เหตุเกิดที่เบตง ... ยะลา!! (ภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม)

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา เมื่อ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสนั่งเรือบินนกแอร์ เดินทางไปประกอบศาสนกิจที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ใต้สุดของประเทศ.. นับเป็นเที่ยวบินแรก.. ครั้งแรก.. ที่เดินทางสู่สนามบินเบตง.. ลงสัมผัส Runway ที่ไม่ยาวมากนัก ด้วยวิธีการบินลงแบบ Hard Landing ซึ่งเป็นเทคนิคการบินที่น่าสนใจ.. ในความปลอดภัยของการกางล้อแตะพื้นสนามบิน....

การเดินทางไปเบตง.. ในครั้งนี้ นับเป็นการเดินทางตามลำพัง ไม่มีผู้ติดตามดูแล.. จึงได้รับความเอื้อเฟื้อจากผู้โดยสารที่เป็นบุรุษ.. ช่วยเหลือพอสมควรด้วยน้ำจิตศรัทธาของความเป็นชาวพุทธ...

ด้วยเวลาที่ไม่ขาดไม่เกิน.. ตามตารางการบิน.. ๑๑ โมงเช้า จึงเป็นเวลาที่เดินทางถึงเบตง... โดยมีคณะศรัทธา.. เตรียมภัตตาหารมารอถวายที่สนามบิน ด้วยใจระทึกว่าจะทันฉันหรือไม่ทันฉัน...

ภัตตกิจครั้งแรก .. บนแผ่นดินเบตงใต้สุดสยามจึงสัมฤทธิผลที่ลานจอดรถหน้าสนามบิน โดยอาศัยภายในรถตู้ของญาติโยมปฏิบัติการ.. ด้วยภัตตาหารของชาวเบตงที่จัดหามาถวายอย่างเต็มความสามารถ...

การเดินทางไปเบตง..ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อไปร่วมปฏิบัติศาสนกิจกับ พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ที่ล่วงหน้าลงไปปฏิบัติศาสนกิจใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้มาร่วมเดือน.. และได้มารวมตัวกันทั้งหมดรวม ๒๘ รูป.. เมื่อบวกอีกหนึ่งกับอาตมาก็ครบ ๒๙ รูป... โดยมีสามเณรโข่งอีก ๑ รูปเป็นของแถม ที่จะให้ศรัทธาชาวเบตงได้ใส่บาตร.. ถวายสังฆทาน-ไทยทาน และฟังธรรม-ปฏิบัติธรรม

ดังกำหนดการในวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ ในยามเช้า ๐๗.๐๐ น. ที่พระภิกษุ ๒๙ รูปบิณฑบาตในตลาดเทศบาลเบตง จ.ยะลา.. ต่อเนื่องด้วยการร่วมสังฆทาน หลังจากเสร็จการลงอุโบสถฟังสวดปาฏิโมกข์ศีล ๒๒๗ สิกขาบท บนยอดภูเขาสวนสาธารณะเทศบาลเมืองเบตง/ใต้สุดสยาม ที่สงฆ์สวดสมมติเป็นเขตอุโบสถบนลานอเนกประสงค์ที่เหมาะสมอย่างยิ่ง.. เพื่อความเป็นอุดมมงคลแก่เมืองเบตง ใต้สุดสยาม.. และ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ...

สำหรับในตอนเย็น ตั้งแต่เวลา ๑๗.๓๐ น. เป็นต้นไป พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม พร้อมใจกันประกอบศาสนกิจ.. ด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ (ทำวัตรเย็น) ฟังธรรม.. ปฏิบัติธรรม. ณ ลานพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ วัดพุทธาธิวาส เบตง ยะลา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ใน ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ ของ.. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

และ... เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่องค์ประมุขของคณะสงฆ์ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของเจ้าประคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่จะเวียนมาบรรจบในวันอาทิตย์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๕ นี้...

จึงนับเป็นการประกอบศาสนกิจเพื่อความเป็นมหากุศลอันสำคัญยิ่งอีกวาระหนึ่ง.. ที่พึงควรกระทำด้วยความพึงใจยิ่ง...

เฉกเช่นพระภิกษุในโครงการ ที่พร้อมใจกันเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้... เพื่อความอุกฤษฏ์ในการปฏิบัติ. ตามกำลังสติปัญญาและความเพียรของแต่ละรูป.. ที่มีหัวใจเดียวกัน.. ตั้งมั่น.. ไม่กลัว.. ไม่ท้อถอย.. ไม่ว่าจะพบกับอันตรายใดๆ ในภาคสนาม.. ของพื้นที่ชายแดนใต้ที่มีปัญหาการก่อการร้ายแฝงเร้นอยู่.. แม้ในปัจจุบัน...

การเดินทางที่ตั้งใจมั่น.. ของคณะภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม.. ซึ่งหลายๆ รูปมาจากอดีตผู้ต้องขังใน โครงการพัชรธรรม.. กำกับดูแลโดยโครงการกำลังใจ ในพระดำริฯ.. จึงน่าศรัทธายิ่ง.. ควรแก่การสนับสนุน.. โดยไม่ต้องไปกลัวเกรง.. ไม่ต้องไปคาดหวังผลว่าจะได้อะไร.. จะมีอะไร.. อย่างที่คนทางโลกชอบยกขึ้นเป็นข้ออ้าง.. เมื่อจะทำการใดๆ..

ดังที่ได้บันทึกไว้ เพื่อเป็นอนุสติธรรมให้กับพระภิกษุในโครงการ ได้พิจารณา.. ประดับศรัทธา เสริมสร้างปัญญาบารมีว่า...

 “...ถ้าทุกคนในสังคม ประเทศชาติ มัวแต่หวงตัว ห่วงตัว คิดหาแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง... มัวแต่เกรงกลัวว่า จะได้รับผลกระทบทางลบ.. จะสูญเสียผลประโยชน์แห่งตน..

..งานจาริกไปปฏิบัติศาสนกิจใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้.. (เพื่อการส่งเสริมความรักสามัคคีในหมู่สงฆ์ ช่วยเสริมสร้างกำลังใจ.. สืบสานกำลังธรรมให้กับคณะภิกษุในจังหวัดชายแดนภาคใต้.. ที่ขาดแคลนกำลังพระภิกษุ วัดวาอารามจำนวนไม่น้อยเกือบจะร้าง...

ตลอดจนถึง เพื่อการบำรุงขวัญกำลังใจ เสริมสร้างสติปัญญา ความกล้าหาญในความเพียรชอบของข้าราชการทุกหมู่เหล่า.. พี่น้องประชาชนทุกฐานะ ทุกศาสนา..... มิใช่เฉพาะชาวพุทธ) คงจะไม่เกิดขึ้น...

จึงขออนุโมทนาในน้ำใจ.. ในความตั้งใจของภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ทุกรูป ที่พร้อมสละชีวิต.. เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา.. เพื่อการก่อประโยชน์แก่มหาชน.. และกิจการสืบอายุพระพุทธศาสนา.. ให้สืบเนื่องต่อไปในแผ่นดินไทยอย่างแท้จริง…

ภิกษุพัชรธรรมจึงควรคำนึงถึงความสำคัญอันเสมอภาคกันของพระภิกษุทุกรูปในพระพุทธศาสนา ตามฐานะแห่งพระธรรมวินัยที่เป็นหนึ่งเดียวกันว่า..

..ภิกษุทุกรูป .. เป็นกำลังของพระพุทธศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน โดยพระธรรมวินัยเดียวกัน ที่เสมอกันด้วยศีล ข้อปฏิบัติ.. และทิฏฐิ ความเห็นอันถูกต้องตรงตามพระอริยสัจธรรม.. ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง...

พึงคำนึงเสมอว่า... ในเขตพุทธศาสนา.. มิได้มีความเหลื่อมล้ำ.. มีแต่ความเหมาะควรที่การอยู่ร่วมกันอย่างเป็นระเบียบ.. ให้ความเคารพรักกัน.. เพื่อความเกื้อกูลกัน.. เพื่อการสงเคราะห์กัน.. เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน...

จึงจัดแบ่งฐานะ เพื่อมุ่งเน้นความเคารพต่อกัน.. อย่างมีอารยธรรม.. ในการอยู่ร่วมกัน

แต่มิได้จัดแบ่งตามสมณฐานะ.. ฐานันดร.. ยศถาบรรดาศักดิ์ ใดๆ.. หรือจัดแบ่งเป็นเขตการปกครองใดๆ แบบทางโลก.. ที่นำไปสู่การแบ่งพรรคแบ่งพวก เล่นเส้น-มุ่งหาประโยชน์.. สนับสนุนหมู่คณะ และทำลายฝ่ายตรงข้าม.. ที่ไม่สมประโยชน์ตน...

การปกครองในเขตพระพุทธศาสนา.. จึงใช้ระบบพี่น้อง.. ในครอบครัวเดียวกัน.. ปกครองดูแลตามฐานะ บวชก่อนเป็นพี่.. บวชหลังเป็นน้อง โดยมีพระธรรมวินัยเป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด.. ดังที่กล่าวว่า..ดุจเกิดจากพระอุระของพระพุทธองค์.. กำเนิดจากพระโอษฐ์.. คือคำสั่งสอน.. พระพุทธองค์.. คือ พระธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ได้ตรัสแสดงไว้ดีแล้ว

ดังนั้น.. ภิกษุทุกรูปจึงพึงควรมีความศรัทธา.. ในฐานะความเป็นภิกษุ ที่ได้มาโดยพระพุทธานุญาต.. ด้วยการปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัย

เพื่อชักนำไปสู่การปฏิบัติชอบในกิจของสมณะ.. ในศาสนกิจของสงฆ์อย่าง พึงใจ มั่นใจ และเข้าใจ.. ในประโยชน์และความเหมาะ..ความควร

จึงขอให้มั่นใจ.. ในการทำความดี.. และพึงก้าวต่อไป ด้วยการสร้างกำลังใจจากภายในให้กับตนเอง.. ด้วยความรู้ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้อง.. เพื่อการดำเนินไปสู่ทิศที่เป็นประโยชน์โดยธรรม.. ที่บรรพชนได้ดำเนินการสืบเนื่อง ปฏิบัติส่งสืบต่อกันมา..”

ดังนั้น.. ในห้วงระยะเวลาระหว่าง ๑๒-๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่เดินทางมาร่วมปฏิบัติศาสนกิจกับภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม... จึงมีคุณค่ายิ่ง.. ดังที่กล่าวไปในเบื้องต้นบ้างแล้ว... ซึ่งในภาคค่ำของวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ นับเป็นการรวมพลังจิตอันสำคัญยิ่งของพระภิกษุทุกรูป รวมถึงพุทธศาสนิกชน ทั้งในเบตงและที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จำนวนไม่น้อย.. ที่พร้อมใจกันมาร่วมปฏิบัติบูชา ...โดยมี ท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ดร.อายุตม์ สินธพพันธุ์).. รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ (ดร.ชาญ วชิรเดช) นายอำเภอเบตง และผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเบตง.. เป็นต้น ที่นำคณะศรัทธาเข้าร่วมประกอบศาสนกิจครั้งสำคัญดังกล่าว ณ พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา ที่ควรจารึกไว้เป็นครั้งสำคัญ.. ที่พระภิกษุในโครงการจิตอาสา กำลังใจ พัชรธรรม ได้ไปประกอบศาสนกิจ.. ในวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ ตรงกับวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ บนภูเขาสวนสาธารณะ ใต้สุดสยาม.. โดยการประชุมกระทำสังฆกรรม.. เพื่อลงอุโบสถฟังสวดปาฏิโมกข์และรับการถวายสังฆทานจากญาติโยม ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพลีบุญกุศลแด่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน.. ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่ล้มตายด้วยภัยการก่อการร้าย อันสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา ตลอดจนถึงโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดนในปัจจุบัน...

ภาพความสวยงาม.. ของผ้ากาสายะ ที่โบกสะบัดเป็นทิวแถว.. ไปในท่ามกลางเมืองเบตง.. ก่อนจะไปบรรจบลงบนยอดภูเขาใต้สุดสยาม.. จึงเป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืมของชาวเบตง.. อันควรแก่การรอคอยการคืนกลับมาเยือนเบตงอีกครั้ง.. และอีกครั้ง..!!.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“มิจฉาธรรม .. ในอสัตบุรุษที่น่ากลัวยิ่ง”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สงกรานต์ร้อนที่เข้าสู่จุลศักราช ๑๓๘๖ เถลิงศกตรงกับ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗ นับว่าร้อนแล้ง ตรงกับคำพยากรณ์ที่พร้อมเกิดพายุร้อนได้ในทุกพื้นที่ เป็นการแสดงสภาวะผันผวนที่เนื่องมาจากวิกฤตร้อนของโลก (Climate Change) ที่หลายฝ่ายเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า มนุษยชาติจะผ่านวิกฤตโลกร้อนไปได้หรือไม่..

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า น้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาที่อากาศร้อนจัด จนเข้าสู่วิกฤตการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า.. ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในภาวะที่เข้าสู่วิกฤตการณ์โลกร้อน.. ด้วยภาวะการเปลี่ยนแปลงแบบผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติปกติ (Climate Change) อันเป็นผลจากการกระทำของมนุษยชาติ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม จึงได้ถือโอกาสคิดทำโครงการนำพระคืนสู่ป่า.. เพื่อศึกษาวงจรธรรมชาติของชีวิตที่เนื่องกับสิ่งแวดล้อม อันประกอบด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ที่เกาะเกี่ยวเนื่องกันอย่างมีความสมดุล (Nature Cycle in Balance)

ลัทธิผีบุญ .. ภัยร้ายต่อพระศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปัญหาของพุทธศาสนาในปัจจุบันที่ยังเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การยึดถือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระสัทธรรมดั้งเดิม...

คุณค่าแท้–คุณค่าเทียม ที่ชาวพุทธควรคำนึง..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำว่า “วิกฤตศรัทธา” เริ่มมีการพูดถึงกันมากในห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุปัจจัยในเรื่องนั้น ที่นำไปสู่ความสั่นคลอนในความเชื่อมั่น ที่เคยอบรมสั่งสมมานานในสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ บุคคลนั้นๆ.. ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์ทั้งหลายที่พยายามหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณ

บูชาพระโอวาทปาติโมกข์ .. ณ เวฬุวันมหาวิหาร ปี พ.ศ.๒๕๖๗

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. กลับมาจาก งานมาฆบูชาโลก ที่เวฬุวันมหาวิหาร พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ พร้อมกับติดเชื้อเป็นของแถม ด้วยมีไวรัสแพร่ระบาดในหมู่คณะที่มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสติดตามไปร่วมร้อยชีวิต