พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด..ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด..ในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบที่ลาว กัมพูชา ในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี..แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือฯ คลองเตย
ท่าทีของฝ่ายรัฐบาลและแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน ยังคงยืนยันจะเดินหน้าผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่ให้มี "กาสิโน" ต่อไป หลังเปิดสภาเดือน ก.ค.
ขณะเดียวกันยังมีข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเพื่อไทยในเรื่องนี้ออกมาต่อเนื่อง และหนึ่งในความเห็นที่น่าสนใจมาจากสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล ที่เสนอให้รัฐบาลควรนำร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวกลับไปทบทวนใหม่ ด้วยการเขียนให้มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะการระบุให้ชัดเจนว่าต้องการให้มีการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในพื้นที่จุดใดบ้าง
ที่ก็คือความเห็นของ "อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติและประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (เอกนัฏ พร้อมพันธุ์) อดีต สส.กทม."
"ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มันไม่ละเอียด เลยทำให้คนเปิดใจยากที่จะเข้าใจและรับฟัง ก่อนจะเปิดกาสิโนต้องเปิดใจก่อน" อรรถวิชช์กล่าวนำไว้อย่างน่าสนใจ
...ตอนนี้เป็นอาการแบบคนอยากได้ก็รีบมาก ส่วนคนค้านก็พร้อมเดินทันที คิดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ยังไม่สมบูรณ์ คือเขียนแบบเผื่อเยอะเกินไป เลยไม่สร้างความเข้าใจให้ประชาชนได้ว่ามันคืออะไร ร่างกฎหมายฉบับนี้คือร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เนื้อหาจึงควรพูดถึงว่าทำอย่างไรแล้วเป็นสถานบันเทิงครบวงจรได้ แต่ไปเน้นหนักเรื่องกาสิโน จึงสร้างความเข้าใจได้ยากมาก จริงๆ แล้วร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีโอกาสเขียนได้สมบูรณ์มากกว่านี้เยอะ หากไม่ไปพึ่งเรื่องกาสิโนเป็นหลัก
การไปสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใหม่ มันก็คือการสร้างเมืองใหม่อีกหนึ่งเมือง หากใครได้ไปมาเก๊าจะพบว่าจะมีฝั่งเมืองเก่ากับฝั่งเมืองใหม่ การสร้างเมืองขึ้นมาอีกหนึ่งที่ น่าจะระบุไปเลยว่าจะสร้างที่ไหน อยากได้ตรงไหน ก็ใส่ไปในกฎหมายให้ชัดเจน
...สมมุติอยากได้ตรงแถวท่าเรือคลองเตย เอาแบบไม่อ้อมค้อม ก็ระบุไปเลยว่าจะปรับปรุงท่าเรือคลองเตยให้ออกมาแบบไหน ซึ่งหากจะทำต้องมีกฎหมายอีกหลายฉบับ ต้องไปทำควบคู่กันด้วย เช่นกฎหมายเกี่ยวกับการท่าเรือฯ กฎหมายควบคุมอาคาร กฎหมายเกี่ยวกับอีไอเอ กฎหมายผังเมือง พวกนี้ควรเขียนอยู่ในตัวกฎหมายให้ชัดเจน แต่เราไม่เห็นความชัดเจนของมัน
"พูดตรงๆ ถ้าอยากได้ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนใส่ไว้เลยว่าตรงพื้นที่ของการท่าเรือฯ มหาศาลตรงนั้น หากจะทำให้เป็นสถานบันเทิงครบวงจร ให้มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ จะให้มีพื้นที่กาสิโนเท่าใด แล้วประชาชนทั่วไปจะเข้าไปมีส่วนในการเข้าไปใช้พื้นที่ต่างๆ เช่น ศูนย์แสดงสินค้า ทำแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้น ผมว่าต้องเอาให้ชัด"
เพราะผมยังงงว่าเขาจะคำนวณรายได้ ที่จะเกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจรอย่างไร ที่บอกว่าประเทศจะได้ประโยชน์ จะได้ประโยชน์จากมุมไหน จะได้อย่างไร เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะให้มีการเปิดกี่แห่ง
ร่างกฎหมายฉบับนี้มันเป็นการเปิดช่องให้มีการชี้ได้ว่าจะมีกี่แห่ง จะมีตรงไหน มันกว้างเกินไป มันบอกไม่ได้เลยว่ารูปลักษณ์หน้าตามันจะเป็นอย่างไร นี่คือปัญหาที่มันเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
-การที่ตัวร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ แล้วจะไปใช้กระบวนการรัฐสภาแก้ไขได้หรือไม่?
มันก็ได้ ตอนนี้สปีดที่เอาเข้ามาก็แซงคิวร่างกฎหมายฉบับอื่นเข้ามา คือถ้าผ่าน ครม.แล้วเรียงคิวกฎหมายอื่นๆ แบบนี้มันพอทำร่างกฎหมายประกบได้ทัน แต่ว่าพอร่างผ่านที่ประชุม ครม.ก็เอาเข้าสภาเลยแล้วแซงขึ้นมา มันจะทำร่างกฎหมายประกบโดยละเอียดได้อย่างไร
การจะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือการสร้างเมืองใหม่มันต้องมีอะไรบ้าง ผมคิดว่าในเนื้อหาเขาควรต้องระบุว่าจะมีตรงไหน เช่นอยากได้ตรงท่าเรือคลองเตย ก็ต้องบอกท่าเรือคลองเตย หรืออยากได้พื้นที่ตรงไหน เพื่อที่จะได้กำหนดการพัฒนาพื้นที่ตรงนั้นให้ชัดเจน เพราะต้องเผชิญกับกฎหมายอีไอเอเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2.พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 3.พ.ร.บ.ผังเมือง และการเจริญเติบโตของเมือง ต้องบอกว่าจะเอาอย่างไร ยกตัวอย่างถ้าตรงนั้นจะกลายเป็นศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ หอประชุมขนาดใหญ่ที่จุคนได้หลายหมื่นคน จัดงานได้ รถไฟฟ้า สาธารณูปโภคต้องไปถึง แล้วมันเขียนไว้หรือยัง
ยุคพวกเรา ยุคพวกผม ไบเทคกับเมืองทองธานี ที่เมืองทองธานีจัดงานมากี่สิบปีแล้ว แต่รถไฟฟ้าเพิ่งไปถึง หรือไบเทคก็เพิ่งไปถึง คือเมืองมันไม่ได้ตอบโจทย์ให้รับกับเมืองที่ขยายตัวออกไป แต่หากมีการชี้ชัดว่าจะเอาพื้นที่ตรงไหน เช่นจะใช้พื้นที่่ท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนบอกไว้จะให้มีพื้นที่สีเขียวเท่าใด หากจะให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก แล้วไม่สร้างรถไฟฟ้าให้ไปถึงหรือ รถไฟฟ้าไปถึง สัมปทานรถไฟฟ้าจะเปิดใหม่ ก็เป็นสัมปทานที่ต้องได้ เงินก็ได้เข้าหลวงอีก มันไม่ได้แค่หมัดเดียวจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่จะเข้ามา bid งานเรื่องนี้ แต่มันจะได้จากสภาวะแวดล้อมอื่นๆ อีกเยอะ มันก็จะได้โตในเรื่องเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย
คิดว่ากฎหมายมันทำละเอียดได้ ไม่จำเป็นต้องโยนหินถามทางไปก่อนแล้วสร้างความไม่ชัดเจน เพราะมันจะเกิดความไม่เข้าใจในวงกว้าง นี่คือปัญหาที่ผมหนักใจ คือก่อนเปิดกาสิโนต้องเปิดใจก่อน รีบเกินไปไม่มีประโยชน์ หากคิดว่ามันคือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จริงๆ ไม่ใช่จะมาชี้ตรงนี้เป็นกาสิโน ตรงนี้เป็นกาสิโน ถ้ากาสิโนเกิดขึ้น 7-8 แห่งทั่วประเทศไทย ใบอนุญาตก็ไม่มีค่าอยู่ดี แล้วจะเจอปัญหาในการบริหารงานในอนาคตด้วย
-คิดว่าเป็นเพราะสาเหตุใด รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยถึงต้องรีบเรื่องนี้?
ผมไม่เข้าใจหลายเรื่อง อันนี้ผมพูดตามตรง ผมขอพูดในนามส่วนตัว ในฐานะเคยเป็นอดีต สส.กทม. ไม่ได้พูดในนามของพรรคการเมือง ผมเห็นรัฐบาลทำงานเรื่องเศรษฐกิจบางทีก็รีบไป
ยกตัวอย่างดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีการแจกเงินออกสู่สาธารณะ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิด เพราะหลักการกระตุ้นจีดีพี หากทำให้การบริโภคในประเทศเกิดจากรายจ่ายภาครัฐแล้วมันสอดคล้องกัน ทำให้เกิดการหมุนทางเศรษฐกิจได้หลายรอบ แล้วหมุนได้เร็ว อันนี้ก็ถือเป็นพายุหมุนได้ แต่จะเห็นได้ว่าการแจกเงิน ไม่สามารถกู้เงินโดยการออกพระราชกำหนดมาใช้แจกตูมเดียวได้ สุดท้ายก็ต้องไปเจียดเงินจากงบประมาณรายจ่ายมาเพื่อแจกเงินเป็นระยะ ก็ไม่ทำให้เกิดพายุหมุนลูกหนักที่อยากได้ อิมแพกต์เลยมีน้อย แต่ประชาชนก็ชอบเพราะเงินขาดมือพอดี
แต่เรื่องกาสิโนมันละเอียดอ่อนมาก เพราะว่ามันเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็อยากให้มันเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ อย่างสิงคโปร์ตอนสร้างชาติใหม่ๆ เขาไม่ยอมทำกาสิโน แต่สุดท้ายสิงคโปร์ต้องยอมทำ แต่เขาทำด้วยความระมัดระวัง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของเขา Marina Bay Sands เมื่อก่อนคนไปสิงคโปร์ก็ต้องไปเดิน Orchard Road สวนนกจูร่ง แต่ปัจจุบันเพิ่มอีกหนึ่งแห่งต้องไปที่ Marina Bay Sands ซึ่งหากเราทำแบบนี้ได้มันก็ดี แต่กลายเป็นว่าร่างกฎหมายเขียนออกมาแล้ว ทำให้คนไปเข้าใจว่าเราจะชี้กี่แห่งก็ได้ อยู่ตรงไหนก็ได้ ไม่ใช่ที่ใดที่หนึ่ง มันทำให้คนเปิดใจไม่ได้ ทำให้แบรนดิงของคำว่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มันเสียไป ความเร่งรีบทำให้มันเสียไป ความเข้าใจกลายเป็นคนละเรื่องเลย
และในอนาคตต่อไปหากจะให้ชี้ได้หลายที่แบบในกฎหมายเขียน ผมว่ามันไม่ใช่ Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ แต่จะกลายเป็นโมเดลแบบประเทศลาว กัมพูชาในอนาคต ซึ่งมันจะไม่ดี จะคุมอย่างไร แต่หากเอาที่เดียวแบบเจาะๆ มันจะชัดกว่าหรือไม่ ก็พูดดังๆ เลยหากจะเอาพื้นที่ตรงการท่าเรือคลองเตย แล้วเขียนให้สาธารณูปโภคไปรองรับตรงนั้น เช่น รถไฟฟ้า สวนสาธารณะ ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ สร้างเมืองใหม่รับเรือสำราญขนาดใหญ่ ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะเห็นภาพที่แตกต่างออกไป
ร่าง กม.แบบไม่ลงรายละเอียด
ให้เช็คเปล่ามาเยอะมาก
-ตัวร่าง พ.ร.บ.มีอะไรน่ากังวลอีกบ้าง?
ก็เป็นวิธีการร่างกฎหมายแบบไม่ได้ลงในรายละเอียด คือให้เช็คเปล่ามาเยอะมาก อาทิมีอยู่มาตราหนึ่ง ในส่วนของคณะกรรมการนโยบายที่มีนายกฯ เป็นประธาน มีรัฐมนตรีหลายกระทรวงร่วมเป็นกรรมการ แต่มีจุดหนึ่งเขียนว่าหากคณะกรรมการนโยบายเห็นอย่างไร ให้มีผลผูกพันกับหน่วยงานที่อยู่ภายใต้หน่วยงานนี้ด้วย แปลว่ากรรมการชุดนี้ใหญ่กว่าระเบียบภายในของกระทรวงอีก หากอะไรติดขัดให้เอามติของคณะกรรมการไปทับให้ใหญ่กว่าได้ คุ้นๆ เหมือนกับเวลาเขียนกฎหมายเกี่ยวกับศาลรัฐธรรมนูญ ที่บอกความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญให้เหนือกว่าหน่วยงานของรัฐทุกอัน
การเขียนแบบนั้นผมก็ไม่เข้าใจจะเขียนทำไมให้เกิดความรู้สึกน่าตกใจ ว่ามติของบอร์ดชุดนี้แม้จะมีรัฐมนตรีหลายคน แต่เขียนแล้วผมว่ามันใหญ่เกินไป
รวมถึงการชี้พื้นที่ให้ทำและจำนวนพื้นที่จะให้ทำ (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ก็ให้ขึ้นอยู่กับมติบอร์ด (คณะกรรมการนโยบาย) ที่ผมว่ามันกว้างเกินไป เป็นการให้ดุลยพินิจของฝ่ายบริหารมากเกินไป จริงๆ รัฐบาลคุมเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้ว หากตั้งใจให้กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายของเสียงข้างมากในสภา ก็ควรเขียนสเปกให้ละเอียดแล้วใส่เข้าไปในสภาเลย
ถ้าเจตนาอยากได้แห่งเดียวหรือสองแห่งแบบสิงคโปร์ อยากเห็น Marina Bay Sands แบบสิงคโปร์ อยากได้ท่าเรือคลองเตยก็บอกเลย แล้วเขียนในเชิงลึกว่า สวนสาธารณะจะให้มีพื้นที่กี่ไร่ พื้นที่ศูนย์จัดประชุมจะให้ใหญ่แค่ไหน จะมีรถไฟฟ้า-รถไฟใต้ดิน จุดเชื่อมโยงเข้าไปอีกเท่าไหร่ มันจะเกิดการลงทุนใหม่หมด สิ่งที่ทำได้คือสามารถคำนวณราคาได้ทันทีเลย มูลค่าทางเศรษฐกิจ มูลค่าทางการเงิน คำนวณได้ทันที
แต่ปัจจุบันอย่างที่บอก หากทำแล้วจะสร้างงานได้กี่อัตรา เอาอะไรเป็นสมมุติฐาน เพราะจำนวนยังไม่รู้เลยว่าจะให้ทำกี่แห่ง แต่ตอนนี้ร่างกฎหมายฉบับนี้มันค่อนข้างจะคลุมเครือและเปิดช่องมากเกินไป
-มีข้อเสนอว่าควรทำประชามติถามความเห็นประชาชน?
ผมว่าก่อนไปทำประชามติ ไปทำกฎหมายให้ชัดก่อนดีกว่า ผมว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มันไม่ชัด มันเหมือนเรา คือก็เหนื่อยนะ เพราะเรื่องนี้พูดมาหลายครั้ง มีพี่ๆ บางคนบอกว่า ที่เขาค้านเต็มที่เพราะเขาไม่เห็นรายละเอียด บางคนบอกผมว่าหากทำแบบที่ผมให้ความเห็นก็โอเค เห็นภาพชัด แต่ว่าเราอยู่ตรงกลาง ก็ไม่รู้จะไปยังไง เพราะเราก็ไม่ได้อยู่เสียงข้างมาก แต่หากมีการแสดงเรื่องเหล่านี้ให้ประจักษ์ว่ามันจะโตไปได้จริง จะเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จริงๆ ต้องเป็นเหมือนที่ชื่อมันเป็น แต่ปัจจุบันมันเป็นกาสิโน มันไม่ใช่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
-การทำร่าง พ.ร.บ.ประกบเข้าไปในสภา (รวมไทยสร้างชาติ) คงไม่ทัน?
ตอนแรกก็ตั้งใจจะเขียนให้ทันส่งประกบเข้าไป แต่มันไม่ทัน
เพราะปกติแล้ว อย่างขณะนี้ขอยกตัวอย่าง ผมร่างกฎหมายเครดิตบูโร ปฏิรูปกฎหมายเครดิตบูโรใหม่หมดเลย ที่ก็สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลด้วยเรื่องการแก้ไขปัญหาหนี้ แต่ตอนนี้ร่างกฎหมายที่ส่งไปอยู่ในลำดับที่ห้าสิบกว่า (ระเบียบวาระการประชุมสภา) รอเรียงคิวขึ้นมา
ผมก็รออยู่ว่าปลายปีนี้คิวผมจะถึงหรือยัง และแต่ละพรรคก็มีโอกาสจะทำร่างกฎหมายประกบกับที่ทำไว้ได้ เราก็อาจจะได้เห็นการปฏิรูปเครดิตบูโร การปล่อยสินเชื่อที่ดีขึ้นในปลายปีนี้ แต่ร่างกฎหมายกาสิโน พอส่งเข้าสภาก็แซงเลย เราก็ไม่เห็น จะทันได้อย่างไร เพิ่งเห็นร่างกฎหมายกันเต็มๆ เพราะหลังผ่าน ครม.ครั้งแรก (มกราคม 2568) ต่อมามีการเปิดรับฟังความคิดเห็น พอรับฟังความเห็นเสร็จต้องนำร่างไปแก้แล้วส่งกลับเข้า ครม.อีกครั้ง ปรากฏว่าพอส่งวนกลับขึ้นไป เขาไม่ได้แก้เยอะ มีการแก้ไขเล็กน้อย พอจะทำร่างกฎหมายประกบมันไม่ทัน
-เรื่องใบอนุญาตทำกิจการ 30 ปีที่ให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้ใบอนุญาต คิดว่ายาวนานเกินไปไหม เพราะไม่รู้ได้ว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่?
อันนี้ผมก็ไม่รู้อีก เพราะผมไม่ได้เห็นเนื้อหาเลยว่ารูปแบบเป็นอย่างไร เพราะว่ามันไม่ได้มีการบอกสเปก เพราะตัวร่างกฎหมายเขียนไว้แบบคร่าวๆ ว่าแล้วแต่คณะกรรมการนโยบายจะชี้ จะชี้ตรงไหนให้เปิดกาสิโน ขนาดของกาสิโนก็บอกว่าไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ของอาคาร อันไหนน้อยกว่าเอาอันนั้น คำตอบคือหากเขาทำอาคารใหญ่โตมโหฬารมาก แล้วบอกว่าพื้นที่กาสิโนต้องไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ก็แปลว่าเยอะมาก จริงๆ ให้บอกสเปกยังได้เลยว่าให้มีกี่โต๊ะ มีกี่ประเภทสำหรับการพนันที่อยู่ในนั้น ผมคุยกับหลายคนที่ค้านกาสิโนมาเยอะ และไปถึงองค์กรที่ค้านด้วย เขาอยากให้มีความละเอียด แต่เมื่อไม่มีเขาก็ต้องค้านไปจนสุดทาง ซึ่งเราก็เข้าใจหัวอกคนค้าน ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเขียนกฎหมายให้กว้างขนาดนี้ ทั้งที่ไม่ใช่กฎหมายเชิงลึก
"ผมคิดว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เร็วเกินไปที่รัฐบาลเสนอเข้ามา แม้กระทั่งว่าเราเอง ผมเองเป็นแค่สมาชิกพรรคของพรรคร่วมรัฐบาล แต่ผมเองยังทำร่างกฎหมายประกบไม่ทันเลย เพราะร่างที่จะประกบกับร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ ต้องสอดคล้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งเรื่องผังเมือง เรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมอาคารตึกสูง เรื่องการเวนคืน พ.ร.บ.การท่าเรือฯ
อยากเห็นรัฐบาลเอากลับไปทบทวน ความเห็นที่เสนอกันตอนไปรับฟังความเห็นตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 ก็มีเป็นจำนวนมาก อยากให้นำไปปรับก่อน อันนี้ไม่ได้ปรับ เป็นกฎหมายเชิงกว้าง ไม่ใช่เชิงลึกและไม่ได้เจาะจงพื้นที่ แล้วมันบอกเหตุการณ์ในอนาคตได้เลยว่า มันจะเกิดการติดขัดระหว่างทางหลังใบอนุญาตออกไปแล้ว ยังไม่ชัดเจนเพียงพอ อยากให้นำกลับไปทบทวน
และก่อนจะเปิดกาสิโน ผมว่าเปิดใจคนให้ได้ก่อน ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังเปิดใจคนไม่ได้ ความลึกยังไม่พอ" อรรถวิชช์ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวปิดท้าย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“โมหมูลจิต” .. ..มูลเหตุของการถูกหลอกลวง โดย Scammer!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในกระแสสังคมยุคไอที ที่มีความเจริญอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีชั้นสูง จนเข้าสู่ ยุควัตถุ AI ในปัจจุบัน ที่แสดงความเสมือนจริงให้สัมผัสได้ใกล้เคียงอย่างน่าศึกษายิ่ง
โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
เจริญพรสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมเพรียง.. ร่วมไว้อาลัยแด่การเสด็จสู่สวรรคาลัย ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
AI กับการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ให้ใคร ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ( Artificial intelligence ) มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโลกของ”การศึกษา-การทำงาน”


