'สมชัย' ช่วย นายกฯ เก็งข้อสอบปากเปล่า 5 ข้อ แจงศาลรธน. 21 ส.ค.

20 ส.ค.2568 - นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า

ช่วยนายกฯ เก็งข้อสอบปากเปล่า วันที่ 21 สิงหาคม 2568

ข้อ 1 การสนทนาในคลิปเสียงนั้นเกิดขึ้นในวันใด เวลาใด ที่ไหน มีผู้ร่วมในขณะสนทนากี่ราย ใครบ้าง มีแผนการคุย และประเด็นการคุยที่เตรียมไว้เป็นเอกสารล่วงหน้าหรือไม่ ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีรู้หรือไม่ว่า การเจรจาดังกล่าวเป็นเรื่องที่สมควรระมัดระวัง ไม่ทำให้เสื่อมเสียเกียรติภูมิของชาติ

2. ให้ลำดับเหตุการณ์ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาและวิกฤตความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลไทยก่อนหน้าการพูดคุยทางโทรศัพท์เป็นอย่างไร หากไม่มีการพูดคุยจะเป็นวิกฤตในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อไปอย่างไร

3. เจตนาการพูดคุย เป็นไปเพื่อแก้วิกฤตของชาติหรือแก้วิกฤตของตัวเอง ในเมื่อมีประโยคในการพูดคุยว่า อยากให้เห็นใจหลานหน่อย คนไทยเขาจะไล่ให้ไปเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาแล้ว

4. จริยธรรมสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคืออะไร หากรู้ว่า การสนทนามีการอัดเทปและเผยแพร่ต่อสาธารณะ คิดว่ามีประโยคใดในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ไม่สมควรพูดและจะเป็นการขาดจริยธรรมบ้าง

5. ให้ยกเหตุผลทั้งทางนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ว่าเหตุใดศาลรัฐธรรมนูญจึงควรวินิจฉัยว่าคุณแพทองธาร ควรพ้นหรือไม่สมควรพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงหลุด รวมถึงการคาดการณ์ scenario การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในทั้งสองกรณีดังกล่าว

ทั้งหมดนี้ ผมคิดเองแบบอาจารย์ที่เคยออกข้อสอบนะครับ ไม่ใช่ข้อสอบรั่วแค่อย่างใด

ขอให้โชคดีครับ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ประธาน กมธ.แก้รัฐธรรมนูญคาด 2 ปีได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ!

ปธ.กมธ.แก้รัฐธรรมนูญยันหลักการปรับกลไกทำรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกสู่ รธน.ฉบับใหม่ คาด 2 ปีเศษจะได้เห็นการเปลี่ยนผ่านประเทศ

ศาลรธน.ยังไม่นัดวินิจฉัยสถานะ 'ภูมิธรรม-ทวี' ปมแทรกแซงคดีฮั้วสว. รอความเห็นพยาน

ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42