนนเสียง 118 ต่อ 39 เสียง งดออกเสียง 30 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง "เห็นชอบ" ให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนนเสียง 143 ต่อ 17 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง

ในส่วนของ กกต. วุฒิสภามีมติ "เห็นชอบ" ให้นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ดำรงตำแหน่ง กกต. ด้วยคะแนนเสียง 165 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 20 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ผู้เขียนมีความเห็นดังต่อไปนี้

1.ผลของการลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามความคาดหมายของผู้คนที่สนใจเรื่องราวของบ้านเมืองอยู่บ้าง ผู้ที่สามารถผ่านความเห็นชอบได้น่าจะมีจุดเกาะเกี่ยวกับดินแดนแห่งขุมพลัง ส่วนผู้ที่ไม่สามารถผ่านความเห็นชอบได้ อาจมาจากอดีตที่เคยเป็นที่ปรึกษาของเสนาบดีฝ่ายตรงข้าม

2.ส่วน กกต. นั้น รัฐธรรมนูญ 2560 แบ่งที่มาออกเป็น 2 ทาง คล้ายแม่น้ำ 2 สาย สายแรก มี 5 คน มาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหา ส่วนสายหลัง มี 2 คน มาจากการคัดเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
การลงมติให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่ง กกต. ผู้เขียนก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่า สว. เสียงข้างมาก จะหักมติของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาที่คัดเลือกผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกามาให้ความเห็นชอบหรือไม่ ผลปรากฏว่าไม่หัก

3.นอกจากหน้าที่หลักในการกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว วุฒิสภายังมีหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 5 องค์กร รวม 33 คน ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลปกครองสูงสุด และอัยการสูงสุด วุฒิสภาจึงเป็นกลไกสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดทิศทางของประเทศอย่างมีนัยสำคัญที่น้อยคนจะคาดถึง

4.หากปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีการฮั้วกันเลือก สว. อันเป็นการกระทำโดยทุจริต หรือที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตั้งแต่การสมัครรับเลือกเป็น สว. การเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศจริง ไม่เพียงแต่จะเป็นการละเมิดต่อกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. แต่ยังก่อให้เกิดความเสียหายเชิงโครงสร้างต่อประเทศในหลายมิติ เช่น ความเสียหายต่อหลักการประชาธิปไตย ความเสียหายทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ความเสียหายต่อการเมืองระดับชาติ ความเสียหายต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ และความเสียหายต่อสังคมและความสงบเรียบร้อย

สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะยุบวุฒิสภาได้ ไม่เหมือนสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจในการยุบสภาไว้

5. หนทางในการแก้ไขปัญหานี้มีอยู่ 3 ทาง คือ

(1) หาก กกต. สืบสวนและไต่สวนแล้วเห็นว่า มีการฮั้วกันจริง ขอให้ กกต. รีบยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือสิทธิเลือกตั้งของผู้กระทำความผิด รวมทั้งถอดถอน สว. คนที่กระทำความผิดออกจากตำแหน่ง (กฎหมายเรียกว่า ให้สมาชิกภาพของ สว. ผู้กระทำความผิดสิ้นสุดลง)

(2) ขอให้ กกต. หรือ สส. ไม่น้อยกว่า 10 % ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาฯ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของ สว. ที่กระทำความผิดสิ้นสุดลง เพราะฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง

(3) ป.ป.ช. ควรตรวจสอบจริยธรรมของ สว. ที่ถูกกล่าวหาว่า ยึดมั่นและธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวมหรือไม่ ยึดมั่นหลักนิติธรรมหรือไม่ หรือกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งหรือไม่

หากปรากฏว่า มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าวอย่างร้ายแรง ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย

ในกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า สว. ที่ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ตามที่ถูกกล่าวหา สว. ผู้ต้องคำพิพากษาต้องพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ สว. ผู้นั้น ส่วนจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้

6.ขอให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยวิธีการข้อใดข้อหนึ่งใน 3 ข้อดังกล่าวข้างต้น ปัญหาก็น่าจะคลี่คลายแล้วครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อดีตผู้พิพากษา' อธิบาย 'ปิดงานงดจ้าง' กับ 'หยุดกิจการ' เหตุข้อพิพาทแรงงาน 'ไดกิ้น '

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ปิดงานงดจ้างกับหยุดกิจการ มีเนื้อหาดังนี้

‘อัษฎางค์’ ชี้ดีลทักษิณขายหุ้นชินคอร์ป คือ ดีลที่ทักษิณมอบความชอบธรรมในการทำรัฐประหารให้ทหาร

อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ว่า ดีลทักษิณขายหุ้นชินคอร์ป คือ ดีลที่ทักษิณมอบความชอบธ

'อดีตผู้พิพากษา' ชำแหละ MOU 2543 เครื่องมือทางการทูต หรือ กับดักทางการเมือง

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ MOU 2543 : เครื่องมือทางการทูต หรือกับดักทางการเมือง มีเนื้อหาดังนี้

'อัษฎางค์' ลากไส้ส.ส.ส้ม กี่ครั้งแล้วที่ทำสิ่งที่ผิดจริยธรรมทางการเมือง

เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความว่า  กี่ครั้งแล้วที่พรรคประชาชนทำสิ่งที่ผิดจริยธรรมทางการเมืองเช่นนี้