นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสรอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจในรัฐสภา หลุดพ้นบ่วงงบประมาณ แต่ยังคงเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน

นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรู ของฝรั่งเศสกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการอภิปรายก่อนการลงมติไม่ไว้วางใจร่างกฎหมายงบประมาณปี 2025 ที่รัฐสภาในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ (Photo by JULIEN DE ROSA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 กล่าวว่า หลังจากดำรงตำแหน่งได้ไม่ถึงสองเดือน นายกรัฐมนตรีฟรองซัวส์ บายรู ของฝรั่งเศสต้องเผชิญกับวิกฤตรัฐสภาเรื่องงบประมาณของประเทศ จนเป็นเหตุให้เกิดการลงมติจากสมาชิกว่ารัฐบาลของเขาจะได้บริหารต่อไปหรือไม่
ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองที่กินเวลานานหลายเดือน บายรูซึ่งเป็นนักการเมืองสายกลางอาวุโส ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงเมื่อเดือนธันวาคม และเพื่อผ่าทางตันความขัดแย้งด้านงบประมาณ เขาได้ใช้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง ในการผลักดันให้รัฐสภาผ่านความเห็นชอบโดยไม่ต้องลงคะแนนเสียง พร้อมข้ออ้างที่ว่า "งบประมาณนี้ถือเป็นกระบวนการเร่งด่วนที่ต้องข้ามผ่านไปให้ได้"
แต่การใช้กลไกนี้ ตามมาตรา 49.3 ของรัฐธรรมนูญ อนุญาตให้พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติไม่ไว้วางใจได้ และความพยายามในการโค่นล้มรัฐบาลก็ได้รับการเสนออย่างเหมาะสมโดยพรรคซ้ายจัดที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอมมิวนิสต์และพรรคกรีน
แม้ว่าบายรูจะยังไม่ใกล้เคียงกับการมีเสียงข้างมากในสมัชชาแห่งชาติ แต่กลุ่มสังคมนิยมและกลุ่มขวาสุดโต่งต่างยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจ 2 ฉบับที่เสนอโดยฝ่ายซ้ายจัด
ท้ายที่สุด ญัตติไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับงบประมาณของรัฐบาลได้รับคะแนนเสียงไปเพียง 128 เสียง ยังขาดอีก 289 เสียงที่จำเป็นในการล้มรัฐบาลซึ่งยังต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาอีกรอบเพื่อให้ร่างดังกล่าวผ่านเป็นกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีญัตติไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับแผนการเงินประกันสังคมของรัฐบาลอยู่ในวาระการประชุมของวันพุธนี้ด้วย และคาดว่าจะล้มเหลวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การลงคะแนนเสียงเมื่อวันพุธ แม้จะถือเป็นชัยชนะของรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าการยืดเวลาให้กับนายกรัฐมนตรีที่กำลังเผชิญปัญหาเท่านั้น
บริษัทวิเคราะห์ความเสี่ยง Eurasia Group ระบุว่า "การสนับสนุนเชิงรับจากทั้งพรรคสังคมนิยมและพรรคขวาจัดของมารีน เลอเปน จะสิ้นสุดลงเมื่อมีการบังคับใช้แผนงบประมาณปี 2025 เต็มรูปแบบในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และมีโอกาสมากถึง 70% ที่รัฐบาลจะล่มสลายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้เช่นกัน"
จอร์แดน บาร์เดลลา หัวหน้าพรรคขวาจัดของกล่าวก่อนการลงคะแนนว่า "เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอน เพราะพลเมืองร่วมชาติของเราหลายคนกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความไม่มั่นคงในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นได้"
เซบาสเตียน เชนู รองประธานพรรคฯกล่าวเช่นกันว่า พรรคฯต้องการรักษาเสถียรภาพจนกว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนนี้
โอลิวิเยร์ โฟเร ผู้นำฝ่ายสังคมนิยมกล่าวว่า พรรคของเขาตัดสินใจไม่ลงคะแนนเพื่อโค่นล้มรัฐบาลในเรื่องงบประมาณ เนื่องจากจะส่งผลให้ฝรั่งเศสมีนายกรัฐมนตรีที่มีแนวโน้มขวาจัดมากขึ้น
จุดยืนของพรรคสังคมนิยมเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับบายรูเพราะอาจนำไปสู่การปิดฉากพันธมิตรฝ่ายซ้ายที่ครองเสียงข้างมากหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปีก่อน
มีแชล บาร์นีเย อดีตนายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้า พ่ายแพ้ในมติไม่ไว้วางใจเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้ฝรั่งเศสต้องอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
การอยู่รอดของรัฐบาลของบายรูจะเป็นความโล่งใจสำหรับมาครงซึ่งเผชิญการเรียกร้องให้ลาออกนับตั้งแต่ยุบสภาเมื่อปีที่แล้ว แต่เขายืนกรานว่าจะอยู่ในตำแหน่งจนสิ้นสุดวาระในปี 2027
งบประมาณแบบรัดเข็มขัดและการเพิ่มภาษีได้สร้างความขัดแย้งให้กับหลายฝ่าย โดยเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของฝรั่งเศส ออกมาประณามแผนการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลพิเศษของงบประมาณฉบับนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงบประมาณกล่าวว่า ในขณะนี้รัฐบาลซึ่งมีงบประมาณอยู่แล้ว จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายการขาดดุล 5.4% สำหรับปี 2025 เมื่อเทียบกับจีดีพี หลังจากปีที่แล้วมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขขาดดุลจะอยู่ที่ 6%.