เปิดเหตุผล กมธ.สภาฯ กับข้อเสนอไทยควรมี 'กาสิโน'

ข้อเสนอให้ประเทศไทยควรมี กาสิโน-สถานที่เล่นการพนัน ที่เปิดอย่างถูกกฎหมาย เป็นเรื่องที่มีการพูดกันในสังคมไทยมาหลายสิบปีแล้ว แต่ด้วยความที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำให้เวลามีข้อเสนอดังกล่าวออกมาจะมีคนต่อต้าน ไม่เห็นด้วยจำนวนไม่น้อย อย่างในสภาผู้แทนราษฎร เรื่องการศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดกาสิโนในประเทศไทย มีนักการเมืองหลายยุคหลายสมัยออกมาจุดประเด็นดังกล่าว ที่ก็ตามมาด้วยทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบไป ไม่มีการเดินหน้าพิจารณาอย่างจริงจัง

สำหรับสภาชุดปัจจุบันก็เช่นกัน ขณะนี้ได้มีการศึกษาและพยายามผลักดันเรื่องนี้ ที่ถึงตอนนี้ก็ได้ข้อเสนอออกมา ตามรายงานของ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย  การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้าและการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตั้งโดยมติที่ประชุมสภาเมื่อ  2 ธันวาคม 2564 ซึ่งหลังใช้เวลาประชุมศึกษาแนวทางต่างๆ ร่วม 8 เดือน ในที่สุดคณะกรรมาธิการก็ได้ทำรายงานข้อเสนอเรื่องการเปิดกาสิโนและเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกมาอย่างเป็นทางการ

ภาดาท์ วรกานนท์ ส..กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร  (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายฯ ของสภาผู้แทนราษฎร สรุปผลการทำงานและข้อเสนอของกรรมาธิการว่า การทำงานของกรรมาธิการเกิดขึ้นมาจากประเด็นคือ ข้อเสนออยากให้มีการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย ที่ต่อมาได้มี ส.ส.หลายคนได้เข้าชื่อร่วมกันยื่นญัตติขอให้สภามีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย จนสภามีมติตั้งคณะกรรมาธิการชุดดังกล่าว โดยกรรมาธิการไม่ได้ศึกษาเฉพาะแค่การเปิดกาสิโนอย่างเดียว แต่ศึกษาในสิ่งที่เราเรียกว่า สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งคำนิยามหมายถึงอาคารขนาดใหญ่ หรือกลุ่มอาคารที่ประกอบด้วยห้อง หรือส่วนต่างๆ สำหรับประกอบกิจกรรมเพื่อความบันเทิง ความเพลิดเพลิน ที่อาจประกอบด้วยองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า  ธนาคาร โรงพยาบาล สวนสนุก สนามกีฬา หอประชุมต่างๆ รวมถึงกาสิโนด้วย

การทำงานของคณะกรรมาธิการประชุมทั้งหมด 24  ครั้ง โดยเริ่มประชุมและศึกษาตั้งแต่ 3 ธ.ค.64 ถึงวันที่ 30  ก.ค.65 ไปดูงานและสัมมนาในพื้นที่ต่างๆ รวมสามครั้งด้วยกัน คือที่ตาก, เชียงราย, สระแก้ว ซึ่งตลอดการพิจารณาคณะกรรมาธิการได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาให้ข้อมูล เช่น กระทรวงการคลัง  กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคเอกชน เพื่อต้องการได้ข้อมูลและข้อห่วงใยต่างๆ

กรอบการพิจารณาของ กมธ.มีทั้งสิ้น 4 ประเด็น คือ 1.กรอบของกฎหมายและการจัดเก็บรายได้และภาษี 2. การป้องกันปัญหาและแก้ไขผลกระทบ และการศึกษาพื้นที่ซึ่งมีความเป็นไปได้ 3.การลงทุนและรูปแบบของการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร 4.รูปแบบธุรกิจ Gambling  จากแนวทางที่วางไว้ กรรมาธิการจึงตั้งอนุกรรมาธิการขึ้นมาอีก 4 คณะเพื่อศึกษาให้สอดคล้องไปกับ 4 ประเด็นที่กรรมาธิการต้องการศึกษา

หลังจากคณะอนุกรรมาธิการทั้ง 4 ชุดศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้นำเสนอรายงานผลการศึกษาต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ จนออกมาเป็นร่างรายงานของคณะกรรมาธิการที่ได้ยื่นให้สภาแล้ว ก็อยากเร่งให้มีการพิจารณาให้ทันในสมัยประชุมสภาสมัยนี้ แต่อยู่ที่การจัดลำดับความสำคัญในการพิจารณาแต่ละเรื่อง

 -ผลการศึกษาที่ออกมา กรรมาธิการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร การเปิดกาสิโน?

กรรมาธิการส่วนใหญ่ก็มีมติเห็นด้วยที่จะให้รัฐบาลนำร่างนี้ไปพิจารณาศึกษาความเป็นไปได้ต่อ เพราะในลำดับชั้นกรรมาธิการเรามีสิทธิ์แค่พิจารณาศึกษาความเป็นไปได้  โดยขั้นตอนต่อไปหากรัฐบาลเห็นด้วย ก็คงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในการศึกษาประเด็นต่างๆ ต่อไป ที่ละเอียดกว่าที่คณะกรรมาธิการศึกษามา

      โดยกรรมาธิการเห็นด้วยที่อยากจะให้พิจารณาศึกษา  โดยเหตุผลที่เห็นด้วยคือ เราเชื่อว่าจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งเสริมเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ ทำให้คนในพื้นที่ซึ่งมีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการจ้างงาน จ้างอาชีพ เกิดการลงทุนในพื้นที่ ส่วนภาครัฐจะทำให้สามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น  เราเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเงินที่รั่วไหลออกนอกประเทศได้ รวมถึงคาดหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย โดยนำขึ้นมาให้ถูกกฎหมาย แต่ก็ต้องมาคุยกันในรายละเอียดถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของคนที่จะสามารถเข้าไปเล่นได้ จะต้องมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอย่างไรบ้าง

ส่วนการศึกษาการเปิดกาสิโนในต่างประเทศ  กรรมาธิการคุยกันถึงตัวอย่างในต่างประเทศก็มีเช่น สิงคโปร์ ที่เป็นหนึ่งในประเทศที่ทำแล้วประสบความสำเร็จในการเปิดแบบถูกกฎหมาย จากเดิมที่สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎหมายว่าการเล่นการพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่สุดท้ายสิงคโปร์ก็เห็นว่าสิ่งนี้จะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นมีรายได้มากขึ้น ซึ่งสิงคโปร์ก็ประสบความสำเร็จ สามารถจัดเก็บรายได้เข้าประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมี เขตบริหารพิเศษมาเก๊า ที่เฟื่องฟูมากและมีการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และที่ลาสเวกัส  สหรัฐอเมริกาที่คนทั้งโลกรู้จัก ซึ่งเป็นโมเดลที่น่าสนใจมาก  เพราะรัฐเนวาดาเป็นพื้นที่ทะเลทราย แห้งแล้งมาก ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลเขาฉลาดมากที่เอาสถานบันเทิงเหล่านี้เข้าไปอยู่ในทะเลทราย ทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวขึ้นมา อย่างตัวเราเองก็เสนอในที่ประชุมกรรมาธิการว่า อยากเสนอให้ทำในจังหวัดแห้งแล้งกันดาร ที่ไม่ค่อยมีทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้มากขึ้น แต่บางคนก็เสนอว่าควรให้ไปลงในจังหวัดที่มีความเจริญแล้ว รวมถึงประเทศแอนติกาฯ ที่เคยเป็นหนึ่งในประเทศอาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในประเทศเครือจักรภพ หลักๆ คณะกรรมาธิการก็พิจารณาจากตัวอย่าง 4 ประเทศดังกล่าว

นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการมีการเชิญนักลงทุนมาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จได้ต้องทำอย่างไร และเขามีกระบวนการลองผิดลองถูกอย่างไร เพื่อที่จะได้เรียนรู้การลองผิดลองถูกจากเขา โดยมีนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศ เช่นนักลงทุนจากประเทศจีน นักลงทุนที่สหรัฐอเมริกาที่มีประสบการณ์มาเล่าให้กรรมาธิการฟัง ว่าก่อนหน้านี้ที่เขาทำเจอปัญหาอะไรบ้าง  มีอุปสรรคอะไรบ้าง

เสนอสามกลุ่มพื้นที่เปิดกาสิโน

เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

-ในข้อเสนอแนวทางการทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ กรรมาธิการได้เสนอว่าควรทำในพื้นที่ใดหรือไม่ เช่นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือแหล่งท่องเที่ยว

กรรมาธิการได้เสนอไว้สามพื้นที่แบบกว้างๆ โดยจำแนกเป็นประเภทของพื้นที่

กลุ่มประเภทแรกคือ อยากให้เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรืออีอีซี ที่ครอบคลุมตอนนี้มีทั้งสิ้น 17 จังหวัด 

กลุ่มที่สองคือ พื้นที่ท่องเที่ยว เมืองหลักที่ครอบคลุม  22 จังหวัด

กลุ่มประเภทที่สามคือ พื้นที่ชายแดน มีประมาณ 22  จังหวัด

คณะกรรมาธิการอยากจะเสนอรัฐบาลไว้กว้างๆ แบบนี้ เพื่อให้รัฐบาลไปพิจารณาศึกษาต่อ เราไม่อยากระบุไปว่าเป็นจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ซึ่งในที่ประชุมกรรมาธิการก็มีกรรมาธิการบางคนเสนอว่าให้ระบุไปว่าเป็นจังหวัดใด แต่สุดท้ายกรรมาธิการเห็นว่าควรเสนอให้เป็นกลุ่มพื้นที่แบบกว้างๆ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นก็อาจมีคนแย้งว่าทำไมไม่เสนอให้เปิดที่จังหวัดนี้ จนอาจเกิดข้อพิพาทไม่จบไม่สิ้น  รวมถึงอาจเกิดกรณีที่คนอาจไปคาดหวังว่า ถ้ามีการไปเปิดที่จังหวัดใด ก็อาจจะทำให้มูลค่าที่ดินในจังหวัดดังกล่าวสูงขึ้น มีคนไปแย่งกันซื้อที่ดินกันไว้ก็ได้ กรรมาธิการก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น กรรมาธิการจึงมีข้อเสนอออกมาเป็นกลุ่มพื้นที่กว้างๆ เพราะเมื่อถึงเวลา รัฐบาลจะเป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง

-ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐที่มาให้ความเห็นกับกรรมาธิการ มีที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโนหรือไม่  และมีข้อเป็นห่วงเรื่องใด?

ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาแสดงความเห็นในเชิงเป็นห่วง แต่เราจะมาถกเถียงพูดคุยกันในเชิงกฎหมาย เช่นการจัดเก็บภาษี เช่นกระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต มาคุยกันว่ามีข้อห่วงใยหรือมีข้อกฎหมายอะไรบ้างที่เป็นอุปสรรคอยู่ และเราต้องไปดำเนินการแก้ไข แต่โดยหลักแล้ว กฎหมายของเราเปิดช่องให้เราสามารถทำสถานบันเทิงเหล่านี้ให้ถูกกฎหมายได้ โดยก็ไปทำตามขั้นตอน เช่นไปแก้ไขกฎหมายบางอย่าง หรือไปเพิ่มบัญชีแนบท้ายในพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย โดยการเพิ่มประเภทของการพนันในบัญชีแนบท้าย บัญชี ก. และบัญชี ข. ท้ายพระราชบัญญัติที่สามารถทำได้ โดยกระทรวงมหาดไทยเป็นฝ่ายออกกฎกระทรวง ไม่มีปัญหาใดๆ แต่อาจต้องใช้เวลา เพราะเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง แต่รัฐบาลอาจต้องไปประเมินสำรวจความเห็นประชาชนว่ามีความเห็นอย่างไรเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง

สำหรับการทำโพลถามความเห็นประชาชน คณะกรรมาธิการให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาเป็นคนทำ  โดยเป็นการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับการเปิด สถานบันเทิงแบบครบวงจร ที่ประกอบไปด้วยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่กาสิโนอย่างเดียว ผลสำรวจก็ออกมาว่า  80.67 เปอร์เซ็นต์เห็นด้วย แต่ก็เป็นการเห็นด้วยที่มีข้อสังเกตว่า อยากให้ไปพิจารณาเพิ่มในเรื่องเงื่อนไขของการเปิด เช่นบุคคลประเภทใดที่จะเข้าไปในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ เพราะคนก็มีความกังวลกัน เช่นกลัวว่าเด็กและเยาวชน หรือกลัวผู้มีรายได้น้อยเข้าไปแล้วจะเกิดปัญหาตามมาเกี่ยวกับครอบครัวหรือธุรกิจของผู้เข้าไป 

ซึ่งในผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ เราก็ได้มีการคุยกันคร่าวๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้เคาะว่าจะต้องเอาเกณฑ์ตามนี้ ก็มีการคุยกันว่าสำหรับเกณฑ์ของบุคคลที่จะเข้าไปใช้บริการอาจจะมีหลักเกณฑ์ เช่นสำหรับคนไทยต้องมีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป และต้องแสดงสถานะการเงินย้อนหลังไป 6 เดือน ต้องมีทุนหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยคนไทยหากจะเข้าไปต้องมีการจ่ายค่าเข้าด้วย  และต้องถูกจัดเก็บภาษีจากรายได้ที่เขาได้จากการเข้าไปในกาสิโน และภาษีอสังหาริมทรัพย์จากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์รายปีของพื้นที่บริเวณที่มีการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะต้องมีการพิจารณากันใหม่ รวมถึงมีภาษีเงินได้สำหรับพนักงานชาวต่างชาติที่มาให้บริการหรือมาทำงานในสถานบันเทิง เพื่อป้องกันหรือกระตุ้นให้ผู้ประกอบการจ้างงานคนในประเทศมากกว่า เพราะเราอยากให้มีการจ้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่บริเวณที่มีการทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่เราก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีชาวต่างชาติมาสมัครทำงาน ซึ่งหากมาทำต้องถูกเก็บภาษีด้วย

-คนต่างชาติที่จะเข้าไปในกาสิโน จะต้องมีลักษณะอย่างไร?

เรายังไม่ได้คุยกันถึงขั้นนั้น แต่ว่าจริงๆ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ควรเข้าได้หากอายุเกินเกณฑ์ที่กำหนด  กรรมาธิการไม่ค่อยกังวลเรื่องคนต่างชาติที่จะเข้าไป แต่เรากังวลคนไทย เพราะเราเป็นห่วงเรื่องสภาวะเศรษฐกิจ หากเขามีรายได้น้อย แล้วหวังจะมาเล่นทางนี้ (กาสิโน) ก็อาจจะเกิดเป็นปัญหากับเขาได้

เกิดการจ้างงานขั้นต่ำ 3 หมื่นคน

ดึงนักท่องเที่ยวได้ 20 ล้านคนต่อปี

 -กมธ.มีการศึกษาเรื่องรายได้หากมีการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่ ว่าหากมีการทำแล้วประเทศจะมีรายได้ในส่วนนี้เท่าใด จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเมืองไทยเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน?

มีการประเมินโดยอ้างอิงจากของต่างประเทศที่เขาทำเรื่องนี้ โดยเราคาดว่าน่าจะเกิดการจ้างงานอย่างน้อยๆ  สามหมื่นคน แต่เราก็ยังไม่ได้คุยกันว่าจะเปิดทั้งหมดกี่แห่ง  แต่แน่นอนว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก

และจะทำให้เราดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ 20 ล้านคนต่อปี ซึ่งปกติประเทศไทยเราก็มีนักท่องเที่ยวเยอะขนาดนั้นอยู่แล้ว แต่หากมีการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็อาจจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาไทยเพิ่มขึ้น

สำหรับเรื่องการจัดเก็บภาษี เมื่อเทียบกับที่สหรัฐอเมริกาที่เขาจัดเก็บได้คือ 1.7-2.4 พันล้านดอลลาร์ต่อปี  เราอ้างอิงจากเขา แต่ของไทยเราเองจะให้กำหนดเรื่องนี้  ตอนนี้เรายังไม่แน่ใจเลยว่าจะให้มีการทำกี่แห่ง แต่เรามั่นใจว่าหากทำจะทำให้มีรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นแน่นอน แต่ว่าหากข้อเสนอของกรรมาธิการส่งไปที่รัฐบาล แล้วมีการเคาะออกมาว่าจะให้เปิดตรงไหน จะเปิดกี่แห่ง  หลังจากนั้นเราน่าจะสามารถสรุปได้ชัดมากกว่านี้ว่าจะมีรายได้จากส่วนนี้ประมาณเท่าใด

-กมธ.มีข้อเสนอหรือไม่ว่า หากจะมีการลงทุนทำ  เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ฝ่ายไหนควรเป็นคนลงทุน และหากต่างชาติจะมาทำต้องถือหุ้นไม่เกินเท่าใด?

คณะกรรมาธิการได้เขียนไว้ในรายงานในหัวข้อ ประเด็นด้านกฎหมายและการจัดเก็บภาษี ได้บอกไว้ว่า  "กฎหมายเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถเปิดสถานกาสิโนที่ถูกกฎหมายได้ โดยสถานกาสิโนที่ตั้งขึ้นต้องเป็นของรัฐบาล และผู้จัดตั้งจะต้องเป็นกระทรวงการคลังเท่านั้น เว้นแต่รัฐบาลให้สัมปทานกับเอกชนเป็นผู้ดำเนินการแทน" ก็คือรัฐบาลเป็นเจ้าของแต่สามารถให้สัมปทานกับเอกชนมาทำได้ เพราะการเปิดสถานบันเทิงลักษณะดังกล่าวประกอบไปด้วยหลายอย่างมาก จึงใช้เงินลงทุนสูง หากรัฐบาลจะลงมาเรามองว่าเป็นการใช้เม็ดเงินที่เยอะมาก และรัฐบาลอาจไม่ได้มี know-how รวมถึงประสบการณ์ในการทำ

การที่เราจะให้เอกชนใช้ประสบการณ์ที่เขามีมาช่วยก็น่าจะเป็นประโยชน์กว่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะให้สัมปทานอย่างไร และจะเป็นสัดส่วนการลงทุนเท่าใด อันนี้ยังไม่ได้ระบุไว้ อันนี้คือข้อเสนอของกรรมาธิการ แต่สุดท้ายเสนอไปแล้ว รัฐบาลก็ต้องพิจารณาเคาะออกมาอีกที  โดยการทำนั้นอาจจะมี sizing ที่ไม่เหมือนกัน เช่นบางจังหวัดอาจเป็นขนาด SML ก็อยู่ที่แต่ละจังหวัด ที่จะมีเรื่องของการคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค จะเอื้อมากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่รัฐบาลจะพิจารณา ที่ก็อาจจะทำนำร่องก่อน โดยการเปิดแบบขนาดเล็กจุดเดียวก่อน จากนั้นก็ศึกษาความเป็นไปได้ แล้วค่อยขยายไปพื้นที่อื่น ซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าน่าจะเปิดนำร่องสักหนึ่งแห่งก่อนเพื่อดูความเป็นไปได้ แล้วค่อยขยาย คงไม่เปิดทีเดียวหลายแห่ง

-เรื่องการเปิดกาสิโนเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในสังคมไทย มักจะมีเสียงคัดค้านต่อต้านไม่เห็นด้วย  โดยยกเรื่องศีลธรรม ก็อาจทำให้มีเสียงคัดค้านข้อเสนอของกรรมาธิการ?

ความพยายามที่จะเปิดสถานบันเทิงลักษณะดังกล่าว ไม่ได้เพิ่งมีในสภายุคปัจจุบันเป็นครั้งแรก แต่ที่ผ่านมาเกือบทุกยุคของสภาก็มีการเสนอเรื่องนี้เกือบทุกยุค เพียงแต่ว่ามันยังผลักดันไปไม่ถึง ยังไม่สำเร็จ พวกเราก็คาดหวังว่าวันนี้เมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนไป เราคิดว่ามันอาจถึงเวลาที่เราสามารถทำได้โดยทำอย่างมีเงื่อนไข ก็คือว่าเราอาจจะกำหนดเกณฑ์ของคนที่จะเข้ารวมถึงผู้เล่นให้เรียบร้อยชัดเจน สุดท้ายเชื่อว่าประชาชนอย่างที่มีการไปทำโพลมา ที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยเพราะว่าไม่ได้ให้เปิดแค่กาสิโนที่เป็นเรื่องพนันอย่างเดียว แต่เรามีการเปิดทั้งโรงแรม สถานที่จัดนิทรรศการ คือจะมีหลายอย่างรายล้อม ซึ่งทุกคนน่าจะแฮปปี้ที่เศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น คนมีงานทำมากขึ้น มีเงินเข้าในกระเป๋าแน่นอน เพียงแต่ต้องมีข้อพึงระวัง คือมีเงื่อนไขที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา เช่นต้องไม่ให้เด็กเข้าไป หรือคนที่จะเข้าไปได้ต้องมีปริมาณเงินหมุนเวียนของตัวเองประมาณเท่าใด

แน่นอนว่าต้องมีแรงต้านอยู่แล้ว เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่อ่อนไหว เช่นเรื่องศาสนา ปัญหาครอบครัว ซึ่งการจะให้เปิดสถานบันเทิงแบบนี้เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของรัฐบาล แต่สุดท้ายเราก็ต้องฟังความเห็นส่วนใหญ่ของประชาชน อย่างที่สำรวจมาที่ประชาชนร้อยละ 80 เห็นด้วย เราก็คิดว่าก็เป็นฉันทามติของคนในประเทศที่สุ่มตัวอย่างแล้วเห็นด้วย แต่ก็มีอีก 20 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องปกติ

-หากประเทศไทยไม่ทำเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ มองว่าจะเสียโอกาสมากน้อยแค่ไหน?

ความเห็นส่วนใหญ่ของกรรมาธิการก็เห็นว่าจะเป็นเรื่องการเสียโอกาส เพราะยุคนี้ถ้าเรามีการร่างกฎเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆ ชัดเจน มันเป็นโอกาสที่ดีของประเทศในการสร้างรายได้เข้าประเทศ เพราะถ้าเราไม่ทำ ประเทศเพื่อนบ้านเขาทำกันหมดแล้ว มันก็น่าเสียดายเงินลงทุน เม็ดเงินที่จะเข้ามา ไม่ว่าจะในเชิงการท่องเที่ยว การจ้างงาน ก็จะไหลไปประเทศเพื่อนบ้านหมด ใกล้ๆ เราก็สิงคโปร์ มาเก๊า ก็น่าเสียดาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็เคารพเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศ ถ้าสุดท้ายคนส่วนใหญ่ของประเทศบอกว่าไม่พร้อม ไม่เห็นด้วย เพราะประเทศเรามีเรื่องของศาสนา เราเป็นเมืองพุทธ หรือพี่น้องชาวมุสลิมอาจจะไม่เห็นด้วย เราก็ต้องรอรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งหนึ่ง

เราถามปิดท้ายว่า ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ ถ้าประชาชนถามว่าการจะเปิดหรือไม่เปิดกาสิโน และเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ประเทศได้อะไรหรือเสียอะไร  จะตอบอย่างไร ภาดาท์ โฆษก กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ย้ำว่า เรามองว่าการเปิดไม่ใช่แค่เปิดกาสิโนอย่างเดียว แต่กาสิโนเป็นเหมือนหนึ่งหน่วยที่จะเปิด เพราะสิ่งที่เราพิจารณา หากจะเปิดแค่กาสิโนอย่างเดียวเราไม่เปิดแน่นอน แต่ต้องเปิดเป็นสถานบันเทิงครบวงจร ที่ต้องมีเช่น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ มีโรงแรมและอีกหลายอย่าง ถ้าเป็นลักษณะแบบนี้เราเห็นด้วยมากๆ  ที่สำคัญเราก็มองเห็นเรื่องของเม็ดเงินที่จะไหลเข้ามาในประเทศ บวกกับเงินลงทุนของนักลงทุนที่จะเข้ามา ซึ่งเมื่อมีการลงทุนเมื่อใด บริเวณดังกล่าวก็จะมีการจ้างงานสร้างอาชีพ ตั้งแต่เริ่มมีการก่อสร้าง ทำให้มีการจ้างงาน ทำงาน ทำให้บริเวณดังกล่าวก็มีการค้าขายคึกคักขึ้น และเมื่อก่อสร้างสำเร็จแล้วมีแหล่งสถานที่ต่างๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ก็จะมีการจ้างพนักงานตามมา

เรามองโดยส่วนรวมแล้วข้อดีมันมีมากพอสมควร แต่เราก็ไม่ได้ละทิ้งข้อควรระวังที่เป็นข้อห่วงใยของหลายฝ่าย เช่นข้อกังวลเรื่องปัญหาอาชญกรรม ถ้าคนไม่ได้มีฐานะแล้วมาเล่น แล้วต่อมามีปัญหาครอบครัว เกิดปัญหาอาชญากรรม ตรงนี้ก็ต้องมีการร่างกฎเกณฑ์มาครอบเอาไว้ เช่นคนที่จะเข้ามาเล่นได้จะต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในธนาคารขั้นต่ำเท่าใด หรือบางประเทศให้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ คนต่างชาติเข้าไปเล่น แต่คนในประเทศไม่ให้เข้า  เราก็เคยคุยกันว่าหรือควรไปเปิดที่เกาะดี เพื่อจะได้จำกัดการเข้าของคนได้ง่ายขึ้น ช่องทางการเข้าไปอาจจะให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไป แต่ให้จ้างคนไทยทำงาน ก็เป็นไปได้ ก็มีหลายโมเดลพึงระวังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่คนห่วงใย.

โดย วรพล กิตติรัตวรางกูร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คนเถื่อนที่ไร้ธรรม .. ในวิกฤตการณ์โลกเดือด!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในภาวะวิกฤตการณ์ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ก่อเกิดสภาวะโลกร้อน (Global warming) อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นจากภาวะเรือนกระจก

ส่อเลื่อนประชามติ รอแก้กฎหมาย ร่างรธน.ฉบับใหม่ ต้องไม่จุดไฟความขัดแย้ง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา รับทราบ รายงานผลการดำเนินงานของ”คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ

บทธรรมดับโลกร้อน .. ที่นักปกครองต้องอ่าน!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โลกกำลังเข้าสู่ห้วงธรรมวิกฤต.. ที่มนุษยชาติประพฤติตนอยู่ในมิจฉาทิฏฐิ มีความโลภที่รุนแรงและราคะความกำหนัดที่ผิดธรรม .. เป็นส่วนใหญ่

กกต.เริ่มขยับ พร้อมงัด 'กฎเหล็ก' คุมเข้มเลือก สว. 2567

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

พนัส อดีตสว.-อดีตสสร. คัดเลือกสภาสูง 2567 ฝ่ายประชาธิปไตยมีสิทธิลุ้น

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง"สมาชิกวุฒิสภา"(สว.) ชุดใหม่ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ....

อย่าใหญ่เกินธรรมชาติ .. พ่อมหาจำเริญ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. ภาวะโลกร้อน (Global warming) .. อันเกิดเนื่องเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังอยู่ใต้ห้วงวิกฤตการณ์อันเนื่องจากการกระทำของคนเรา