อดีตผู้พิพากษาอาวุโสเตือน 'ผบ.ตร.' ตั้งกก.สืบสวนปมป่วยทิพย์ไม่ชอบ!

06 ส.ค.2568 - นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยกรณีแพทย์โรงพยาบาลตำรวจถูกแพทยสภาลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม” ระบุว่า มีรายงานข่าวเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ว่า 'พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์' ผบ.ตร. สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง คดีนายพลตำรวจโท 2 นาย ถูกแพทยสภาลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม กรณีเกี่ยวข้องกับ 'ทักษิณ ชินวัตร' นอนโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 179 วัน

ผู้เขียนพิจารณาแล้ว มีข้อมูลและความเห็นดังนี้

1.คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แต่งตั้งมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งสิ้น 16 คน เป็นกรรมการ โดยมีตำรวจเป็นผู้ช่วยเลขานุการ 2 คน

2.มีปัญหาว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนี้ เป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ผู้เขียนเห็นว่า ตาม พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 “เมื่อมีการกล่าวหาหรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่พิจารณาพฤติการณ์และหลักฐานในเบื้องต้นว่ากรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัยหรือไม่ ในกรณีจำเป็นหรือเห็นสมควรจะให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อนก็ได้ ในการสืบสวนข้อเท็จจริงจะมอบหมายให้บุคคลหนึ่งหรือหลายคนช่วยกันดำเนินการสืบสวนก็ได้” (มาตรา 117 วรรคหนึ่ง)

แสดงให้เห็นว่า เมื่อมีการกล่าวหาหรือมีกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการตำรวจผู้ใดกระทำผิดวินัย ผู้บังคับบัญชาจะแต่งตั้งคณะกรรมการให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อน ก็ต่อเมื่อเป็นกรณีจำเป็นหรือเห็นสมควรเท่านั้น และเฉพาะเมื่อข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงเท่านั้น ที่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการสอบสวนทันที (มาตรา 119 วรรคหนึ่ง)

คดีนี้คณะกรรมการแพทยสภาได้ใช้เวลาหลายเดือนในการสืบสวน สอบสวนและพิจารณาเพื่อลงโทษแพทย์ผู้ถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม เมื่อคณะกรรมการแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นแพทย์ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจแล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็ใช้สิทธิยับยั้ง คณะกรรมการแพทยสภามีมติยืนยันด้วยคะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 95 ของจำนวนกรรมการทั้งสิ้น 70 คน ซึ่งไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ (ตามมาตรา 25 วรรคสี่ ของพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525) หลังจากนั้นแพทยสภาก็มีคำสั่งลงโทษทางจริยธรรมแก่แพทย์ที่ถูกกล่าวหาด้วยการพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ผู้ถูกกกล่าวหาทั้งสองเป็นข้าราชการตำรวจ สถานที่เกิดเหตุก็อยู่ในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั่นเอง และเหตุเกิดในโรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลานาน 179 วัน กรณีจึงไม่มีความจำเป็นหรือเหตุอันสมควรจะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงก่อน

3.ผู้เขียนเห็นว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีนี้ จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สั่งเด้งด่วน! 'ผู้การเมืองคอน' เข้ากรุ ศปก.ตร. เซ่นปมคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์

ผบ.ตร. ลงนามคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 600/2568 ให้ พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผบ.ตร. สั่งคุมเข้มช่วงปีใหม่ ดูแลป้องกันอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุจราจร ยกระดับฝากบ้าน 4.0

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2569

เกมแห่งพันธมิตรที่จบลงไม่ไกลเกินคาด 'ส้ม' ถูก 'น้ำเงิน' ต้มจนเปื่อย กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินแก้

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ การเมืองสารขัณฑ์: เกมแห่งพันธมิตรที่จบลงไม่ไกลเกินคาด มีเนื้อหาดังนี้

'อดีตผู้พิพากษา' อธิบาย 'ปิดงานงดจ้าง' กับ 'หยุดกิจการ' เหตุข้อพิพาทแรงงาน 'ไดกิ้น '

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา และอดีตประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ปิดงานงดจ้างกับหยุดกิจการ มีเนื้อหาดังนี้