ถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์ .. บนแผ่นดินอารยธรรม.. “ปากีสถาน”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๕.. ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ในทางพระพุทธศาสนาเป็นวันออกพรรษา สำหรับพระภิกษุที่อธิษฐานอยู่จำพรรษาในปุริมพรรษา.. ไตรมาสแรก เมื่อกรกฎาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา

ดังที่อาตมาและคณะสงฆ์รวม ๖ รูป ได้อธิษฐานอยู่จำพรรษา ณ นครตักกศิลา แคว้นคันธาระ ปัจจุบันอยู่ในเขตรัฐปัญจาบ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน.. ซึ่งนับว่าเป็นประวัติศาสตร์แห่งการจำพรรษาของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ภายหลังจากพระพุทธศาสนาสูญสิ้นไปจากชมพูทวีปตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ ๑๗ เป็นต้นมา...

การอธิษฐานอยู่จำพรรษา ครบ ๓ เดือน.. ณ นครตักกศิลา จึงมีความหมายในทางจิตวิญญาณของชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง และในทำนองเดียวกัน ก็เป็นเรื่องแปลกใหม่ในความรู้สึกของชาวปากีสถาน.. ด้วยไม่เคยมีพระสงฆ์ในพุทธศาสนามาอยู่จำพรรษาประกอบศาสนกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการบิณฑบาต.. การสวดมนต์ทำวัตร การปฏิบัติธรรมเดินจงกรม นั่งภาวนา.. และการใช้ชีวิตอย่างสงบเงียบของพระภิกษุตามพระธรรมวินัย ณ บ้านพักทางโบราณคดีของ Sir John Marshall หัวหน้านักโบราณคดีชาวอังกฤษ เจ้าของบ้านตัวจริงสมัยกว่า ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ปลูกสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่พัก.. ในระหว่างทำงานศึกษา ขุดค้น.. และบูรณะทางโบราณคดี.. ในโบราณสถานต่างๆ.. โดยเฉพาะพุทธสถานที่เป็นมรดกโลกในปัจจุบัน...

จึงเป็น ๓ เดือนที่ทรงคุณค่าความหมายของคณะสงฆ์ที่จะต้องเคร่งครัด.. แน่วแน่.. มั่นคงและซื่อตรงต่อการปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย เพื่อให้สมกับคำว่า.. การมาปฏิบัติธรรมเพื่อสืบจิตวิญญาณพระพุทธศาสนา.. สืบร่องรอยอารยธรรมแคว้นคันธาระมรดกโลก.. ทางพุทธศาสนา ให้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง เพื่อการสืบเนื่องต่อไป...

นอกจากการปฏิบัติศาสนกิจ.. ในเขตจำพรรษา ณ บ้านพักทางโบราณคดีของ Sir John Marshall ในเขตพิพิธภัณฑ์ตักกศิลา.. ที่รัฐบาลปากีสถานได้จัดมอบถวายให้เป็นที่พัก โดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวฯ แห่งรัฐปัญจาบ แล้ว ยังมีศาสนกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในระหว่างอยู่พรรษาที่มีหน่วยงาน.. บุคคลสำคัญๆ ในปากีสถาน ได้อาราธนานิมนต์ เพื่อการไปแสดงธรรม.. บรรยายธรรม.. ปฏิบัติศาสนกิจ.. อันเป็นไปเพื่อการเสริมสร้างศรัทธาปสาทะให้เกิดขึ้น จึงได้มีการกระทำการสัตตาหกรณียะฯ ตามพระธรรมวินัย เพื่อเดินทางไปตามกิจนิมนต์ดังกล่าว ..ไม่ว่าที่หุบเขาสวัต เมืองละฮอร์ นครอิสลามาบัด ตลอดจนถึงการรับนิมนต์กลับมาแสดงธรรม.. สั่งสอนพระภิกษุที่ประเทศไทยในระหว่างพรรษา

จึงต้องมีการจัดวางตารางการปฏิบัติศาสนกิจกันอย่างละเอียดพอสมควร.. โดยในหลายรายการต้องตัดออกไป.. เพื่อไม่ให้กระทบต่อการอยู่จำพรรษา.. ที่มีการศึกษาปฏิบัติกิจกันอย่างจริงจังต่อเนื่อง.. โดยเฉพาะการให้ธรรมอบรมแก่พระภิกษุ-สามเณรและคณะศิษย์ศรัทธา รวมเกือบ ๒๐ ชีวิต.. ที่มาอยู่ร่วมจำพรรษา ปฏิบัติธรรม ณ นครตักกศิลา.. ดังกล่าว

ในระหว่างการปฏิบัติธรรม.. พักจำพรรษาอย่างต่อเนื่อง ๓ เดือน ได้รับการดูแลอย่างดีจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในปากีสถาน โดยเฉพาะจาก ผู้ช่วยทูตทหารบกและภรรยา (พ.อ.อดิศักดิ์ โชวิเชียร และ น.ส.หทัยรัตน์ วารีสมานคุณ) พร้อมคณะศรัทธาชาวไทยที่เดินทางมาใส่บาตร ถวายสังฆทานอย่างต่อเนื่องเกือบทุกวัน

อีกทั้งยังได้รับการดูแลอย่างดีจากชาวปากีสถานในพื้นที่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์นครตักกศิลา ที่มี Mr.Muhammad Iqbal Khan เป็นผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์...

โดยเฉพาะการถวายการดูแลด้านความปลอดภัยอย่างดีจากรัฐบาลปากีสถาน ที่ได้ประสานสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานต่างๆ ด้านความมั่นคง ได้อำนวยการดูแลอย่างเต็มความสามารถ เรียกว่าหาจุดบกพร่องได้ยากในด้านการรักษาความปลอดภัย ทั้งในพิพิธภัณฑ์นครตักกศิลา สถานที่จำพรรษา.. ในทุกที่ที่เดินทางไปประกอบศาสนกิจ.. จะมีการแจ้งประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถวายการดูแลส่งต่อกันเป็นทอดๆ ทุกพื้นที่

จึงได้เห็นการเดินทางไปทัศนศึกษาในโบราณสถานต่างๆ ที่สำคัญๆ ของพระพุทธศาสนาที่เป็นมรดกโลก.. ไม่ว่าจะเป็นในหุบเขาตักกศิลา หุบเขาสวัต.. และหุบเขาเปศวาร์.. ตลอดจนถึงเมืองละฮอร์ในรัฐปัญจาบ

๓ เดือนแห่งการอธิษฐานอยู่จำพรรษาในสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน.. จึงเป็น ๓ เดือนแห่งการศึกษาค้นคว้าร่องรอยอารยธรรมคันธาระมรดกโลกทางพุทธศาสนา.. ซึ่งในทุกคืนวัน..จะต้องกลับมานั่งเขียนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพุทธศาสนาในมิติต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในร่องรอยอารยธรรมคันธาระ.. ให้เห็นความมีอยู่จริงของทุกๆ เมือง.. ในปัจจุบัน

ดังที่ได้รวบรวมเรื่องราวต่างๆ เชิงพิเคราะห์ จัดทำเป็นรูปเล่ม.. แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยคุณกมลทิพย์ เอฟเวนส์ ที่มีครอบครัวอยู่ลอนดอน อังกฤษ.. อดีตนักศึกษาอักษรศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยให้ชื่อหนังสือเล่มดังกล่าวว่า.. The Buddhist Civilization of Gandhara

ในเบื้องต้นได้จัดพิมพ์ถึง ๓,๐๐๐ เล่ม เพื่อมอบให้กับองค์กร บุคคล หน่วยงานต่างๆ ในสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน.. และจะจัดพิมพ์เพิ่มเติมต่อไป เพื่อเผยแผ่อารยธรรมพุทธศาสนาในแว่นแคว้นคันธาระที่เป็นมรดกโลกอันทรงคุณค่าไปทั่วโลก.. ทั้งนี้ จะได้มอบลิขสิทธิ์หนังสือเล่มดังกล่าวแก่รัฐบาลปากีสถาน โดยสำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์แห่ง Khyber Pakhtunkhwa เป็นผู้รับผิดชอบดูแล.. ซึ่งหนังสือเล่มดังกล่าว.. มีเรื่องราวอันสำคัญมากมายทางพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงกับโบราณคดี.. ดังปรากฏเป็นร่องรอยอารยธรรมคันธาระ ที่น่าศึกษายิ่ง... ดังที่ในหลายๆ ตอนได้นำมาตีพิมพ์เผยแผ่ในคอลัมน์ปักธงธรรม.. หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์แห่งนี้

บัดนี้ การอธิษฐานอยู่จำพรรษาครบ ๓ เดือน ได้ครบสมบูรณ์ เมื่อ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา.. คณะสงฆ์ โดยการนำของ พระอาจารย์อารยวังโส (MV. Arayawangso) รวมทั้งสิ้น ๖ รูป สามเณร ๑ รูป จึงได้กระทำการปวารณาออกพรรษาตามพระธรรมวินัย ณ นครตักกศิลา .. ในยามเย็นของวันดังกล่าว โดยมีคณะศรัทธาชาวพุทธเดินทางไปร่วมกันอนุโมทนาจำนวนมากกว่า ๑๕๐ คน.. ที่ได้ร่วมตักบาตรเทโวโรหณะ ในวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ที่ตรงกับวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ ณ ธรรมราชิกสถูป ที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างถวายไว้ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ.. เพื่อประกาศความสืบเนื่องอายุพระพุทธศาสนา สมัยพุทธศตวรรษที่ ๓ ที่ยังปรากฏอยู่เป็นมรดกทางอารยธรรมพุทธศาสนาให้เห็นเป็นประจักษ์ถึงปัจจุบัน

ในวันตักบาตรเทโวโรหณะ.. ณ นครตักกศิลา จึงนับเป็นประวัติศาสตร์ของการกลับมาอีกครั้งในศาสนกิจดังกล่าว.. ที่สูญหายไปจากแผ่นดินพุทธศาสนาฝ่ายเหนือมามากกว่าพันปี...

บรรยากาศในวันดังกล่าว.. จึงน่ายินดียิ่งเมื่อได้มีการประกอบศาสนกิจอย่างถูกต้อง สมบูรณ์ เหมาะควร ตามแบบฉบับมาตรฐานของพุทธศาสนา โดยมี นายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำปากีสถาน มาร่วมอำนวยการอย่างเต็มความศรัทธา.. ยังให้เกิดความยินดียิ่งในชาวไทยที่เดินทางมาร่วมงานมากกว่าร้อยกว่าชีวิต.. ท่ามกลางการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ตำรวจ.. สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ของรัฐปัญจาบ.. แห่งนครตักกศิลา ก่อนที่คณะศรัทธาชาวไทยจะเดินทางไปทัศนศึกษาต่อที่จูเลียนโบราณสถาน ซึ่งเคยเป็นมหาวิหารของพุทธศาสนาที่ยิ่งใหญ่ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ากนิษกมหาราช แห่งราชวงศ์กุษาณะ ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๖–๗....

สำหรับคณะศรัทธาสาธุชนจากประเทศไทยรวมมากกว่า ๑๕๐ คน นับเป็นกลุ่มคณะนักท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม-ศาสนา กลุ่มแรก ที่มีจำนวนมากที่สุด.. ในการเดินทางเข้าสู่สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน เพื่อจาริกแสวงบุญไปตามโบราณสถานต่างๆ ของพุทธศาสนา โดยมีกำหนดการเดินทางเข้าสู่นครเปศวาร์ รัฐ Khyber Pakhtukhwa... นครละฮอร์ รัฐปัญจาบ.. ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ นี้ โดยสายการบินไทย

ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งหมดที่เดินทางไปสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานในครั้งนี้ จะได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ.. ถวายผ้ากฐินครั้งประวัติศาสตร์.. แด่คณะสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส.. ณ นครตักกศิลา ที่มี MV. Arayawangso .. ของชาวปากีสถาน เป็นประธาน.. ที่กำหนดการจัดงานถวายผ้ากฐินประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ดังกล่าว ในวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๕.. ณ โบราณสถานที่พัก Sir John Marshall นครตักกศิลา... ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้จัดให้มีงานประกอบศาสนกิจดังกล่าวขึ้น.. ในสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน.. นับเนื่องมายาวนานมากกว่าพันปี ตั้งแต่พุทธศาสนาสูญสิ้นไปจากชมพูทวีป

การจัดงานทางพุทธศาสนาครั้งยิ่งใหญ่ดังกล่าว อันเนื่องมาจากการมาอยู่จำพรรษาของคณะสงฆ์.. คณะแรกของพุทธศาสนา ในสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย.. ถ้ารัฐบาลปากีสถานและประชาชนชาวปากีสถาน ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามเกือบทั้งประเทศ.. ไม่ยินดี...

จึงควรอย่างยิ่งต่อการขอบคุณ .. อนุโมทนาในน้ำใจของพี่น้องชาวปากีสถานและรัฐบาลปากีสถาน ที่ได้เปิดโอกาส.. เปิดประเทศตอบรับชาวพุทธจากประเทศไทย.. และจากทั่วโลก.. เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความจริงแท้ของชาวปากีสถานว่า.. มีหัวใจที่รักสันติภาพ.. ความสงบสุขอย่างแท้จริง... และมีความเป็นมิตรกับเพื่อนมนุษย์จากทั่วโลก.. แม้จะต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา.. สำคัญอย่างยิ่งคือ การแสดงความมีไมตรีจิตที่ดีต่อประชาชนชาวไทย ที่สืบเนื่องความสัมพันธ์ที่ดีทางการทูตมายาวนานถึง ๗๐ ปี...

จึงเชื่อมั่นว่า.. ภาพลักษณ์ของสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานแท้จริง ที่ถ่ายทอดผ่านไมตรีจิตของชาวปากีสถาน.. สู่ชาวไทย จากการเดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจ ณ นครตักกศิลา.. ในครั้งนี้ จะได้เผยแผ่ไปทั่วโลก.. เพื่อเชิญชวนชาวโลกจากทุกประเทศ.. จากทุกศาสนา ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน.. สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน... ที่รอคอยการมาเยือน.. ด้วยจิตใจที่มีความยินดี.. มีความรักเพื่อนมนุษย์ ด้วย “หัวใจแห่งสันติธรรม” .. แท้จริง!!.

 

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลัทธิผีบุญ .. ภัยร้ายต่อพระศาสนา!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปัญหาของพุทธศาสนาในปัจจุบันที่ยังเจริญเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การยึดถือคำสอนที่ผิดเพี้ยนไปจากพระสัทธรรมดั้งเดิม...

คุณค่าแท้–คุณค่าเทียม ที่ชาวพุทธควรคำนึง..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. คำว่า “วิกฤตศรัทธา” เริ่มมีการพูดถึงกันมากในห้วงเวลานี้ ด้วยเหตุปัจจัยในเรื่องนั้น ที่นำไปสู่ความสั่นคลอนในความเชื่อมั่น ที่เคยอบรมสั่งสมมานานในสิ่งนั้นๆ เรื่องนั้นๆ บุคคลนั้นๆ.. ซึ่งนับเป็นเรื่องปกติของวิถีชีวิตสัตว์ทั้งหลายที่พยายามหาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตวิญญาณ

บูชาพระโอวาทปาติโมกข์ .. ณ เวฬุวันมหาวิหาร ปี พ.ศ.๒๕๖๗

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. กลับมาจาก งานมาฆบูชาโลก ที่เวฬุวันมหาวิหาร พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ พร้อมกับติดเชื้อเป็นของแถม ด้วยมีไวรัสแพร่ระบาดในหมู่คณะที่มีทั้งพระสงฆ์และฆราวาสติดตามไปร่วมร้อยชีวิต

บนเส้นทางมหาปรินิพพาน “มัชฌิมาปฏิปทา สู่ อัปปมาทธรรม”..

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนา.. บนเส้นทางมหาปรินิพพานของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในปัจฉิมสมัย มีปรากฏร่องรอยธรรมที่ควรศึกษาอย่างยิ่ง

มาฆบูชาโลก ณ เวฬุวันมหาวิหาร ชมพูทวีป (พ.ศ.๒๕๖๗)

เจริญพรศรัทธาสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาระหว่าง ๒๒-๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ได้เดินทางไปประกอบศาสนกิจอันสำคัญยิ่งในชมพูทวีป บนแผ่นดินเกิดพระพุทธศาสนา เนื่องใน วันมาฆบูชาโลก ซึ่งปีนี้ตรงกับ วันเสาร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ เป็น “วันมาฆบูชาปูรณมี”

“มายาสาไถย..” ..ในสังคมปัจจุบัน!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ย่อมมีประโยชน์ ๓ ระดับ ได้แก่