เช็กความพร้อม รวมไทยสร้างชาติ เปิดประตูรอรับ พลเอกประยุทธ์

พรรคการเมืองตั้งใหม่ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ คงไม่พ้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ในทางการเมืองเรียกกันว่า พรรคลุงตู่ หลังมีกระแสออกมาเป็นระยะว่า  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่รวมไทยสร้างชาติ ซึ่งที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธกระแสข่าวนี้แต่อย่างใด และช่วงหลังความชัดเจนดังกล่าวก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

วิทยา แก้วภราดัย กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และอดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แปดสมัยที่อยู่ในแวดวงการเมืองมาหลายสิบปี กล่าวถึงการขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อจากนี้ โดยเฉพาะกับกระแสข่าวพลเอกประยุทธ์จะมาร่วมงานด้วย

ลำดับแรก เราพูดคุยกับ วิทยา-คีย์แมนพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งภาคใต้ของพรรค ถึงภาพรวมการเตรียมพร้อมเลือกตั้งของพรรคในภาคใต้ โดยเขาเริ่มต้นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่เกิดใหม่และเป็นที่จับตามองของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เพราะอย่างหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คนที่ติดตามการเมืองจะทราบบุคลิกนิสัยได้ว่า เป็นคนที่ไว้ใจได้ในความซื่อสัตย์สุจริต รวมถึงการทำงานในด้านกฎหมาย ทำให้เมื่อพรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัวมา ถึงจะเป็นพรรคการเมืองตั้งใหม่ แต่ก็เกิดกระแสความรู้สึกของคนภาคใต้ที่จับตามอง ที่ช่วงแรกอาจจับตามองว่ารวมไทยสร้างชาติจะขยายได้ขนาดไหน แต่หลังจากเราเปิดพรรคขึ้นมาแล้ว เริ่มมีคนทยอยเดินเข้ามา  โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียงทางภาคใต้ เริ่มจะทยอยเข้ามา เลยเป็นที่จับตามองในภาคใต้ จนตอนนี้เริ่มเป็นพรรคการเมืองที่มีคนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ในภาคใต้

เพราะว่าสถานะของภาคใต้ หลักๆ คือผมเคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์มาก่อน แล้วประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ครองพื้นที่ภาคใต้อยู่นาน แต่ช่วงหลังผมคิดว่าหลังจากการเลือกตั้งในครั้งที่แล้ว พรรคการเมืองหลายพรรคเริ่มที่จะพุ่งไปภาคใต้ อย่างทั้งพรรคพลังประชารัฐและภูมิใจไทยต่างก็มีส่วนแบ่งในพื้นที่ภาคใต้ ตอนนี้พรรคต่างๆ เมื่อเวทีภาคใต้เปิด (เลือกตั้งซ่อม) มักจะส่งคนลงสมัคร เช่น พรรคของนายกรณ์ จาติกวณิช สมัยยังเป็นพรรคกล้า ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง แม้ผู้สมัครของพรรคเขาจะไม่ได้รับการเลือกตั้ง  แต่ก็มีคนให้ความสนใจ ซึ่งในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติหลังเราเปิดตัวมา ทำให้ตอนนี้เป็นที่จับตามองของคนในภาคใต้

วิทยา-กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ของรวมไทยสร้างชาติ ที่ผ่านมาพรรคมีการทำใน 2 ส่วน ส่วนหนึ่งคือเราทำเรื่องสาขาพรรค ที่ปัจจุบันมีการเปิดสาขาพรรคไปบ้างแล้วบางส่วน ขณะที่พื้นที่ใดที่ยังไม่พร้อมที่จะทำสาขา ก็ใช้วิธีให้มีตัวแทนพรรค ซึ่งตอนนี้เราทยอยเปิดทุกวันในสัปดาห์หนึ่งไม่ต่ำกว่า 4-5 วัน ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง ภาคอีสาน ทำให้ผู้บริหารพรรคต้องเดินสาย

ประเด็นที่ 2 ผมคิดว่าจากคนที่มองว่าจะเป็นพรรคเล็กหรือพรรคได้ ส.ส.หลังเลือกตั้งต่ำสิบ แต่วันนี้หลังจากที่รวมไทยสร้างชาติทำไปได้ 2 เดือน ผมคิดว่าเราพยายามทำให้เห็นว่าเราจะก้าวพ้นคำว่าพรรคปัดเศษ เราต้องการทำพรรคการเมืองจริงๆ ให้ทันกับสถานการณ์ ให้ทันกับการถูกต้องในจังหวะของการเมืองที่ประชาชนต้องการ

หลักคือประชาชนอยากให้บ้านเมืองสงบ อยากให้เกิดความปรองดอง อยากเห็นการเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริต  รวมไทยสร้างชาติก็ตั้งใจที่จะรวมทุกกลุ่มทุกสี ถ้ามีจุดประสงค์ร่วมกันได้ในเรื่องของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะรวมทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน และทำการเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริตให้กับบ้านเมือง อันนี้เป็นอุดมการณ์ของเรา

ถามถึงว่า จุดขายของรวมไทยสร้างชาติในสนามเลือกตั้งอย่างที่ภาคใต้จะเป็นอย่างไร ด้วยความที่เป็นพรรคใหม่และยังไม่มี ส.ส.ในสภา วิทยา-กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า คิดว่าการที่นายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งผมด้วย ออกไปแสดงจุดยืนทางสาธารณะในช่วงที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจในเบื้องต้น มีผู้แสดงความจำนงที่จะขอลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติตั้งแต่เดือนแรกที่เปิดตัวพรรครวมไทยสร้างชาติ อย่างก็มีผู้มาเสนอตัวผ่านผมมาว่าต้องการลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง โดยยิ่งนานวันไปผมคิดว่าคนที่ประสงค์จะลงสมัครทางภาคใต้ก็เริ่มมากขึ้น เมื่อก่อนอยู่ในฐานะที่เราต้องไปหา แต่เอาเข้าจริงตอนนี้กลายเป็นตั้งรับมากกว่า คนเข้ามาหาเราเสียมากกว่า

สำหรับสาเหตุที่ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับความสนใจจากประชาชน จนมีคนมาขอลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเริ่มต้นจริงๆ ก็คือหัวหน้าพรรค นายพีระพันธุ์ คนที่เป็นคอการเมืองภาคใต้จริงๆ เริ่มสนใจ เพราะว่าเป็นนักการเมืองที่อยู่ในสภามายาวนาน อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่เคยเป็นอดีตผู้พิพากษา คิดว่าเป็นจุดขายจุดแข็ง และการทำหน้าที่สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่เคยมีปัญหาอะไรเรื่องการทำหน้าที่ คนที่ติดตามการเมืองเขาเริ่มให้ความสนใจ    

มั่นใจ รทสช.ได้ ส.ส.เกิน 25 ที่นั่ง

วิเคราะห์พื้นที่เลือกตั้งภาคใต้

-ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และเป็นนักการเมืองหลายสมัย ประเมินว่าพรรคจะได้ ส.ส.เขตกี่คน?

ผมไม่อยากจะประเมิน แต่ผมเชื่อว่าเรื่อง 25 คนหลังเลือกตั้ง (จำนวน ส.ส.ขั้นต่ำที่พรรคการเมืองที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตเลือกเป็นนายกฯ) ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างที่คนบอกกันว่าพรรคจะมี ส.ส.พอที่จะสามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้โหวตได้หรือไม่ ผมมั่นใจว่าเราทำได้ ไม่ยาก ระดับ 25 คน ทำได้ ไม่ยาก ผมคิดว่าเท่าที่มีผู้แสดงความจำนงเข้ามาว่าต้องการลงสมัคร ส.ส.ระบบเขตในนามรวมไทยสร้างชาติ   ผมว่าพรรคน่าจะได้พอสมควร แต่ยังต้องรอเวลาสักระยะที่จะยืนยันว่ามันจะมากขนาดไหน ถ้าพูดในวันนี้ก็เดี๋ยวหาว่าโม้ไป ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นเรื่องจริงที่ปรากฏสายตาประชาชน

-มองว่าเหตุใดเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคการเมืองหลายพรรคให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคใต้กันเยอะ?

ถ้ามองวิเคราะห์อย่างเป็นธรรม จริงๆ คือการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาปี 2562 มันต่อเนื่องกับสถานการณ์ของการรัฐประหาร ต่อเนื่องจากสถานการณ์ชุมนุมของ กปปส. โดยการเมืองภาคใต้ทั้งหมด ผมคิดว่าในอดีตที่ผ่านมา อย่างพรรคเพื่อไทยก็เคยมี ส.ส.เขตภาคใต้แค่คนเดียว  นอกนั้นไม่เคยมี เพราะฉะนั้นอารมณ์ความรู้สึกของคนใต้เดินคู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยืนตรงข้ามกับระบอบทักษิณมา   

ผมคิดว่าแล้วก็ลากเลยมาถึงสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง มีการรัฐประหาร ส่วนยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกฯ โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ออกจากตำแหน่งไปก่อนแล้ว ไม่ใช่ออกเพราะจากการถูกทำรัฐประหาร แล้วก็มาสู่สถานการณ์การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว  ผมคิดว่าคนภาคใต้ยังฝังใจว่าการเมืองไทยยังต้องเผชิญหน้ากับระบอบทักษิณ เขาเลยเลือกที่ไม่ใช่ทักษิณ ปัญหาคือมีกี่พรรค มันก็เลยถูกกระจาย พรรคประชาธิปัตย์ที่สูญเสียไปเยอะ ผมคิดว่าเนื่องจากเขาไม่แน่ใจว่าประชาธิปัตย์ จะใจถึง 100% หรือไม่ ในขณะเดียวกันเขาก็ฝากความหวังกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างน้อยต้องเป็นคนที่ต้องสู้ต่อกับระบอบทักษิณ

ผมเป็นแกนนำ กปปส. มีน้องๆ ที่ในช่วงปลายก่อนเลือกตั้งรอบที่แล้ว เขาเดินมาบอกผมว่า เขาจำเป็นต้องเลือกพลเอกประยุทธ์ ผมถามว่าทำไม เขาบอกว่าเขายังต้องใช้ประยุทธ์สู้กับทักษิณ ซึ่งถ้าจะเลือกพลเอกประยุทธ์เข้ามา ก็คือไม่เลือกผม เพราะตอนนั้นระบบเลือกตั้งเป็นระบบบัตรใบเดียว ผมคิดว่ามันเกิดผลสะเทือนทางภาคใต้

ประเด็นที่ 2 สถานการณ์เลือกตั้งซ่อมในภาคใต้ ในช่วงหลังเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ เรื่องใช้เงินซื้อเสียง มันเป็นอาการที่ระบาดค่อนข้างรุนแรงในภาคใต้ จนนักการเมืองมองว่าภาคใต้ จากเดิมซื้อไม่เข้า แต่เดี๋ยวนี้ ซื้อได้แต่แพงหน่อย ต้องเงินเยอะหน่อย ซึ่งทำให้การเมืองภาคใต้เสียหายที่สุด ยับเยิน ถ้าซื้อเมื่อไหร่นักการเมืองทั้งสองฝ่ายสาดกระสุนเข้าใส่ ซึ่งผมรับไม่ได้ ในชีวิตผมเป็น ส.ส.มา 8 สมัย ผมไม่ใช่คนดีมากนัก แต่ไม่เคยซื้อเสียงแม้แต่สลึงเดียว ผมรับไม่ได้กับการเมืองแบบนี้ ส่งสัญญาณเตือนให้การปฏิรูปการเมืองเกิดหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เกิด

สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคตสำหรับพื้นที่ภาคใต้ ผมคิดว่าสนามเปิด ใครซื้อได้ก็เปิด คนก็ไปคิดแบบนั้น มันไม่ต่างกับภาคอื่นที่เราเคยว่าเขามา แต่ขณะเดียวกันผมก็คิดว่ามันมีจุดแข็งบางส่วน ซึ่งผมเชื่อว่าคนที่ไปซื้อเสียงต้องคิดให้ดี ถ้าตัวเองและพรรคตัวเองไม่มีกระแส ทางพรรคไม่มีกระแส คุณมีกระสุนอย่างเดียว คุณเตรียมตายคาสนามรบ เพราะถ้าเจอคนที่เขามีกระแสและมีกระสุนบ้างนิดหน่อย เขาจะยิงแม่นกว่าคุณ และคุณจะตาย  พรรคการเมืองที่นับจากคะแนนตั้งแต่คะแนนที่ 1 ด้วยการซื้อเสียงเตรียมตัวตายคาสนามในภาคใต้ถ้าคุณไม่มีกระแส

ซึ่งปัญหาการซื้อเสียงเป็นทั่วประเทศ เพราะประสิทธิภาพ กกต.ทำไม่ได้ ขอพูดตรงๆ ไม่เกรงใจกัน เราตั้ง กกต.มา 20 กว่าปี ตั้งแต่ปี 2543 จนมาถึงวันนี้ 20 กว่าปีแล้ว กกต.แทบจับซื้อเสียงไม่ได้เลย จับได้ก็พวกทำบุญกฐิน จับได้ก็พวกใส่ซองงานหรือการจัดเลี้ยง จับได้เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่เป็นเรื่อง กกต.ทำไม่ได้ ทั้งที่มีอำนาจในการจัดการเต็มมือตามกฎหมาย ใหญ่กว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ใหญ่กว่าผู้บังคับการจังหวัดในช่วงมีการเลือกตั้ง  เราล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในเรื่องการป้องกันการซื้อเสียง

'บิ๊กตู่' เข้ารวมไทยสร้างชาติ?

ถ้ามาต้องรีบกอดไว้เลย อย่าไปไหน

-ถ้าพลเอกประยุทธ์มาที่พรรครวมไทยสร้างชาติ จะมีผลอย่างไร?

โดยภาพรวม พลเอกประยุทธ์คะแนนนิยมในภาคใต้สูงกว่าทุกพรรคการเมืองที่มีในขณะนี้ คือเป็นคนที่มีคะแนนเหนือพรรค เหมือนกับท่านชวน หลีกภัย เมื่อสมัย  10-20 ปีก่อนหน้านี้ ที่ตอนนั้นท่านชวน หลีกภัย มีคะแนนเหนือพรรคประชาธิปัตย์

วันนี้พลเอกประยุทธ์เป็นคนที่มีคะแนนเหนือพรรคการเมืองทุกพรรค ผมคิดว่าที่จะมีผลสะเทือนแน่ ตรงไปตรงมาก็คือ เริ่มจากภาคใต้ หนึ่งเป็นการวางใจในตัวพลเอกประยุทธ์ตั้งแต่สู้กับระบอบทักษิณ สองเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตในช่วงการทำงานเป็นนายกฯ แปดปีที่ผ่านมา  อย่างตอนนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง มีสภา มีฝ่ายค้าน  ยังไม่เคยเห็นมีใครจับทุจริตพลเอกประยุทธ์ได้แม้แต่ครั้งเดียว ฝ่ายค้านไปเรื่องอื่นหมด ทำให้สีสันของพลเอกประยุทธ์เริ่มต้องตาต้องใจคอการเมืองในภาคใต้มากขึ้น  ทำให้ทำโพลกี่ครั้ง พลเอกประยุทธ์ชนะทุกที

สิ่งที่ต้องติดตามจากนี้ก็คือ ผลความสำเร็จของการจัดประชุมเอเปก จะเขย่ากรุงเทพฯ ได้ขนาดไหน ซึ่งแรงเขย่าอาจจะขยายไปทั่วทุกภาค ซึ่งคนแบบท่านนายกฯ หากตัดสินใจมารวมไทยสร้างชาติ ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้จักกับนายกฯ เป็นการส่วนตัว แต่หากท่านตัดสินใจมา เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ มีแต่จะมาทำประโยชน์ เพราะพวกผมตั้งใจที่จะสร้างความปรองดองในชาติ เลิกทีสีเหลือง สีแดง สีส้ม สลิ่ม สามนิ้ว อะไรพวกนี้ขอให้เลิกที ขอให้มาช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง ถ้าคุณรักษาชาติบ้านเมือง แล้วอยากทำการเมืองให้ซื่อสัตย์สุจริต เราพร้อมจะจับมือทุกฝ่าย

แล้วตัวพลเอกประยุทธ์ที่ประกาศรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แล้วผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน แบบนี้พวกผมไม่รับคงไม่ได้เลย มาก็ต้องรีบกอดไว้เลย อย่าไปไหน ซึ่งผมดูจากท่าทีซึ่งท่านเคยบอกว่ากำลังพิจารณา ผมว่าท่านก็ก้าวข้ามไปเยอะแล้ว เพราะนายกฯ บุคลิกคล้ายคุณพีระพันธุ์ คือตรงไปตรงมา คิดยังไงก็พูดแบบนั้น ส่วนคนอื่นๆ ที่มีข่าวว่าจะเข้ามาด้วย หากหลักคิดตรงกัน คุยกันไม่ยาก โดยลดประโยชน์ส่วนตนลง ถือประโยชน์ประชาชน ชาติบ้านเมืองเป็นหลัก ทุกอย่างก็ไปได้

-หากรวมไทยสร้างชาติได้พลเอกประยุทธ์มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคจะเติบโตทางการเมือง?

สีสันก็ดีขึ้น เพราะตั้งแต่มีข่าวลักษณะนี้ออกมา มันเกิดอาการกระเพื่อมไหวอย่างรุนแรง ผมได้รับโทรศัพท์ทั้งวันเรื่องคนแสดงความจำนงมาจะขอลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรค ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนที่เข้ามานั่งยังที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ มีหลายคนมากเข้ามาคุย มีการเข้ามาทั้งอดีตนักการเมือง คนทั่วไป คนรุ่นใหม่ทางการเมือง ไหลทะลักเข้ามา ซึ่งปรากฏการณ์แบบนี้มันเกิดแลนด์สไลด์อยู่หน้าพรรค คือไหลเข้ามามาก อย่างที่ภาคอีสาน คนที่เข้ามาหลายคนก็เคยเป็นแนวร่วม นปช. หลายคนก็เป็นเพื่อนๆ ผมทั้งนั้น เพราะผมเป็นนักกิจกรรมการเมืองตั้งแต่เป็นนักศึกษา ทำให้มีเพื่อนกระจายไปอยู่ทุกส่วน อยู่ทั้งเหลือง ทั้งแดง สามนิ้วอยู่หมด เราคุยกันโดยเริ่มต้นว่าทำการเมือง ต้องยึดหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ไว้ ต้องซื่อสัตย์ คนที่แสดงความจำนงจะลงสมัคร ส.ส.ของพรรคในภาคอีสาน 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เช่น ส.จ.ที่เคยเป็นเสื้อแดงทั้งนั้น ซึ่งลึกๆ  ของเขาไม่ได้เป็นอย่างที่เราเคยคิด คำว่า นปช.เสื้อแดง ไม่ได้แปลว่าไม่เอาชาติ ศาสนา สถาบัน แต่เขามีความรุนแรงทางการเมืองที่จะปฏิเสธบางอย่าง ความไม่เป็นธรรมบางอย่าง แต่สุดท้ายที่เขาเจอคือ คนที่บอกให้เขาต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม มาสร้างความไม่เป็นธรรมกับเขาเอง ไปพาเขาออกมาเดินขบวน แต่วันที่เขาโดนคดี ถูกฟ้อง เคยส่งใครไปดูแลบ้าง ก็ไม่เคย ต้องรับสารภาพติดคุกตามยถากรรมกันหมด แต่วันนี้กลับจะมาดูดำดูดี กลับมาเรียกเขา เพื่อหวังเอาพ่อกลับบ้าน ผมว่าเขาจะเจอของแข็ง

-การที่พลเอกประยุทธ์เหลือเวลาการเป็นนายกฯ แค่สองปีจะมีผลหรือไม่ หากพลเอกประยุทธ์มาอยู่ที่รวมไทยสร้างชาติ แล้วคนในพื้นที่บอกพลเอกประยุทธ์อยู่แค่สองปีเอง?

ก็ยังมีคนอื่น ทุกอย่างก็ยังมีเวลา โดยกฎหมาย โดยธรรมชาติ เพราะโดยธรรมชาติลุงตู่ก็ไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า ผมก็ไม่ได้เป็นผู้แทนค้ำฟ้า หมดเวลาก็ต้องไป ประชาชนต้องเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ใช่ยึดถือตัวบุคคล จนลืมหลักการทั้งหมด สองปีจริงๆ ก็นานมาก ผมเป็น ส.ส.ครั้งแรกก็อยู่ได้ปีกว่าเอง ก็ยุบสภาแล้ว สภาที่อยู่เกินสองปีถือเป็นสภายาว

-ในฐานะอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน ประเมินโอกาสที่จะมีการยุบสภา หรือนายกฯ จะอยู่ครบเทอมอย่างไร  องค์ประกอบเรื่องนี้มีอะไรบ้าง?

วันนี้ถ้าประเมินการเมือง ผมมองว่าสภาชุดนี้ครบสมัยประชุมแล้วสี่ปีตามธรรมชาติการเมือง เพราะกระบวนการตรวจสอบรัฐบาลครบสี่ปีแล้ว ที่เหลือก็เวลาที่จะหมดอายุเท่านั้นเอง เกือบไม่มีภารกิจอะไรเร่งที่ต้องทำ ทำให้สภาก็จะค่อยๆ ลดบทบาทลงไปเรื่อยๆ จนคนก็จะค่อยๆ ลืมสภา  เพราะอย่างเรื่องกฎหมายในสภาก็ไม่มีอะไรตื่นเต้นแล้ว ก็เหลือร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถ้าเคลียร์กันได้ก็จบ

เพราะฉะนั้นการอยู่ครบสมัยหรือไม่ครบสมัย ในทางการเมืองถือว่าตอนนี้อยู่ครบสมัยแล้ว เหลือทางเทคนิคอย่างเดียวว่าจะให้ครบวันหรือไม่ ซึ่งคนตัดสินใจว่าจะให้ครบวันหรือไม่ครบวัน มีคนเดียวคือพลเอกประยุทธ์ ซึ่งหากท่านตัดสินใจว่าจะเดินหรือจะหยุด เราคงได้รับสัญญาณว่าจะยุบสภาหรือไม่ แต่โดยธรรมชาติผมเชื่อว่าไม่น่าจะถึง 24 มีนาคม 2566 เพราะหากนั่งประคองสภาไปเรื่อยๆ จนปิดสมัยประชุมปลายเดือนกุมภาพันธ์ พวกที่จะลงเลือกตั้งโดยเฉพาะพวกจะย้ายพรรค จะลุกขึ้นกันไม่ทัน  มองว่าช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อาจจะมี ส.ส.ลาออกกันเยอะ หากไม่มีการยุบสภาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะคนก็อาจไม่มั่นใจเสียวหลังกัน ก็เลยอาจลาออกกัน เพราะ กกต.ก็ไม่ขยับอะไร ไม่ยอมประกาศเขตเลือกตั้ง จะไปรอเดือนมกราคมปีหน้า โดยอ้างว่าจะรอสรุปยอดประชากร  31 ธันวาคม 2565 ทั้งที่เขตเลือกตั้งก็ชัดเจนแล้วว่าเขตเลือกตั้งทั่วประเทศมี 400 เขต มองว่าเป็นการรอทางเทคนิคของ กกต.เพื่อช่วงชิงการได้เปรียบเสียเปรียบในการแบ่งเขตเลือกตั้ง การตัดสินใจช้าของ กกต.จะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง เพราะหากมีใครรู้ก่อนว่าจะมีการแบ่งเขตกันอย่างไร คนที่รู้ก่อนก็จะได้เปรียบ ถ้าในทางการเมืองเขาเรียกว่า "เคาะกะลา"

-มองการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอย่างไรบ้างในฐานะเป็น ส.ส.มาหลายสมัย อยู่กับการเมืองมาหลายสิบปี?

ปรากฏการณ์ที่ผมเห็น ณ วันนี้ก็คือ นักการเมืองแบ่งเป็นสองขั้วหลักๆ ขั้วหนึ่งยืนยันไว้ที่จะรักษาชาติ ศาสนา  พระมหากษัตริย์ อีกขั้วหนึ่งจะแก้มาตรา 112 อันนี้สองขั้วแน่ๆ และขั้วที่สองก็เริ่มจะโดนโดดเดี่ยว เพราะว่าพรรคหลักๆ ไม่มีใครร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่จะไปวิเคราะห์เวลานี้ว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ใครแข่งกับใคร ตอนนี้ยังเร็วไป แต่ตัวยืนแน่ๆ  หากพลเอกประยุทธ์เดินต่อ ใครจะแข่งกับพลเอกประยุทธ์เท่านั้นเอง จะเป็นอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร) ที่มีนโยบายนำพ่อกลับบ้านหรือจะเป็นคนอื่นๆ ก็ตาม ก็ต้องตั้งหลักว่า ตอนนี้พลเอกประยุทธ์เป็นแชมป์อยู่ ใครจะเป็นคนท้าชิง และเป็นคู่ต่อสู้จริงๆ ของแชมป์ คือพลเอกประยุทธ์ ต้องตั้งหลักแบบนี้ ผมว่าต้องรอเวลาอีกสักระยะ รอให้เวลามันสะเด็ดน้ำ ลงสมัครกันแล้ว จากนั้นค่อยมาวิเคราะห์กัน.

                         โดย วรพล กิตติรัตวรางกูร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘สุชาติ’ ลั่นไม่ยึดติด หลังมีชื่อนั่ง รมต. ยันปรับ ครม.อำนาจนายกรัฐมนตรี

พรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในกลไกของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และผู้ใหญ่ของพรรคเป็นหลัก การปรับ ครม.อำนาจเป็นของนายกรัฐมนตรี

กมธ.อุตฯมั่นใจมีคนของรัฐพันปัญหาแคดเมียม

กมธ.อุตฯ ถกปัญหาแคดเมียม 'อัครเดช' เสนอดับเบิ้ลซีลใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ก่อนขนย้าย จี้เร่งเคลื่อนย้ายฝังกลบก่อน 7 พ.ค. ยันมี จนท.รัฐเอี่ยวลักลอบขนย้ายแน่ เผย 4 ตัวละครเกี่ยวข้องเป็นทุนจีนเทา

'วิทยา' ย้ำไม่มีสัญญาณปรับครม. 4 รมต.รทสช.มีผลงานประจักษ์ ควรได้โอกาสทำงานต่อ

'วิทยา' ยันยังไม่มีสัญญาณปรับครม.ออกมาจากนายกฯ มีเพียงข่าวปล่อยและวิเคราะห์กันเองคนโน้นจะเข้าคนนี้จะออก ย้ำ 4 รมต.ของพรรคมีผลงานประจักษ์ไม่มีเรื่องทุจริตให้รัฐบาลเสี่อมเสีย ควรได้โอกาสทำงานต่อ

'พีระพันธ์ุ' กำชับลูกพรรครทสช. นิ่งไว้ยังไม่มีสัญญาณปรับครม.

นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับสัญญาณหรือไม่ ว่าโดยปกติการจะปรับครม