ระยอง : มหานครที่กำลังรับมือกับความเปลี่ยนแปลงใหม่

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงจากโลกเก่าสู่โลกใบใหม่-ที่ขยับขับเคลื่อนวิถีชีวิตสู่โลกดิจิตอลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัวอย่างมาก ด้วยฐานความรู้-ความเข้าใจ-เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ หากไม่ต้องการมีชีวิตเพียงเป็นลูกค้า ผู้ซื้อและใช้เทคโนโลยีที่ออกมาใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา!

ชีวิตบนแพลตฟอร์มดิจิตอลที่ขยายตัวครอบคลุมวิถีชีวิตยุคใหม่ทุกขณะ จำต้องปรับเปลี่ยนความคิด มีการมองโลกมุมใหม่ เข้าใจศักยภาพของเทคโนโลยีและความก้าวหน้าที่เกิดจากนวัตกรรมใหม่ เพื่อนำใช้มันอย่างชาญฉลาดในทุกมิติของงานและชีวิต ด้วยว่าคลื่นนวัตกรรม-ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นนั้นได้ส่งผลต่อระบบสังคม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิต อย่างไม่อาจปฏิเสธได้!

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เคลื่อนไหวในโลกดิจิตอล ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบขาดวิ่นเป็นท่อนๆ ชิ้นๆ ท่อนๆ อย่างหยาบๆ แต่เป็นกระบวนระบบที่เชื่อมกันตั้งแต่การประมวล-เก็บสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ที่เป็นพื้นฐานการขับเคลื่อนศักยภาพหลากมิติของเทคโนโลยี ที่การเชื่อมประสานข้อมูลถึงกันด้วยโครงข่ายปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จัดการประสานกันด้วยอัลกอริทึมที่ออกแบบสื่อสารสู่การใช้งาน-สร้างผลผลิตและบริการในโลกดิจิตอล รวมทั้งสามารถสร้างผลิตผลตามความต้องการเฉพาะตัว IoT และผลิตสร้างหุ่นยนต์-ใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม 4.0 ที่ขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงโลกวันนี้อยู่ทุกขณะ!

การดำรงชีวิตในรอยต่อของโลกเก่ากับโลกใบใหม่ ในความเคลื่อนไหวที่ชีวิต สังคม และเศรษฐกิจกำลังเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็วนั้น จำเป็นยิ่งที่ต้องปรับฐานความรู้-ความคิด-ความเข้าใจ เพื่อเข้ามีส่วนร่วมสร้างความก้าวหน้าใหม่-ดึงศักยภาพของเทคโนโลยีเข้าพัฒนาให้ผู้คน-สังคมโดยรวมมีชีวิตที่ดีกว่า ดูแลสิ่งแวดล้อมที่ดี-ลดการบริโภคเผาผลาญทรัพยากรลง ปรับสร้างความเสมอภาคเป็นธรรมและโอกาสให้เกิดขึ้นตามนโยบายประเทศไทย 4.0 รวมทั้งหนุนการลงทุนใหม่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพื่อปรับฐานให้สังคมเศรษฐกิจไทยก้าวทันโลก ไม่ถูกทิ้ง!

เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกได้จัดปรับโครงสร้างการสื่อสารคมนาคมและโลจิสติกส์ใหม่ขึ้นอย่างเป็นระบบ พัฒนารถไฟความเร็วสูง เร่งสร้างมหานครการบิน สร้างท่าเรือรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจพาณิชยนาวี ปรับปรุงถนนหนทาง พัฒนาระบบการศึกษา-การพัฒนาบุคลากรใหม่ ฯลฯ จนปัจจุบันอีอีซีดึงการลงทุนจากต่างประเทศมาได้สูงถึง 1.9 ล้านล้าน!

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้จำเป็นที่จะต้องปรับพื้นฐานของเมือง-ท้องถิ่น โดยเฉพาะในระยองและชลบุรี ที่เป็นเขตอุตสาหกรรม 4.0 ที่มีการลงทุนหนาแน่น! ต้องยกระดับปรับฐานเมือง-ท้องถิ่นออกจากระบบบริหารราชการแบบเก่าๆ ที่วันนี้มันกลายเป็นอุปสรรคในการเติบโตก้าวหน้าของการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างมีนัยสำคัญไปแล้ว!

หากพื้นฐานการบริหารจัดการขององค์กรในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงก้าวหน้าครั้งใหญ่ของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ไม่ปรับเปลี่ยนวิธีคิด-วิธีปฏิบัติ ไม่จัดปรับตัวจากระบบราชการเดิมๆ เชื่อมประสานการบริหารจัดการท้องถิ่นและเมืองเข้ากับฐานความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่กำลังไหลบ่าสู่ระบบการผลิต การบริการ การลงทุน และการจัดการศึกษา-การพัฒนาบุคลากรในคลื่นอุตสาหกรรม 4.0 ที่มีเป้าหมายในการยกระดับประเทศให้หลุดจากกับดักรายได้ปานกลาง มุ่งสะสมเรียนรู้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมยุคใหม่ เพื่อจัดวางตำแหน่งแห่งที่ทางสังคม เศรษฐกิจ ให้เป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียนอย่างชัดเจนโดดเด่น การปรับตัวเปลี่ยนแปลงจะไปไม่ถึงไหน-จะถูกระบบบริหารจัดการแบบเดิมๆ เป็นปัญหากีดขวางอย่างไม่อาจปฏิเสธได้!

กรณีความห่วงใยนี้ได้มีการหารือกับนายก อบจ.ระยอง และ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พบว่าวันนี้กำลังทุ่มเทปรับตัวอย่างมาก เพื่อใช้โอกาสของการเป็นที่ตั้งเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ปรับนครระยองสู่การเป็นเมืองสีเขียวและบริหารจัดการแบบดิจิทัลซิตี้ มีการจัดทำโซนนิ่งเขตท่องเที่ยว-สร้างเมืองสีเขียว-จัดปรับการคมนาคมด้วยการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งเกาะเสม็ด จัดการท่องเที่ยวเมืองผลไม้ที่เขตตะพง สนับสนุนเขตนวัตกรรมบ้านฉางที่กำลังก่อร่างสร้างเมืองอัจฉริยะ ใช้การสื่อสารแบบ 5G บริหารจัดการสร้างความเปลี่ยนแปลง-ความปลอดภัยในท้องถิ่นบ้านฉาง และเร่งยกระดับจัดปรับการบริหารจัดการองค์กรส่วนท้องถิ่นด้วยระบบฐานข้อมูลดิจิตอล แทนความสามารถของคนเล็กคนน้อยที่ทำงานในเทศบาลต่างๆ ผ่านความร่วมมือกับ Data Center ที่เขตนวัตกรรมบ้านฉาง-ซิลิคอน เทคปาร์ค ตามแบบที่ประเทศที่มีความก้าวหน้าในโลกใช้กันอยู่ ฯลฯ มุ่งยกระดับปรับฐานพัฒนานครระยองสู่การเป็นกรีนแอนด์ดิจิตอลซิตี้

การจัดการความเปลี่ยนแปลงนี้ต้องทุ่มเทมาก ตั้งแต่เปลี่ยนความคิด-ความเข้าใจของกลุ่มคนหลักๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มุ่งปรับระบบการบริหารจัดการแบบเดิมที่เน้นความสามารถเฉพาะของบุคคลสู่การใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เพื่อสร้างระบบบริหารจัดการที่ดีกว่า-มีประสิทธิภาพกว่าขึ้นในท้องถิ่น ไม่ว่าเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การจัดการจราจรที่ใช้ AI แทนการให้ตำรวจยืนเป่าจราจรอยู่กลางถนน การประมวลข้อมูลแจ้งเตือนภัยพิบัติ-อุบัติภัยทั้งทางบก-น้ำ-อากาศ การจัดทำทะเบียนราษฎรดิจิตอล การให้บริการในท้องถิ่นที่ช่วยให้ผู้คนไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับระบบราชการ รวมถึงการทำแผนรับความก้าวหน้าใหม่ทั้งระยะสั้น-กลาง-และยาว ในแต่ละเขต-แต่ละเมืองให้เป็นทิศทางเดียวกัน-เรียนรู้ปรับตัวไปพร้อมๆ กัน รับมือความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองในเขตพัฒนาพิเศษที่เคลื่อนไปข้างหน้าไม่หยุด ความเคลื่อนไหวนี้เป็นภารกิจที่ต้องอาศัยพลัง-ความร่วมมือ-เครือข่ายที่กว้างขวาง-ฐานความรู้ที่ดีเพียงพอ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ทั้งภาคเอกชนและราชการจับมือปรับตัวก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างทุ่มเททีเดียว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟลิ้น ณัฐพงษ์-ว่าที่ส.ส.สมุทรสาคร ยังบลัด พรรคก้าวไกล ชูธง ปลดล็อกท้องถิ่น-กระจายอำนาจ

ชัยชนะในการเลือกตั้งของ"พรรคก้าวไกล"หนึ่งในบริบทการเมืองที่หลายคนพูดถึงกันก็คือการที่มีพรรคก้าวไกลมีว่าที่ส.ส.-นักการเมือง รุ่นใหม่ เข้ามาหลายคน และหนึ่งในว่าที่ส.ส.-คนรุ่นใหม่ทางการเมืองที่น่าสนใจของพรรคก้าวไกล

ความเป็นธรรมดาของโลก .. ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ปีนี้ (พ.ศ.๒๕๖๖) ตรงกับปีเถาะ อธิกมาส ปกติวาร ปกติสุรทิน จ.ศ.๑๓๘๕ โดยอธิกมาสมาเดือน ๑๐ ในวัสสานฤดู เริ่ม ๓ กรกฎาคม ถึง ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

สภาสูง กับการโหวตนายกฯ เสียงเตือนถึง 'ด้อมส้ม' ระวังถูกมองเป็น เรดการ์ด!

เส้นทางการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หลัง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแถลงการทำ MOU กันไปเมื่อ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่า พิธาจะได้เสียงโหวตเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 376 เสียงหรือไม่

เขตพัฒนาพิเศษ-การลงทุนกับผู้คน ท้องถิ่นและการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อส่องดูความเคลื่อนไหวในการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ที่เป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ของประเทศ

ก้าวไกล .. ต้องก้าวไปด้วยธรรม!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในยามนี้ของกระแสสังคมการเมืองบ้านเรา ให้หวนระลึกถึงพระพุทธพจน์บทหนึ่งที่ว่า

ก้าวไกล ทั้งแผ่นดิน รอวัน ชนะเด็ดขาด

ชัยชนะของ"พรรคก้าวไกล"ในการเลือกตั้งเมื่อ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้พรรคก้าวไกล กลายเป็นพรรคที่มีเสียงว่าที่ส.ส.มาอันดับหนึ่งและกำลังกลายเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่หากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จะทำให้"พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล"ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย