การจับมือกันของคณะทำงานด้านการศึกษาฯ ใน EEC กับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อร่วมกันเคลื่อนไหวปรับสร้าง-รื้อสร้างการศึกษา-การพัฒนาบุคลากรยุคใหม่ในพื้นที่ EEC ช่วงตั้งแต่กว่า 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้ได้เห็นการผลิดอก-ออกผล ปรับสร้างความก้าวหน้าขับเคลื่อนการศึกษาและการพัฒนาบุคลากรที่เท่าทัน-เท่าเทียมความรู้และทักษะยุคใหม่อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งระดับการศึกษาพื้นฐาน การศึกษาอาชีวะ และอุดมศึกษา
ถ้าย้อนไปพิจารณาสภาพการศึกษาที่ต้องการการปรับตัว-ปรับสร้างความคิด การตระหนักรู้ และปฏิบัติการเพื่อการเปลี่ยนแปลงการศึกษา-การพัฒนาบุคลากรสู่โลกใบใหม่ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 จะพบว่าสภาพการศึกษาของบ้านเมืองเราก่อนหน้าที่จะขับเคลื่อนการศึกษาสู่โลกใหม่ ที่มีการปรับฐานคิด-ความคิดฝังลึก หรือมายด์เซต บนฐานของข้อเสนอเชิงมาตรการในระบบการพัฒนาบุคลากรในแบบอีอีซีโมเดล ที่ปรับทิศทางให้เข้าสู่ระบบที่ตอบโจทย์ความต้องการจริง หรือ demand driven ที่รับรู้กันในปัจจุบันนั้น
สภาพการศึกษาทั้งระบบถูกกดจม-ปิดกั้น-กดทับอยู่ในโลกใบเก่า ที่ลากยาวมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ผ่านเข้าศตวรรษที่ 20 โดยไม่มีท่าทีว่าจะจัดปรับตัวสู่โลกศตวรรษที่ 21 ได้เลย! ไม่ว่าจากสภาวะของความรู้-ทักษะ หรือระบบระเบียบที่รวมศูนย์โดยรัฐราชการ ทำให้การศึกษาที่ก่อรูปจากแก่นแกนของภารกิจในการสร้าง-สะสมทุนให้กับทรัพยากรมนุษย์ ถูกบิดเบือนไปจนกลายเป็นแค่เครื่องประดับของชีวิตในสังคม ที่ต้องการแค่ใบปริญญาเพื่อแสดงตัวตน-โดยไม่มีความรู้และทักษะแท้จริง! สภาพดังกล่าวก่อตัวเป็นค่านิยมที่ส่งผลเสีย-ความสูญเปล่ามากมหาศาลให้สังคมและระบบการศึกษาไทยยิ่ง!
ผู้คนมุ่งไขว่คว้าหาปริญญา-สมาทานปริญญากันเต็มบ้านเมือง แต่ไม่มีงานทำ-ตกงาน ไม่มีความรู้และขาดทักษะในการดำรงชีวิต มีสภาวะบิดเบือนการพัฒนาเศรษฐกิจและความก้าวหน้าของตนเอง สภาพเยี่ยงนี้ขยายกว้างขึ้นจนกลายเป็นหุบเหวปัญหาที่ลึกกว้าง-เวิ้งว้างต้องการการฟื้นฟูเยียวยาอย่างจริงจัง ด้วยว่า โลกเปลี่ยน-ประเทศต้องการสร้างความก้าวหน้าใหม่ให้เท่าทันโลกใหม่ ซึ่งเป็นโลกที่มีพลวัตการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ต่างจากโลกเก่าเกือบจะสิ้นเชิง ไม่พึ่งพาฐานความรู้และทักษะแบบเก่าอีกต่อไป เป็นการเปลี่ยนแปลงจากโลกอนาล็อกสู่โลกดิจิทัล ที่การศึกษาต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยและท้าทายยิ่ง!
ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ การปรับสร้างทิศทางการศึกษา-การพัฒนาคนยุคใหม่ เริ่มขึ้นจากการสำรวจความก้าวหน้าใหม่ของคณะทำงานด้านการพัฒนาบุคลากรใน EEC ที่ศึกษาตามแนวนโยบายการพัฒนาประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดขึ้น 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยสำรวจระดับความรู้-ความต้องการบุคลากรทั้งในเชิงจำนวนปริมาณและคุณภาพตามความต้องการจริง ซึ่งมีผลสรุปจำนวนความต้องการกว่า 5 แสนคนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มความต้องการระดับอาชีวะราวร้อยละ 54 จากความต้องการบุคลากรทั้งหมด
ตัวเลขจำนวนรวมของความต้องการนี้ ถูกนำเสนอเพื่อกระตุ้นให้สังคมรับรู้ว่าการศึกษาที่ผลิตบุคลากรอยู่ต้องปรับตัวตอบโจทย์ความก้าวหน้ายุคใหม่ที่เป็นจริง ไม่อาจผลิตบุคลากรตามสภาพที่เป็นมา-เคยชินอย่างขาดความรับผิดชอบอีกต่อไป! เพราะจำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่ตกงานแต่ละปีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ ประกอบกับมีความเรียกร้องต้องการเป็นแรงผลักดันจากสถานประกอบการมากมายดังกระหึ่มขึ้น และสะท้อนอย่างตรงไปตรงมาว่าบุคลากรจากสถาบันการศึกษานั้นไม่ตอบโจทย์ความรู้และทักษะที่ผู้ประกอบการต้องการ! ฯลฯ ภาพรวมดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริงที่สั่นคลอนระบบการศึกษายุคเก่าว่าไม่อาจเพิกเฉย-ทำมาหากินแบบเดิมอีกต่อไป!
ในอีกด้านหนึ่งก็มีความเรียกร้องต้องการจากบุคลากรในสถาบันการศึกษาเองหลายกลุ่มมากขึ้น ว่ามีความต้องการปรับตัว-เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ที่ต้องการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความก้าวหน้าใหม่ ที่รุกคืบเข้าสู่วิถีชีวิต-สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งระบบทุกขณะ ทั้งในกลุ่มการผลิตและบริการ รวมถึงการพัฒนาสร้างตนของผู้ประกอบการยุคใหม่ด้วย ผลรวมเหล่านี้ได้นำสู่การปรับตัวขนานใหญ่หลากมิติ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับสร้างความก้าวหน้าใหม่-การรื้อสร้างระบบระเบียบใหม่ของการศึกษา ซึ่งก่อตัวขึ้นจากการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องและรุนแรงที่ต้องการตอบสนองการพัฒนาบุคลากรในพื้นที่ EEC ที่มาจากความเรียกร้องต้องการจริงของผู้ประกอบการทั้งภาคการผลิตและบริการ เป็นเหมือนลูกไฟก้อนใหญ่ที่โหมกระพือทำให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหา ร่วมสร้างความก้าวหน้าในโลกใหม่นี้ร่วมกันอย่างจริงจัง
ผลจากการมุ่งมั่นรื้อสร้างการศึกษาโลกเก่าสู่การศึกษา-การพัฒนาบุคลากรโลกใหม่นั้น มีต้นแบบที่ดี-ที่ความก้าวหน้ารวดเร็ว-น่าสนใจ จากบทเรียนของ “วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี” ที่เกิดจากความมุ่งมั่นของผู้นำในการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาการศึกษาอาชีวะยุคใหม่ บนฐานความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ ที่ได้เชื่อมประสานสร้างความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม-ผู้ประกอบการในท้องถิ่นและนานาชาติ เข้าร่วมปรับสร้างกระบวนการการศึกษาของสถาบันใหม่ทั้งระบบ ใช้เวลาราว 3 ปีเปลี่ยนวิทยาลัยคอกหมูเก่าๆ โทรมๆ เป็นวิทยาลัยชั้นนำของประเทศและของภูมิภาคอาเซียน รื้อสร้างใหม่ทั้งระบบตั้งแต่เรื่องความคิด-สำนึก-วินัย-ความรู้-ทักษะ-จนถึงการเรียนการสอน-การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความรับผิดชอบร่วมกันฯ ทุกความเคลื่อนไหวปั้นสร้างขึ้นจากความร่วมมือภาคเอกชน-ผู้ประกอบการทุกสาขา ตั้งแต่สาขาระบบราง ยานยนต์สมัยใหม่ แมคคาทรอนิกส์ หุ่นยนต์ ออโตเมชัน โลจิสติกส์ จนถึงสาขาก่อสร้างฯ
วันนี้ผู้บริหาร ครูอาจารย์ เด็กนักเรียนทุกคนในวิทยาลัยเทคนิคชลบุรี พัฒนาตนสร้างวินัยในการอยู่ร่วมกันและมีการศึกษาแต่ละสาขาวิชาจนก้าวหน้าทันโลก เด็กที่จบจากที่นี่ทุกคนมีงานทำทันที-เป็นที่ต้องการของภาคอุตสาหกรรม-ผู้ประกอบการ เป็นต้นแบบการรื้อสร้างการศึกษาที่สำคัญ-ที่ใช้เวลาสั้นและประหยัดงบฯ มหาศาล!!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024