'รศ.ดร.จักษ์' ชำแหละฝ่ายอนุรักษ์แพ้? ไม่ได้เพราะคู่แข่งเก่งแต่เพราะชอบฆ่ากันเอง!

20 พ.ย.2568 - รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กในรูปบทความว่า “ทำฝ่ายอนุรักษ์แพ้? ไม่ได้แพ้เพราะคู่แข่งเก่ง แต่แพ้เพราะฝ่ายอนุรักษ์ชอบฆ่ากันเอง” ระบุว่า การเมืองไทยทุกยุคมีบทเรียนให้ “จด” แต่ทุกครั้งเรากลับได้แต่ “จดจำความโง่ซ้ำเดิม” แบบตั้งใจเต็มร้อย ไม่เคยถอดองค์ความรู้ ไม่เคยอยู่ในโลกจริง เหมือนเด็กที่สอบตกแล้วเถียงว่าข้อสอบผิด โลกมันผิด มีแค่ตัวเองที่ถูก

ถ้าจะแบ่งค่ายพรรคการเมือง อย่าไปแบ่งอะไรที่มันดูมั่ว เอาง่ายๆ ตามที่มันเป็นเถอะ สามเฉดสี : แดง – ส้ม – อนุรักษ์ ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย

แดงหนึ่งพรรค - ฐานแน่นเหมือนกาวซุปเปอร์กลู ประโยคเดียวจบ: สาวกแดงเลือกแดงเสมอ ต่อให้หัวหน้าพรรคถือป้าย “ฉันผิด” ยืนกลางสนามหลวง ฐานเสียงก็จะตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ เขาถูกใส่ร้าย” จบ

ส้มหนึ่งพรรค - เชื่อว่าตัวเองคืออนาคต แต่ทำตัวเหมือนเด็ก ม.ต้นแย่งตำแหน่งประธานนักเรียน ฐานเสียงส้มแข็งสุดในจักรวาล มีความเชื่อศักดิ์สิทธิ์ข้อหนึ่ง: ส้มไม่ผิด ใครเห็นต่างคือสลิ่ม ต่อให้พรรคตัวเองทำเละ ทำงุบงิบ ทำงานไม่เป็น สาวกก็พร้อมจะเขียนเรียงความ 3 หน้าแก้ตัวแทน นี่ก็หนึ่งพรรคที่ ไม่มีวันแตกคะแนน เพราะทุกคนถูกหลอมด้วยความเชื่อว่า “เราคือแสงสว่างของจักรวาลการเมืองไทย” จบ

ฝ่ายอนุรักษ์ – 10 พรรค 10 อีโก้ แย่งกันตายบนสนามเดียวกันเหมือนปลวกแทะเสาเดียวกันจนบ้านถล่มเอง 

นี่แหละตัวปัญหาโครงสร้าง แดง = 1 ส้ม = 1 อนุรักษ์ = 10+ (และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนแฟรนไชส์ลูกชิ้นปิ้ง) พรรคใหม่อยากเด่น พรรคเก่าไม่ยอม พรรคกลางอยากเป็นพระเอก พรรคที่ไม่มีฐานเสียงอยากเป็นนายกรัฐมนตรี และสุดท้ายก็ แย่งกันเองจนคะแนนกระจายเหมือนข้าวหลุดร่วงในยุ้งฉาง แล้วพอแพ้ก็ทำหน้าเศร้า ตีอกชกตัว โวยวายว่า “ทำไมเราแพ้เขา?” คำตอบมันง่ายจนไม่ต้องใช้สมอง มึ_ฆ่ากันเองไง

แต่ละพรรคมีอีโก้สูงเท่าตึกมหานคร แทนที่จะรวมกันให้แข็ง กลับแบ่งกันให้ตาย แทนที่จะเรียนรู้จากอดีต กลับลืมทุกอย่างเหมือนโดนลบความจำทุกสี่ปี แทนที่จะวิเคราะห์เกม กลับเอาเวลาไปด่าเพื่อนร่วมขั้ว อยากชนะไหม? ดูจากพฤติกรรมแล้ว… ไม่หรอก ดูเหมือนอยากเปิดศาลาทดลองแพ้มากกว่า

บทเรียนที่ไม่เคยเรียน - จุดบอดที่ฝ่ายอนุรักษ์ไม่เคยยอมรับ ทุกครั้งที่ผลเลือกตั้งออกมาเหมือนเดิม แทนที่จะถอดบทเรียน กลับถอดแค่โพสต์ด่าในเฟซบุ๊ก แทนที่จะรวมพลัง กลับรวมความขัดแย้ง แทนที่จะมีผู้นำ กลับมีแต่ “ผู้อ้างว่าตัวเองควรเป็นผู้นำ”

สรุปง่ายๆ พ่ายเพราะอีโก้ของฝั่งตัวเอง ไม่ใช่เพราะคู่แข่งเก่ง แดงชนะเพราะสาวกผู้จงรัก ส้มชนะเพราะติ่งคลั่งประหนึ่งลัทธิ แต่อนุรักษ์แพ้เพราะเป็น ตลาดนัดนักการเมือง ประเภทเดินไปสามก้าวเจอพรรคใหม่อีกแล้ว แต่กลับไม่มีพรรคไหนใหญ่พอจะชนะใครได้จริง

ประเทศนี้ไม่ได้วนลูปเพราะโครงสร้างเดิม แต่เพราะ “คนเดิมๆ ที่ไม่ยอมแก้ตัวเอง” ทำแบบเดิม คิดแบบเดิม ไม่เคยถอดบทเรียน แต่หวังผลเลือกตั้งไม่เหมือนเดิม นี่คือคำจำกัดความทางการเมืองที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะฝ่ายอนุรักษ์ของไทย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ

กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้ 

นักวิชาการ สะกิด อินฟลูฯ - นักการเมือง เลิกซ้ำเติมสถานการณ์ จ้องหาคนผิด น้ำท่วมหาดใหญ่

ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ความเห็นต่อสถานการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงข

'เอ็ดดี้' วิเคราะห์ละเอียดยิบ ทางเลือกของคนไทยรักชาติ กาพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศ

การเมืองรอบนี้ไม่มี พระเอกขี่ม้าขาว ที่สมบูรณ์แบบ 100%  เราต้องถามตัวเองว่า เราให้ราคากับอะไรมากที่สุด? เลือกแบบไหน ได้ประเทศแบบนั้น

'เทพไท' ชี้กลยุทธ์พรรคการเมือง เสนอ 3 แคนดิเดตนายกฯ หวังกระตุ้นเรตติ้งพรรค

พรรคการเมืองจะปรับกลยุทธ์เข้าสู่สนามเลือกตั้ง จะประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบ3คนหรือไม่ ก็เป็นกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองแต่ละพรรค