เรือขนส่งธัญพืชของยูเครนประเดิมออกจากท่าเรือโอเดสซาเรียบร้อยแล้ว ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันระหว่างยูเครนและรัสเซีย เพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลกอันเนื่องมาจากการสู้รบกันของสองชาติ
เรือบรรทุกสินค้าราโซนี (Razoni) ติดธงชาติเซียร์ราลีโอน บรรทุกข้าวโพดจำนวน 26,000 ตัน ออกจากท่าเรือโอเดสซาในทะเลดำ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม (Photo by Turkish Defence Ministry / TURKISH DEFENCE MINISTRY / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม 2565 กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมตุรเคีย ซึ่งเป็นคนกลางในการดูแลข้อตกลงส่งออกธัญพืชระหว่างยูเครนและรัสเซีย ออกแถลงการณ์ยืนยันการขนถ่ายสินค้าธัญพืชของยูเครนดำเนินขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ โดยเรือขนส่งเที่ยวแรกออกจากท่าเรือโอเดสซาอย่างเรียบร้อยปลอดภัย
“เรือราโซนี (Razoni) ได้ออกจากท่าเรือโอเดสซามุ่งหน้าสู่กรุงตริโปลีในเลบานอน โดยคาดว่าจะเดินทางถึงกรุงอิสตันบูลในวันอังคาร และตุรเคียจะดำเนินการตรวจสอบก่อนปล่อยเรือออกเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทาง คาดว่าการขนส่งเที่ยวต่อไปจะตามมาอีกในไม่ช้า ตามข้อตกลงที่ยูเครนและรัสเซียลงนามกันเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม” กระทรวงกลาโหมตุรเคีย กล่าว
โอเล็กซานเดอร์ คูบราคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนระบุว่า เรือลำดังกล่าวบรรทุกข้าวโพดจำนวน 26,000 ตัน
โยรุก อิซิก ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือในช่องแคบบอสฟอรัสและในภูมิภาคนี้ คาดว่าเรือลำดังกล่าวจะไปถึงปากช่องแคบบอสฟอรัสในวันอังคาร เวลาประมาณเที่ยงวัน
เรือราโซนี เป็นเรือสัญชาติเซียร์ราลีโอน สร้างขึ้นในปี 2539 มีความยาว 186 เมตร, กว้าง 25 เมตร และมีความจุ 30,000 ตัน
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ยูเครนและรัสเซียได้ลงนามในข้อตกลงครั้งสำคัญท่ามกลางสักขีพยานอย่างตุรเคียและสหประชาชาติ โดยมุ่งหวังให้เกิดการบรรเทาวิกฤตอาหารทั่วโลกหลังจากการส่งออกธัญพืชของยูเครนถูกปิดกั้นในทะเลดำตั้งแต่เริ่มการสู้รบกับรัสเซีย
ตุรเคียจัดตั้งศูนย์ประสานงานพิเศษอย่างเป็นทางการในกรุงอิสตันบูลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อดูแลการส่งออกให้เป็นไปตามข้อตกลงดังกล่าว โดยศูนย์แห่งนี้มีเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารจากทั้งยูเครนและรัสเซีย รวมถึงผู้แทนจากตุรเคียและสหประชาชาติ มีภารกิจหลักในการตรวจสอบเส้นทางที่ปลอดภัยให้กับเรือขนส่งธัญพืชของยูเครนตามเส้นทางที่กำหนด และตรวจสอบไม่ให้มีการแอบขนส่งอาวุธต้องห้ามระหว่างเส้นทางเข้าและออกจากทะเลดำ
การกีดกันการส่งมอบจากผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้ราคาสินค้าในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น ทำให้การนำเข้าอาหารมีราคาแพงมากสำหรับประเทศยากจน ซึ่งการประเมินของสหประชาชาติระบุว่า ผู้คนเกือบ 50 ล้านคนบนโลก กำลังเผชิญกับความหิวโหยเฉียบพลัน อันเป็นผลโดยตรงจากสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอิ้ก ชาลิสา' เล่าวีรกรรมเฉียดโดนปล้นที่รัสเซีย
เมื่อพิธีกรสาวสุดแซ่บ "แก้มบุ๋ม ปรียาดา" ต้องมาร่วมปรุงเมนูสุดโปรด "ไก่โค๊ะ" ของยูทูปเบอร์ตัวแม่สายฮา ที่นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้ "เอิ้ก ชาลิสา" หรือ "เอิ้ก หิ้วหวี" เจ้าของเพลงดังที่กำลังเป็นไวรัลไปทั่วทั้งประเทศ
นายกฯ เตรียมรับมือสถานการณ์ ‘รัสเซีย-ยูเครน’ สั่ง ‘บัวแก้ว’ ดูแลคนไทยต้องปลอดภัย
นายกฯ สั่งกระทรวงการต่างประเทศ จับตาสถานการณ์ รัสเซีย-ยูเครน ย้ำดูแลคนไทยให้ปลอดภัย
‘นันทิวัฒน์’ สะกิดรัฐบาล เตรียมรับมือภาวะสงคราม หลังกลิ่นไอสู้รบยูเครนรุนแรง
กลิ่นไอการสู้รบในยูเครนเพิ่มความรุนแรง เมื่อมีข่าวลือว่าชาติพันธมิตรนาโตบางชาติ ได้ส่งทหารเข้าไปร่วมรบในยูเครน ปฏิกิริยาจากฝ่ายรัสเซียประกาศชัดเจน