สนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เลือกตั้ง ที่"พรรคเพื่อไทย"คาดหวังไว้มาก สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพราะเป็นพื้นที่เลือกตั้งซึ่งมีส.ส.เขตมากถึง 33 ที่นั่ง ทำให้หากเพื่อไทย กวาดชัยชนะในสนามเลือกตั้งกทม.ตามเป้าที่วางไว้ จะทำให้โอกาสที่จะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์เป็นไปได้สูง
สำหรับว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต กทม.ของเพื่อไทย ที่มีหลายคนน่าสนใจ หนึ่งในนั้นก็คือ "จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบางรัก สาทร ปทุมวัน พรรคเพื่อไทย-โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย"ซึ่งเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่กำลังเป็นที่สนใจของหลายคนในเวลานี้ ด้วยโปรไฟล์การศึกษาจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ทั้งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด, มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส หรือ UCLA ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง และมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และเป็นอาจารย์ประจำสาขาสังคมวิทยา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ตอนนี้เข้าสู่ถนนการเมืองเต็มตัวเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. เขต กทม. โดยเปิดตัวลงพื้นที่หาเสียงมาเกือบปีแล้ว
"จุฑาพร เกตุราทร" กล่าวถึงภาพรวมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่อจากนี้ว่า หลังจากพรรคเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทยทั้ง 33 เขตไปแล้ว หลังจากนี้จะมีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งโดยเฉพาะการนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทย ทั้งนโยบายระดับประเทศและนโยบายในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งพรรคยืนยันว่าหากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจนเพื่อไทยได้เป็นพรรครัฐบาล พรรคก็จะเดินหน้าตามนโยบายที่ได้บอกกับประชาชนคือ"ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส"
โดยในส่วนของการลดรายจ่ายก็คือลดต้นทุนค่าครองชีพการดำเนินชีวิตของประชาชน ด้วยการทำให้ราคาน้ำมันลดลง ลดค่าก๊าซหุงต้ม-ค่าไฟฟ้า เพราะตอนนี้ค่าครองชีพสูงมาก ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันของประเทศไทย เพราะค่าไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในต้นทุนของภาคธุรกิจ ค่าไฟฟ้าของประเทศเวียดนาม แค่สองบาทกว่า แต่ของไทย ขณะนี้กลุ่มภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรมจ่ายอยู่ที่ 5.33 บาท ซึ่งมันควรต้องต่ำกว่า 5 บาท โดยตอนนี้สามารถทำได้เพราะค่าพลังงานของโลกอย่างแก๊ส LNG ก็ลดลง จากฤดูหนาวของประเทศฝั่งตะวันตกใกล้จะพ้นแล้ว หากรัฐบาลจะช่วยเหลือประชาชนแล้ว การลดราคาพลังงานอย่าง ค่าไฟฟ้า เป็นสิ่งที่รัฐบาลทำได้ และต้องทำ แต่ว่ารัฐบาลปัจจุบันยังไม่ได้ทำให้ประชาชน เช่นเดียวกับค่าน้ำมัน ก็ควรลดลงมากกว่านี้เพราะว่าเป็นต้นทุนในการขนส่งของภาคธุรกิจ และการดำเนินชีวิตของประชาชน ราคาน้ำมันสูงส่งผลให้สินค้าอุปโภคบริโภคราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ผลกระทบสุดท้ายจึงตกอยู่ที่ประชาชน ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมาก
"จุฑาพร-ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เพื่อไทย"กล่าวต่อไปว่า ล่าสุด จากการได้ลงพื้นที่เขตสาทร เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และเข้ารับฟังความเห็นของคนในชุมชน โดยประชาชนในทุกระดับรายได้ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การต้องแบกภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และยังมีแนวโน้มที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะหนักมากเพราะรายได้ยังไม่ฟื้นจากปัญหาเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งค่าครองชีพที่สูงมาก จากเงินเฟ้อปีที่แล้วสูงถึง 6.08% สูงที่สุดในรอบ 24 ปี และเงินเฟ้อเดือนมกราคมปีนี้ก็ยังสูงต่อเนื่องถึง 5.02% ซึ่งซ้ำเติมเงินเฟ้อเดิมที่สูงอยู่แล้ว ทำให้ข้าวของแพง ค่าใช้จ่ายสูง รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย
และล่าสุดตั้งแต่ 1 มีนาคม ค่าแก๊สหุงต้ม จะปรับขึ้นเป็น 423 บาทต่อถัง ซึ่งจากการลงพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นคนในระดับรายได้ไหนก็ตาม ประชาชนเป็นกังวลกันมากเพราะทุกคนต้องใช้แก๊สหุงต้มในการทำอาหาร ทั้งการทำอาหารรับประทานเองที่บ้านหรือร้านค้าขายอาหาร ที่ก็จะส่งผลทำให้ต้นทุนในการใช้ชีวิตสูงขึ้น จากปี 2565 ยังอยู่ที่ 318 บาท จึงขอย้ำว่า พรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอนในส่วนของการลดราคาพลังงาน เพราะพรรคเพื่อไทยมีแผนงานการลดราคาพลังงานไว้แล้ว และพร้อมทำทันทีที่เป็นรัฐบาล
พิมพ์เขียว แก้ปัญหา
ฝุ่น PM 2.5 -ดันร่างกม.อากาศสะอาด
"จุฑาพร"กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย จะมีนโยบายเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่พรรคได้เคยประกาศมาแล้ว ซึ่งยืนยันว่าทำได้ โดยหากเพื่อไทยเข้าไปเป็นรัฐบาลก็จะเข้าไปดูเรื่องราคาค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ เพราะเราก็อยากให้คนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้นด้วย เพราะปัจจุบันปัญหา ฝุ่น PM 2.5 ค่อนข้างจะเป็นปัญหาใหญ่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ๆ ที่ทุกคนได้รับผลกระทบ ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเพราะส่วนมากแล้วต้นเหตุของฝุ่น PM 2.5 เกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์มาจากระบบขนส่ง มาจากรถควันดำ รถเมล์ จึงควรต้องมีการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะการบังคับใช้กฎหมายยังไม่เข้มงวดเท่าที่ควร เห็นได้จากมีรถควันดำวิ่งบนท้องถนนจำนวนมาก ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์มาจากการเผาไหม้ และอีก 20 เปอร์เซ็นต์มาจากการก่อสร้าง ดังนั้น การบังคับใช้กฎหมายจะต้องเข้มงวดขึ้นเพื่อทำให้สถานการณ์ปัญหา ฝุ่น PM 2.5 ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น โดยควบคุมและลดปริมาณการผลิตฝุ่นในกรุงเทพฯ ซึ่งเพื่อไทย มีนโยบายเรื่องนี้ทั้งระยะสั้น-กลางและนโยบายระยะยาว
"จุฑาพร" กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ จะต้องมีการเปลี่ยนรถโดยสารประจำทาง -รถเมล์ ที่ยังใช้เครื่องโดยสารดีเซลกันเป็นส่วนมาก จะต้องเปลี่ยนเป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า EV โดยพรรคตั้งเป้าว่าจะต้องเปลี่ยนให้ได้เยอะที่สุด เพราะปัจจุบันรถเมล์ที่ใช้เครื่อง EV ยังมีอยู่ไม่มากเมื่อเทียบกับจำนวนรถเมล์ทั้งหมดบนท้องถนน โดยหากเป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า จะทำให้อากาศในกรุงเทพฯสะอาดขึ้น ทำให้ฝุ่น PM 2.5 ในกทม.เบาบางลง
...ในส่วนนี้จะต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ -อุตสาหกรรมสีเขียว เราต้องเร่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยแม้ปัจจุบันจะมีคนทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ EV เยอะ แต่ยังไม่ได้มีการยกระดับไปสู่วงกว้าง ซึ่งหากมีการส่งเสริม จะทำให้เป็นการสร้างงาน ทำให้คนไทยเข้าถึงรถไฟฟ้าในราคาที่สมเหตุสมผล เช่นสนับสนุนให้ผลิตชิ้นส่วน ผลิตแบตเตอรี่ เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิต ที่ก็จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นและยังเป็นการสร้างรายได้ ขยายโอกาสให้กับประชาชน รวมไปถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ.กำกับดูแลการจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพแบบบูรณาการ ฯหรือ"ร่างพรบ.อากาศสะอาดฯ" ที่ถูกตีตกไปหลายรอบ โดยหากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะสนับสนุนเรื่องนี้โดยวางโครงสร้างทางกฎหมาย เพื่อให้ประเทศเรามีอากาศที่สะอาด
เพราะฉะนั้นภายในเวลาสี่ปีข้างหน้า หากเศรษฐกิจโตปีละห้าเปอร์เซ็นต์ ในส่วนนี้ค่าครองชีพกับรายได้ ควรต้องสอดคล้องกันเพื่อให้ประชาชนอยู่ได้
-นโยบายด้านสาธารณสุขที่เคยประกาศไว้เช่น นโยบาย 50 เขต 50 โรงพยาบาลในกทม.หรือเรื่องการจองคิวของผู้ถือบัตร 30 บาทรักษาทุกโรคผ่านแอพพลิเคชั่น ยืนยันว่าทำได้ใช่หรือไม่?
ยืนยันว่าทำได้ โดยปัจจุบันก็ได้มีการทำในหลายพื้นที่ไปแล้วเช่นโรงพยาบาลหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ใช้ระบบ Telemedicine ที่คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ มีการดำเนินการในหลายโรงพยาบาลที่อยู่ในหลายเมืองใหญ่ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เพียงแต่อาจจะยังไม่ได้ทำทุกแห่ง แต่เราจะต้องยกระดับให้โรงพยาบาลใหญ่และโรงพยาบาลที่มีศักยภาพให้ทำในส่วนนี้ให้มากขึ้นเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในการรักษาพยาบาล เพื่อที่หากเจ็บป่วยไม่มาก ก็จะได้ไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาล เพราะบางแห่งก็อาจไกลจากที่พักของประชาชน
สำหรับในส่วนของกทม.พรรคเพื่อไทย มีการผลักดันเรื่อง 50 เขต 50 โรงพยาบาล ที่เป็นนโยบายหาเสียงตั้งแต่การเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเมื่อปี 2565 ที่ตอนนี้หลายนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งส.ก.ก็มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท
"จุฑาพร-ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย"กล่าวถึงกระแสตอบรับและความมั่นใจต่อการลงเลือกตั้งครั้งนี้ว่า กระแสตอบรับดีจนถึงดีมาก เพราะเรื่องการเมืองในพื้นที่ใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ย่านธุรกิจ พื้นที่เศรษฐกิจ ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะจากความเชื่อเดิมๆ ถือเป็นพื้นที่ท้าทาย แต่เราเชื่อว่า คนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจากอะไรแบบเดิมๆ คนอยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น อยากเห็นประเทศก้าวผ่านความขัดแย้งและเดินไปข้างหน้าได้
พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองที่เสนอนโยบายแล้วทำได้จริงและเป็นประชาธิปไตยที่กินได้ ตอนนี้ ปัญหาร่วมกันที่ทุกคนเจอก็คือปัญหาด้านเศรษฐกิจ ที่แย่มาก และคนทุกระดับได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด ทำให้ประชาชนคาดหวังกับผู้บริหารชุดใหม่ และตัวแทนของเขาในเขตเลือกตั้ง ประชาชนต่างอยากเห็นเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวและประเทศมีการพัฒนาอย่างเข้มแข็ง แม้ตอนนี้บางภาคธุรกิจเช่น การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวแล้ว หลังทั่วโลกคลายล็อก ให้มีการเดินทางท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาเที่ยวในไทย แต่เมื่อเทียบกับหลายประเทศในอาเซียน เศรษฐกิจไทยยังถือว่าฟื้นตัวช้ากว่ามาก
สำหรับประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 2 ของกทม. อย่างบางรัก สาทร ปทุมวัน เชื่อว่าพวกเขาจะเลือกผู้แทนฯ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ และเป็นกระบอกเสียงให้เขาได้ สามารถเข้ามาแก้ปัญหาในพื้นที่ทั้งในระดับเขต และระดับเมืองหลวง อย่าง กทม. ไปจนระดับประเทศ ประชาชนจะเลือกคนที่มีศักยภาพสามารถเข้าไปช่วยพัฒนาประเทศในหลายมิติได้ และจะเป็นตัวแทนที่พวกเขาภาคภูมิใจว่าเลือกมากับมือ เป็นตัวแทนทั้งในประเทศไทย และในเวทีโลก ตอนนี้มีหลายพรรคที่พยายามจะซื้อเสียงกันอย่างหนัก มีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่าผู้นำชุมชนจำนวนไม่น้อยถูกพลังดูดกว้านซื้อไปแล้ว เวลานี้เป็นเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย ประชาชนกำลังลำบาก แต่อยากให้ประชาชนมองว่า หากเลือกคนที่เขามาซื้อเสียงด้วยเงินไม่กี่พัน พอคนเหล่านี้ได้เข้าสภาไป เขาก็จะหาทางถอนทุนคืน ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ภายหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง ปัญหาต่างๆ ในประเทศไม่ได้รับการแก้ไข เศรษฐกิจก็ไม่ได้ดีขึ้น ทุกคนก็กลับไปลำบากเหมือนเดิม อยากให้ประชาชนเลือกคน และพรรคที่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง และทำให้ชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นได้จริงๆ
อาชญากรรมทางไซเบอร์
ต้องแก้ปัญหาเร็ว-สร้างการตระหนักรู้
"จุฑาพร"ยังกล่าวถึงปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งของประเทศไทยในเวลานี้คือ อาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber Crime) ซึ่งเป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง จนปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กลายเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของอาชญากรรมไปแล้วโดยมีการกระทำผิดหลายรูปแบบ
จากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดให้แจ้งความทางออนไลน์ มีข้อมูลพบว่าในช่วงมีนาคม 2565 จนถึง มกราคม 2566 ที่มีประมาณ 200,000 คดีพบว่ากว่า 187,000 คดี เป็นอาชญากรรมออนไลน์ และแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และเม็ดเงินความเสียหายก็สูงเกือบสามหมื่นล้านบาท ยิ่งการที่สังคมปัจจุบันอยู่ในยุคโซเชียล ยุค 4จี ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจึงเป็นปัญหาสำคัญที่จะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ถ้ารัฐบาลไม่แก้ไขอย่างตรงจุด
"จุฑาพร"แสดงความเป็นห่วงต่อปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อปี 2565 เผยว่า ชาวไทยกว่า 50% เคยมีประสบการณ์ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ ระหว่างช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดย 5 อันดับแรกที่พบมากสุด คือ 1. หลอกลวงซื้อขายสินค้า (32.95%) 2. หลอกให้โอนเงินเพื่อหารายได้จากการทำกิจกรรม (13.87%) 3. คดีหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้เงิน (11.6%) 4. หลอกลวงทางโทรศัพท์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (8.72%) 5. หลอกให้ลงทุน (8.20%)
แม้ปัจจุบันจะมี หน่วยงาน กสทช. เข้ามาป้องกันและปราบปรามการโกงทางไซเบอร์นี้อยู่แล้ว แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชาญากรรมทางไซเบอร์ พรรคเพื่อไทยเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น และระยะยาว ดังนี้
ในระยะสั้น หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนควรมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ให้แต่ละกลุ่มประชากร รู้เท่าทัน ภัยจากอาชญากรรมไซเบอร์ เพื่อลดโอกาสตกเป็นเหยื่อ และต้องสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก แต่ในระยะยาว คงจะต้องมีการทำงานร่วมกันมากขึ้นระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตัวแทนจากภาคธนาคาร ซึ่งถือเป็นผู้มีฐานข้อมูลบัญชี หากได้มีการพิสูจน์ทราบแล้วว่ามีการเปิดบัญชีม้า ให้ทำการอายัดบัญชีได้ทันท่วงที โดยการฟรีซบัญชีม้าไว้ ก่อนที่เงินจะถูกโอนออกนอกประเทศ หรือถูกโอนเป็นสกุลเงินดิจิทัลได้
ในปัจจุบันการอายัดเงินยังทำได้ค่อนข้างยากมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะติดปัญหาในเรื่องของการขอข้อมูลแต่ละคดี บางคดีขอข้อมูลต้องทำหนังสือสอบถามไปยังธนาคารต่างๆ ตามเส้นทางการโอนเงิน ซึ่งทำให้เสียเวลา ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่ายิ่งนาน โอกาสได้เงินคืนจะยิ่งลดน้อยลง
นอกจากนี้ เพื่อไทยเสนอให้มีการจัดตั้ง "กองปราบโกงออนไลน์"ที่ดูแลเฉพาะเรื่องปราบโกงออนไลน์โดยตรง จะได้ลดขั้นตอนการทำงาน เพราะปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่การทำงานยังขาดความเชื่อมโยงอยู่ เพื่อไทยเสนอการผลักดันกฎหมายให้มีบทลงโทษที่สูงขึ้นสำหรับคนที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า การบังคับใช้กฎหมายต้องมีความเข้มงวดมากกว่านี้ ที่ผ่านมามิจฉาชีพมักจะใช้วิธีจ้างคนให้เปิดบัญชี ซึ่งหลายครั้งเป็นกลุ่มเด็กเยาวชน ที่ต้องการมีรายได้พิเศษจากสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้อาชญากรทางไซเบอร์ใช้ช่องทางนี้มาหลอกลวงประชาชน อีกแนวทางสำคัญ คือ การสร้าง awareness ความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนและผู้สูงอายุ เพราะผู้สูงอายุ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเปราะบางที่มีโอกาสถูกหลอกได้ง่าย หลายครั้ง พักอาศัยอยู่คนเดียว หรือมีความรู้ทางเทคโนโลยีไม่เท่าทันอาชญากร
“จุฑาพร”กล่าวย้ำว่า การสร้างความตระหนักรู้ถึงเรื่องอาชญากรรมทางออนไลน์ สำคัญมากเพราะการป้องกันย่อมทำได้ง่ายกว่าการมาแก้ไขปัญหาภายหลัง การให้ความรู้กับประชาชนเปรียบเสมือนการให้วัคซีน สร้างภูมิคุ้มกันต่ออาชาญกรรมไซเบอร์ สื่อออนไลน์ทั้งของภาครัฐและเอกชนควรทำออกมาเรื่อยๆเป็นภาพ infographic และคลิปสั้น เพื่อสอนประชาชนให้รู้เท่าทันกลโกงของพวกกระทำผิด เพราะกลุ่มคนทำผิดเหล่านี้มักมีการเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงไปเรื่อยๆ
ในเขตพื้นที่อย่างที่บางรัก ทุกเดือนจะมีการจัดอบรมผู้สูงอายุ โดยหัวข้อก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน นอกเหนือจากมีการตรวจสุขภาพให้ผู้สูงอายุ และปรึกษาปัญหาสุขภาพกันแล้ว ยังมีกิจกรรมที่ให้ความรู้ เช่น มีการเชิญกลุ่มนักศึกษา อาสาสมัคร มาร่วมสอนวิธีการใช้โทรศัพท์มือถือ การใช้แอพพลิเคชันต่างๆ อย่างถูกวิธี เพื่อลดโอกาสตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่พยายามเข้ามาหลอกลวงผ่านทางข้อความ sms ที่อาจหลอกว่าเป็นผู้ชนะมีสิทธิ์ได้รับรางวัล หรือ ได้รับการอนุมัติให้กู้เงิน ข้อแนะนำ คือ อย่ากดลิงค์ใน sms จากเบอร์แปลกๆ ที่ไม้รู้จักเป็นอันขาด และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า
การให้ความรู้เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำทั้งในระดับชุมชนและระดับโรงเรียน ที่ประชาชนอาจไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งในระยะยาว ควรมีการผนึกเนื้อหาการป้องกันการตกเป็นเหยื่ออาชาญกรรมไซเบอร์ เข้าไปในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการด้วย ซึ่งหลักสูตรควรมีการปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้ทันกับกลโลงใหม่ที่มิจฉาชีพคอยพัฒนาตลอดเวลา และอยากขอแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการผูกบัญชีธนาคารที่มียอดเงินสูงไว้กับ Mobile Banking เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกดูดเงินออกจากบัญชี หากถูกแฮคข้อมูลหรือเผลอคลิกพลาด อย่างน้อยที่สุด เงินที่หายไปจะเป็นยอดเงินที่ไม่สูงมากนัก
นโยบายเพื่อไทย
ทำได้จริง-ทำเพื่อทุกคน
"จุฑาพร-โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย"กล่าวในตอนท้าย ถึงข้อแตกต่างที่พรรคเพื่อไทยมีจุดแข็งที่แตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคการเมืองสำหรับคนทุกรุ่น ไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ คนรุ่นเก่า หรือรุ่นไหน แต่เป็นพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทั้งคนในเมือง คนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล คนทุกระดับฐานะ ทุกระดับรายได้ ไปจนถึงทุกเพศสภาพ นโยบายเพื่อไทยคือ ทำได้จริง และทำเพื่อคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ได้เป็นประชานิยมที่หวังแค่กลุ่มคนฐานล่าง แต่นโยบายสำหรับคนเมือง พรรคก็มี อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น พรรคมีนโยบายสำหรับกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะ และจะทยอยประกาศอย่างละเอียดอีกครั้ง เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามากว่านี้
และที่สำคัญพรรคเคยทำมาแล้ว และทำสำเร็จในช่วงเวลาที่เป็นรัฐบาล เศรษฐกิจดีมาก ประชาชนกินดี อยู่ดี มีรายได้สูง นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเยอะเพราะเขามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของรัฐบาลเพื่อไทย ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ซึ่งความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญเพราะที่ผ่านมาหลายปีนี้ นักลงทุนย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนอย่างเวียดนามค่อนข้างเยอะ จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างมาก นโยบายต่างๆ ที่เพื่อไทยนำเสนอ ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี ไม่ได้เสนอแบบลอยๆ แต่เรามีการคำนวณมาอย่างชัดเจนว่างบประมาณที่จะนำมาใช้ในการทำนโยบายต่างๆที่หาเสียง จะนำงบมาจากแหล่งรายได้ของประเทศในส่วนใด
เรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ พรรคจะไม่นำเสนอออกไป อยากให้ประชาชนพิจารณา และเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เพื่อผลักดันนโยบายดีๆ ให้ประชาชน และประเทศชาติต่อไป เพราะนโยบายดีๆ ใครก็พูดได้ แต่ว่าพรรคที่ทำได้ ทำมาแล้ว และจะทำให้สำเร็จอีกครั้ง คือ พรรคเพื่อไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความเสื่อม.. ที่ควรเห็น.. ก่อนตาย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีคำกล่าวเป็นสุภาษิต ว่า ความเสื่อมของมนุษย์ ล้วนมีสาเหตุมาจากมนุษย์.. ความเสื่อมของสิ่งใดๆ .. ก็มีสาเหตุมาจากสิ่งนั้นๆ..
รัฐบาลแพทองธาร อยู่ไม่ครบปี บิ๊กป้อม ยังสู้-พปชร.เดินหน้าต่อ
เหลือเวลาอีกเพียง 3 สัปดาห์เศษ ปี 2567 ก็จะผ่านพ้นไปแล้วเพื่อเข้าสู่ปีใหม่ 2568 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2567 เป็นอย่างไร และปีหน้า 2568 จะมีทิศทางเช่นไร เรื่องนี้มีมุมมองแนววิเคราะห์จาก
ประมาทไม่ได้เลย คือ จิตของเรา!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. มีพระภาษิตบทหนึ่งกล่าวว่า..
คานถล่ม ผู้บริสุทธิ์จบชีวิต 6 ราย กับ สำนึกของนักการเมืองไทย!
เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เกิดโศกนาฏกรรมคานเหล็กยักษ์ที่ใช้สำหรับก่อสร้างทางยกระดับถนนพระราม 2 ถล่ม คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์จำนวน 6 ราย
ศึกเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 Generation War พท.-ปชน. บารมีบ้านใหญ่ ขลังหรือเสื่อม?
การเมืองท้องถิ่นกับการเลือกตั้ง "นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด" (นายก อบจ.) ซึ่งที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกันไปหลายจังหวัด ได้รับความสนใจจากแวดวงการเมืองอย่างมาก
ขบวนการแพทย์ชนบท กับรางวัลแมกไซไซ ปี 2024 ทิศทางพัฒนาระบบสุขภาพไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่ 16 พ.ย. คณะผู้แทน”ขบวนการแพทย์ชนบท” ได้เดินทางไปรับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2024