ทุกปัญหาแก้ที่จิตใจของมนุษยชาติ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา ... เมษายนหน้าร้อนเข้ามาถวายการต้อนรับทุกสรรพสิ่งไม่เว้นว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ดิรัจฉาน ต้นไม้ ใบหญ้า แม่น้ำลำธาร คลองหนองบึงทั้งหลาย ที่บัดนี้กำลังโหยหาหยาดน้ำจากฟากฟ้าว่า.. เมื่อไหร่หนอจะหลั่งราดรดลงมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย... ไล่ฝุ่นละอองความแห้งแล้งให้เหือดหายไปจากแผ่นดิน โดยเฉพาะหมอกควันฝุ่น PM 2.5 ที่สะท้อนออกมาให้เห็นสภาพความจริงในหลายมิติ อันควรเป็นกรณีศึกษาในความล้มเหลวด้านบริหารการจัดการที่ไร้มาตรฐาน กับการจัดการขจัดปัญหาดังกล่าว ทั้งๆ ที่จะต้องมีแผนงานบริหารจัดการการเผชิญเหตุกรณีดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามีการจัดประชุมสรุปแบบแผนกันในทุกปี จนดูเหมือนเป็นแผนงานปกติ เป็นงานหลักประจำปีที่ต้องทำประจำ ที่เรียกว่า... Routine Work

สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการนำมาพิจารณาถึงกรณีปัญหาดังกล่าว ที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษ PM 2.5 จนเกินมาตรฐาน ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมหาชน-มหาสัตว์ทั้งหลาย คืออะไร ... อะไร คือ มูลเหตุแห่งปัญหาดังกล่าวที่แท้จริง ... และทำไมไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ... ควรอย่างยิ่งที่จะนำปัญหาดังกล่าวมาศึกษากันอย่างจริงจัง... เพื่อการเข้าถึงตัวมูลเหตุแห่งปัญหาที่แท้จริง... ไม่ใช่ลับ.. ลวง..พรางอยู่กับปัจจุบัน.. ที่อะไรๆ ก็โทษแต่พฤติกรรมการดำรงชีพขั้นพื้นฐานของชาวบ้าน ที่อาศัยความเป็นอยู่อ้างอิงกับธรรมชาติ ไม่ว่าการเผาป่า หาเห็ดเผาะ หรือต้องการผักหวานที่รอแตกหน่อออกยอด ภายหลังวิกฤตการณ์ไฟป่า ที่แผดเผาทุกอย่างราบเป็นหน้ากลอง… ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน!!!

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้แวะมาพักวัดแถบ อ.บางไทร พระนครศรีอยุธยา พอเหยียบย่างเข้าเขตวัดในยามค่ำ กลิ่นควันไฟก็โหมพัดเข้ามาคลุมพื้นที่อย่างรุนแรง ดูจะหนักกว่าในทุกๆ ครั้ง ที่เคยแวะเวียนเข้ามาพัก ...

สอบถามพระในวัดว่าเกิดอะไรขึ้น... ก็ทราบโดยประจักษ์เห็นด้วยตาว่ามีการเผาซากซังข้าวในไร่นาโดยรอบ.. แทนการไถกลบตอซังหรือซากพืชไร่ ที่มีอยู่ในไร่นาภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ทั้งนี้เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกในฤดูกาลต่อไป.. ที่ชาวบ้านคาดหวังว่า จะเป็นการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายตามวิถีคิดแบบชาวบ้าน.. ที่สะท้อนความเป็นจริงว่า แท้จริงชาวบ้านขั้นพื้นฐานในทุกท้องถิ่น ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักวิชาการการเกษตร

แม้จะมีการเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการไปสู่ชาวบ้าน ผ่านกลไกสายงานของรัฐทุกช่องทาง...เพื่อลดปัญหาการเผาทำลายซังข้าว ที่เชื่อมโยงไปสู่การทำลายจุลินทรีย์ในดิน และสืบเนื่องต่อการทำลายสภาพดินให้เสียหาย จนเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผลิตผลการเกษตรของชาวไทยตกต่ำ ทั้งนี้เพราะสภาพเสื่อมโทรมของดินที่ถูกทำลายจากการเผาไร่นา...

... การใช้ไฟเผา... การใช้สารเคมียาฆ่าหญ้า... การใช้ยาฆ่าแมลง จึงเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตในวิถีอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังที่บรรพชนเคยสืบปฏิบัติมา ... ที่สำคัญยิ่งคือ การแปรสภาพปัญหาไปสู่ปัญหาที่หลากหลาย ... สืบต่อยอดปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น โดยเฉพาะปัญหาการทำลายพืชผลการเกษตรให้สูญเสียสภาพธรรมชาติ จนนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางด้านผลิตผลการเกษตรของประเทศชาติ ที่นับวันจำนวนปริมาณทางด้านคุณภาพได้ตกต่ำลงมาก แม้ว่าจะสามารถเร่งเพิ่มปริมาณทดแทนส่วนที่สูญเสียไปได้ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้ากว่าสมัยก่อน... แต่ก็เป็นปริมาณที่ไร้คุณภาพ

การเรียกร้องให้มีการอนุรักษ์คุณภาพดินอย่างยั่งยืน ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้กลับคืนมา ... จึงนับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ในกระแสสังคมวัตถุนิยมปัจจุบัน

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญในการนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียกร้อง ... คือ การให้ความรู้ที่ถูกต้อง เพื่อการเข้าถึง-เข้าใจ ก่อนจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างเป็นระบบ มีระเบียบแบบแผนทางธรรมชาติที่ถูกต้อง...

สำหรับความรู้ที่ถูกต้องนั้น.. คงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงความรู้ทางโลกวิชาการเท่านั้น ประการสำคัญคือ ความรู้-ความเข้าใจในสัจธรรม... ที่แสดงความเป็นจริงในธรรมชาติ อันเป็นไปตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา

การปลูกความสำนึก.. หล่อหลอมอุดมการณ์ ด้วยความรู้ความเข้าใจทางธรรม.. ย่อมนำไปสู่ความเข้าใจกฏธรรมชาติอย่างแท้จริง เพื่อนำไปสู่การยอมรับระเบียบแบบแผนในการปฏิบัติได้จริงที่ไม่ขัดแย้งกับกฏธรรมชาติ...

การก้าวข้ามไปสู่..การปฏิบัติอย่างไร้อุดมการณ์และไร้หลักการ ย่อมแสดงถึงภาวะขาดความสำนึกชอบทางธรรม ที่จะนำไปสู่การหลอมรวมสร้างอุดมการณ์ขึ้นมาในจิตวิญญาณ เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ประเทศชาติ... โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อชีวิตของมนุษย์ เพื่อนร่วมโลก และสัตว์ทั้งหลาย ที่จะได้รับผลทั้งโดยตรงและโดยอ้อม จากการกระทำของทุกคนในสังคม...

พระพุทธศาสนาของเรา.. จึงมุ่งแก้ไขต้นเหตุแห่งปัญหาในทุกเรื่องในโลกใบนี้ ได้แก่ ความวิปลาสทางจิตใจของคนในสังคม

การแก้ไข สัญญาวิปลาส... เพื่อแก้ไข จิตวิปลาส และเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ทิฏฐิวิปลาส จึงเป็นภาระหน้าที่ของทุกคนในสังคม ในฐานะมนุษยชาติ... ที่กำลังต่อสู้กับอำนาจของ อวิชชา... เป็นมูลเหตุ

การประกาศหลักธรรม.. เป็นไปเพื่อการแก้ไขปัญหาทั้งปวงของมวลมนุษยชาติ ด้วยหลัก อริยสัจธรรม ๔ ประการ ในพระพุทธศาสนา จึงนับเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง ที่จะนำไปสู่ประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของชาวโลก.. หากมนุษยชาติได้เรียนรู้เข้าใจในหลักธรรมดังกล่าว และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง..

จริงๆ แล้วพระพุทธศาสนามีหลักธรรม อันแสดงธรรมวิธีเพื่อการดับทุกข์.. ดุจเป็น “ธรรมโอสถ” ของชาวโลก ที่ไม่ต้องเสาะแสวงหาวิธีการใดๆ กันอีกแล้ว เพื่อนำไปสู่การขจัดปัญหาต่างๆ ในชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อมให้สิ้นไป ได้แก่ อริยมรรคอันมีองค์ธรรม ๘ ประการ เพื่อการดำเนินไปในแนว มัชฌิมาปฏิปทา... ที่เรียกว่า ทางสายกลาง ...

ดังนั้น อริยมรรคอันมีองค์ธรรม ๘ ประการ.. ที่สำเร็จด้วยการ เจริญสติปัฏฐานธรรม จึงเป็นธรรมวิธีที่ชาวพุทธ..ประเทศพระพุทธศาสนาควรนำไปใช้ประโยชน์... เพื่อการพัฒนามนุษยชาติ หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า.. การพัฒนาแผ่นดิน... เพื่อแสดงความหมายที่แท้จริงของ.. มนุษยชาติ กับคำว่า แผ่นดิน คือเรื่องเดียวกัน!!

แต่ทำไมเราในฐานะชาวพุทธ จึงไม่นิยมนำ ธรรมวิธี ในพระพุทธศาสนามาใช้ในการบริหารคน เพื่อนำไปสู่การบริหารแผ่นดิน... นี่เป็นคำถามที่ทุกคนต้องหาคำตอบในฐานะชาวพุทธ เพื่อความเข้าใจในความเป็นจริงที่ว่า ทำไมปัญหาจึงไม่เคยจบสิ้น.. ทำไมความทุกข์จึงไม่เคยหมดไปจากจิตวิญญาณของคนเรา... ซึ่งคำตอบที่แท้จริงคือ เพราะเรา แก้ไขปัญหาอย่างไม่ถูกธรรมวิธี... หรือใช้ธรรมวิธีไม่ถูกกับการแก้ปัญหา ทั้งนี้อาจจะเพราะด้วยเราไม่เข้าใจในหลักธรรมที่เป็นอริยสัจในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริงก็ว่าได้

ปัญหาในประเทศชาติหรือในโลกนี้ จึงไม่เคยจบสิ้น เพราะเราไปนิยมใช้วิธีทางโลก.. มีความรู้ความเข้าใจในด้านวัตถุนิยม.. เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า แต่ ขาดความรู้ความเข้าใจในวิถีธรรม

ความโลภโมโทสัน ความโง่เขลา อันเกิดมาจากความรู้ผิด.. ความเห็นผิด.. จนก่อเกิดความวิปลาสทางจิตใจ.. จึงผุดมาเป็นดอกเห็ด และทับถมซับซ้อนกัน จนกลายเป็นกองพะเนินเทินทึกของปัญหา ที่หมกหมักเน่าเหม็น และเชื่อมโยงสัมพันธ์กันจนยุ่งเหยิง เสมือนด้ายของช่างทอหูกที่ผูกกันเป็นกระจุก จนไม่สามารถสืบหาต้นปลายได้ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า ...“อย่าพูดอย่างนั้น อานนท์ อย่าพูดอย่างนั้น อานนท์ ปฏิจจสมุปบาทนี้ เป็นธรรมลึกซึ้ง สุดจะคาดคะเนได้ เพราะไม่รู้ไม่เข้าใจใน ปฏิจจสมุปบาท นี้ หมู่สัตว์จึงยุ่งเหยิง เหมือนขอดด้ายของช่างทอหูก ผูกเป็นปมนุงนังเหมือนกระจุกด้าย เหมือนหญ้ามุงกระต่าย และหญ้าปล้อง ไม่ข้ามพ้นทุคติ–วินิบาต และสงสาร...”.

 

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บทธรรมดับโลกร้อน .. ที่นักปกครองต้องอ่าน!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โลกกำลังเข้าสู่ห้วงธรรมวิกฤต.. ที่มนุษยชาติประพฤติตนอยู่ในมิจฉาทิฏฐิ มีความโลภที่รุนแรงและราคะความกำหนัดที่ผิดธรรม .. เป็นส่วนใหญ่

กกต.เริ่มขยับ พร้อมงัด 'กฎเหล็ก' คุมเข้มเลือก สว. 2567

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง "สมาชิกวุฒิสภา" (สว.) ชุดใหม่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุด ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

พนัส อดีตสว.-อดีตสสร. คัดเลือกสภาสูง 2567 ฝ่ายประชาธิปไตยมีสิทธิลุ้น

ความเคลื่อนไหวการได้มาซึ่ง"สมาชิกวุฒิสภา"(สว.) ชุดใหม่ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ....

อย่าใหญ่เกินธรรมชาติ .. พ่อมหาจำเริญ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา.. ภาวะโลกร้อน (Global warming) .. อันเกิดเนื่องเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่กำลังอยู่ใต้ห้วงวิกฤตการณ์อันเนื่องจากการกระทำของคนเรา

“มิจฉาธรรม .. ในอสัตบุรุษที่น่ากลัวยิ่ง”

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา สงกรานต์ร้อนที่เข้าสู่จุลศักราช ๑๓๘๖ เถลิงศกตรงกับ ๑๖ เมษายน ๒๕๖๗ นับว่าร้อนแล้ง ตรงกับคำพยากรณ์ที่พร้อมเกิดพายุร้อนได้ในทุกพื้นที่ เป็นการแสดงสภาวะผันผวนที่เนื่องมาจากวิกฤตร้อนของโลก (Climate Change) ที่หลายฝ่ายเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า มนุษยชาติจะผ่านวิกฤตโลกร้อนไปได้หรือไม่..

สู่.. โครงการพระคืนสู่ป่า น้อมถวายเป็นพระราชกุศลฯ

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในห้วงเวลาที่อากาศร้อนจัด จนเข้าสู่วิกฤตการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ