รัสเซียถล่มใจกลางเมืองคาร์คิฟ นศ.อินเดียสังเวย

กองทัพรัสเซียโจมตีหลายเมืองทั่วยูเครนต่อเนื่องในวันอังคาร คาร์คิฟโดนหนักสุด มิสไซล์ถล่มใจกลางเมืองมีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน รัฐบาลอินเดียเผยนักศึกษาสังเวยด้วย กลาโหมรัสเซียเตือนเล็งเป้าทำลายอาคารฝ่ายความมั่นคงยูเครนในกรุงเคียฟ แนะประชาชนอพยพให้ห่าง

สภาพความเสียหายด้านนอกอาคารศาลาว่าการเมืองคาร์คิฟที่โดนกองทัพรัสเซียถล่มเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2565 (Photo by Sergey BOBOK / AFP)

เอเอฟพีรายงานสถานการณ์ในยูเครนเมื่อวันอังคารที่ 1 มีนาคม 2565 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการเคลื่อนทัพรัสเซียเข้ารุกรานยูเครน ว่ากองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีเมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดชายแดนรัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ภายหลังการเจรจาสันติภาพเบื้องต้นระหว่างยูเครนกับรัสเซียที่เบลารุสไม่ได้ผลลัพธ์อันใดเมื่อวันจันทร์

หน่วยบริการฉุกเฉินในเมืองคาร์คิฟเปิดเผยว่า จัตุรัสใจกลางเมืองและอาคารที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่นตกเป็นเป้าหมายการยิงมิสไซล์และปืนใหญ่โจมตีเมื่อวันอังคาร มีคนสังเวยชีวิตอย่างน้อย 10 คน และบาดเจ็บมากกว่า 20 คน และมี 10 คนได้รับการช่วยชีวิตออกมาจากซากอาคารที่พังถล่ม

นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตอีก 8 คน บาดเจ็บ 6 คน เมื่อรัสเซียโจมตีทางอากาศถล่มอาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งทางตะวันออกของเมือง

โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวถึงการโจมตีเมืองคาร์คิฟ ที่มีประชากร 1.4 ล้านคนว่าเป็น "อาชญากรรมสงคราม" เขายังประณามเมื่อวันอังคารว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น การก่อการร้ายโดยรัฐของรัสเซีย

ผู้นำยูเครนเรียกร้องอีกครั้งถึงสหภาพยุโรป ในวิดีโอคำปราศรัยต่อรัฐสภายุโรปเมื่อวันอังคารว่า พิสูจน์ว่าพวกคุณอยู่ข้างเรา พิสูจน์ว่าพวกคุณไม่ทอดทิ้งเรา และพวกคุณเป็นชาวยุโรปที่แท้จริง

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองมาริอูโปลที่อยู่ติดทะเลอาซอฟกล่าวเช่นกันว่า เมืองนี้โดนโจมตีและทำให้ไฟฟ้าดับ ส่วนเมืองเคอร์ซอนที่อยู่ติดทะเลดำ นายกเทศมนตรีอีกอร์ โคลีคาเยฟ โพสต์เฟซบุ๊กว่า กองทัพรัสเซียตั้งจุดตรวจทั่วทางเข้าของเมือง แต่เมืองนี้ยังเป็นของยูเครนและยังสามารถต้านทานได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานเสียงระเบิดดังทั้งภายในและรอบเมืองโบรวารี ชานกรุงเคียฟ

ภาพจากเพจเฟซบุ๊กกระทรวงมหาดไทยยูเครนเมื่อวันอังคาร เห็นกลุ่มควันลอยขึ้นศูนย์แพร่ภาพโทรทัศน์ในกรุงเคียฟภายหลังรัสเซียยิงมิสไซล์โจมตี (Photo by UKRAINIAN INTERIOR MINISTRY PRESS SERVICES / AFP)

กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกคำเตือนต่อประชาชนในกรุงเคียฟเมื่อวันอังคารด้วยว่า รัสเซียจะโจมตีเป้าหมายที่เป็นอาคารหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของยูเครนกลางเมืองหลวง โดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง และขอให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอพยพออกไป

รัฐบาลยูเครนกล่าวว่า นับตั้งแต่ประธานาธิบดีปูตินส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี ถึงขณะนี้มีพลเรือนสังเวยชีวิตแล้วมากกว่า 350 คน รวมถึงเด็ก 16 คน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันอังคารว่า มีผู้อพยพลี้ภัยออกจากยูเครนแล้วมากกว่า 660,000 คน โดยเกือบ 400,000 คนอยู่ในโปแลนด์

ศาลอาญาระหว่างประเทศเปิดการสอบสวนอาชญากรรมสงครามกับรัสเซียแล้ว ขณะที่โจเซ็ป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่า การโจมตีของรัสเซียล่าสุดนี้ "ละเมิดกฎแห่งสงคราม"

เมื่อวันจันทร์ ปูตินได้โทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสอีกครั้ง โดยผู้นำรัสเซียประกาศเงื่อนไขของเขาหากต้องการให้สงครามนี้ยุติลง ซึ่งรวมถึงให้โลกตะวันตกยอมรับอำนาจอธิปไตยของรัสเซียเหนือไครเมีย และทำให้ยูเครนปลอดการทหาร

ต่อมาในวันอังคาร รัฐมนตรีกลาโหม เซอร์เกย์ ชอยกู กล่าวว่า รัสเซียจะยังคงบุกต่อไป "จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้" เขากล่าวถึงการทำให้ยูเครนปลอดทหารและปลอดนาซี และปกป้องรัสเซียจากภัยคุกคามทางทหารที่เกิดจากประเทศตะวันตก

โลกตะวันตกเพิ่มการคว่ำบาตรเพื่อโดดเดี่ยวรัสเซียยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยประเทศและองค์กรต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชนทยอยกันประกาศมาตรการลงโทษรัสเซียทั้งทางการทูต, เศรษฐกิจ, วัฒนธรรม หรือแม้แต่กีฬา เมื่อวันอังคาร แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แนะให้ถอดรัสเซียพ้นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

ดมิตรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซียที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซียในปัจจุบัน ตอกกลับมาตรการคว่ำบาตรของโลกตะวันตกว่า "อย่าลืมว่าในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ สงครามทางเศรษฐกิจมักกลายเป็นสงครามจริง"

อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศของอินเดียแถลงที่กรุงนิวเดลีวันเดียวกันว่า มีนักศึกษาชายชาวอินเดียคนหนึ่งเสียชีวิตเพราะปืนใหญ่ที่ถล่มเมืองคาร์คิฟเมื่อวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียย้ำต่อเอกอัครราชทูตของทั้งยูเครนและรัสเซียให้เปิดช่องทางปลอดภัยสำหรับชาวอินเดียออกจากเมืองนี้และเมืองอื่นๆ ในพื้นที่ขัดแย้ง

ก่อนรัสเซียรุกราน มีชาวอินเดียอยู่ในยูเครนประมาณ 20,000 คน ราว 8,000 คนสามารถออกจากยูเครนได้ โดย 1,400 คนกลับถึงอินเดียแล้ว สื่ออินเดียรายงานคำบอกเล่าของนักศึกษาบางคนที่กลับมาถึงบ้านว่า นักศึกษาอินเดียบางส่วนถูกขัดขวางไม่ให้ข้ามพรมแดนเข้าประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนหากไม่ยอมจ่ายเงินให้พวกเจ้าหน้าที่ควบคุมจุดผ่านแดน

ขณะเดียวกัน รอยเตอร์รายงานว่า หน่วยงานด้านการโยกย้ายถิ่นฐานของยูเอ็นเปิดเผยว่า มีชาวต่างชาติตกค้างอยู่ในยูเครนประมาณ 470,000 คน รวมถึงนักศึกษาและแรงงานต่างด้าว และเรียกร้องประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายของยูเครนให้ที่พักพิงแก่ผู้ที่อพยพหนีภัย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘นันทิวัฒน์’ สะกิดรัฐบาล เตรียมรับมือภาวะสงคราม หลังกลิ่นไอสู้รบยูเครนรุนแรง

กลิ่นไอการสู้รบในยูเครนเพิ่มความรุนแรง เมื่อมีข่าวลือว่าชาติพันธมิตรนาโตบางชาติ ได้ส่งทหารเข้าไปร่วมรบในยูเครน ปฏิกิริยาจากฝ่ายรัสเซียประกาศชัดเจน

โล่ง! ยังไม่พบคนไทยบาดเจ็บ-เสียชีวิต ในเหตุกราดยิงมอสโก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายก​รัฐมนตรี​และ​รมว.คลัง​ กล่าวถึงเหตุการณ์การก่อการร้ายที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย หลังคนร้ายในชุดพรางทหาร

สถานเอกอัครราชทูต เตือนคนไทยในมอสโก เฝ้าระวังเหตุกราดยิง!

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก เตือนคนไทย ในกรุงมอสโก รัสเซีย เฝ้าระวังสถานการณ์เหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ต ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก