ความโลภ ที่น่ากลัว...... ความเลว ที่น่ารังเกียจ..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา... นับเป็นห้วงเวลาแห่งการบำเพ็ญเพียร ประพฤติธรรม ที่ให้คุณค่ายิ่งต่อการพัฒนาจิต.. ในวิถีสติปัฏฐานธรรม รวม ๑๗ วัน ที่ให้ประโยชน์ทั้งต่อตน.. ต่อภิกษุ อุบาสก-อุบาสิกา.. และต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนา บนภูเขาในเขตเสนาสนะป่า พระธาตุภูหว้ารัตนคีรี ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน เกาะภูเก็ต

การเจริญสติ.. ในวิถีธรรมชาติ ที่สมบูรณ์ด้วยภูมิอากาศในป่าใหญ่ ที่ยังหลงเหลือสภาพความเป็นป่าต้นน้ำบนเทือกเขานาคเกิด นับว่าให้ประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเจริญธรรมตามกระบวนการพัฒนาจิต ที่บริบูรณ์ด้วยพระธรรมคำสั่งสอน ไม่ออกไปนอกคอก.. นอกหนทางที่ทรงแสดงไว้ดีแล้วในความเป็น มัชฌิมาปฏิปทา...

การปฏิบัติอย่างเหมาะควรในประโยชน์ คำนึงถึงทางสายกลาง จึงเป็นเหตุ เป็นผล.. ที่สามารถรู้เหตุ.. รู้ผลนั้นได้ด้วยปัญญา อันเกิดจากการฟอกจิตให้ใสสะอาด ด้วยการเพียรชอบอย่างต่อเนื่อง

การตามรักษาจิต.. การตั้งความปรารถนาอันควร คำนึงถึงประโยชน์แห่งธรรม.. จึงเป็นอุบายวิธีให้เกิดฉันทะที่ประกอบด้วยความเพียรชอบ ด้วยจิตจดจ่อใคร่ครวญพิจารณา...

จึงเกิดกำลังใจ ความชอบใจ ความใส่ใจในการปฏิบัติอย่างมั่นคง แน่วแน่ ไม่หวั่นไหว ในความศรัทธาปสาทะ ใน พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ที่นำไปสู่การมีอัธยาศัยในการช่วยแสดงธรรมสั่งสอนหมู่ชนนิกรทั้งหลายในทุกเช้า เมื่อลงมาจากภูเขา เพื่อทำกิจบิณฑบาต.. อันเป็นอาชีวะที่บริสุทธิ์ของพระสงฆ์สาวกในพระผู้มีพระภาคเจ้า

ความรื่นเริงในธรรมจึงเกิดขึ้น ในจิตใจของผู้ใคร่ในการศึกษาธรรม.. ปฏิบัติธรรม ที่อุตสาหะเดินทางมาทุกเช้ามืด เพื่อจะใส่บาตร ถวายสังฆทานและฟังธรรม บริเวณลานธรรมเชิงเขาพระธาตุภูหว้า

วันอาทิตย์ที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๘.. จึงได้ตั้งใจแสดงธรรมบูชาคุณพระผู้มีพระภาคเจ้า.. และเปลื้องหนี้ศรัทธาสาธุชน ที่ถวายภัตตาหารอันประณีตมาโดยตลอด ด้วยการนำสาระธรรมจากการอบรมจิตภาวนามาสาธยายประกาศคุณ เพื่อเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ที่เปรียบดุจญาติสาโลหิต ได้เกิดความศรัทธาปสาทะ.. เบิกบาน โสมนัส ในสัมผัสแห่งธรรม อันเนื่องจากการน้อมธรรมเข้าสู่จิตในทุกถ้อยกถา เพื่อมนสิการในความหมายแห่งธรรม

ภาพคณะศรัทธา .. ญาติโยม ผู้ประพฤติธรรมจำนวนไม่น้อย นั่งตั้งใจฟังอย่างสงบนิ่งตลอดเวลาที่บรรยายธรรม ในทุกครั้งที่ลงจากภูเขามาปฏิบัติศาสนกิจ.. นับเป็นภาพที่หาดูได้ยากในสังคมสมัยปัจจุบัน.. ไม่มีการก้มหน้าเปิดมือถือ.. ไม่มีเสียงพูดคุย.. ไม่มีคนลุกขึ้นนั่งลงไปมา.. และไม่มีแม้เสียงกระแอม.. แม้จะมีผู้สูงอายุจำนวนมากและในนั้นมีอายุเกิน ๑๐๐ ปีอยู่ด้วยหนึ่งคน

จึงได้กล่าวก่อนจะอำลาด้วยจิตเคารพธรรม.. ว่า.. จะหาโอกาสมาเจริญภาวนาระยะยาวที่ พระธาตุภูหว้า แห่งนี้อีกในโอกาสหน้า.. สิ้นเสียงกล่าวจบ.. มี สาธุการ!! ตอบรับจากคณะศรัทธาญาติโยมที่แสดงออกถึงความเป็นกัลยาณมิตรอันยิ่ง.. ก่อนจะขึ้นรถเดินทางสู่ จ.ตรัง และ จ.พัทลุง.. เพื่อปฏิบัติศาสนกิจใน โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม .. ทั้งแผ่นดิน เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีกำหนดการจัดงานดังกล่าวใน วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๘ ที่ จ.ตรัง และในวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๘ ที่ จ.พัทลุง..

นับเป็นเรื่องที่น่าสังเกตยิ่ง ในระหว่างมาพัก.. ปฏิบัติธรรม บนภูเขากลางเกาะภูเก็ต เขตป่าต้นน้ำ ที่ปัจจุบันถูกกลุ่มคนบางพวก.. บางตระกูล บุกรุกแผ้วถางทำลาย ปลูกพืชทดแทนเพื่อเข้าครอบครองพื้นที่ป่า.. ที่แพร่ระบาดไปทั่วถิ่นฐานเทือกเขานาคเกิด.. อย่างยากที่จะป้องกัน ด้วยประสิทธิภาพของหน่วยงานรักษาป่า.. และฝ่ายปกครองบ้านเมือง

จึงได้แต่ปลงอนิจจังในความโลภโมโทสันของคนเรา.. ที่นับวันจะต่ำตมจมลงไปในกิเลสอย่างหยาบมากยิ่งขึ้น จนจิตเตลิดโลภไม่เลือก ไม่ว่าจะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่..

แต่ก็ยังอุ่นใจ.. ที่ยังมี สำนักปฏิบัติธรรม .. ที่พักสงฆ์ในเขตป่า ที่ทำหน้าที่คุ้มครอง ดูแล ปกป้อง.. จึงได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง เพื่อเป็นทรัพยากรของแผ่นดิน ด้วยคุณของพระปฏิบัติที่ทำหน้าที่พิทักษ์ป่าโดยปริยายตามพระวินัย จึงยังพอมีพื้นที่ป่าหลงเหลือไว้ให้เป็นสัญลักษณ์ของป่าสมบูรณ์ต้นน้ำ เพื่อสืบระบบนิเวศที่ยั่งยืน..

แม้สำนักสงฆ์ .. ที่พักสงฆ์ในเขตป่า จะมีคุณค่าต่อการพิทักษ์รักษาป่า.. ที่สามารถตรวจสอบ พิสูจน์ได้.. แต่กลับมิได้รับผลตอบแทนกลับคืนจากภาครัฐ ทั้งที่สามารถทำการสนับสนุนในการชักนำจิตใจของชาวบ้าน เพื่อร่วมกันดูแลทรัพยากรของแผ่นดินให้ยั่งยืน

มิหนำซ้ำ.. บางครั้งกลับได้เห็นภาพเจ้าหน้าที่ร่วมมือกับชาวบ้านบางกลุ่ม.. บางตระกูล ในการแผ้วถางบุกรุกเพื่อครอบครองพื้นที่ป่า.. แม้จะติดอยู่ในเขตที่พักสงฆ์.. เพื่อจะได้แปลงการครอบครองให้เป็นทุน จะได้แบ่งปันผลประโยชน์กัน โดยมีชาวบ้านพวกที่มีอิทธิพลออกหน้า .. หนุนหลัง ด้วยเจ้าหน้าที่บางพวก .. บางกลุ่มในพื้นที่

เรื่องราวเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่แพร่หลายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ.. ดังมีเหตุการณ์เกิดขึ้นปรากฏเป็นข่าวทำนองดังกล่าวบ่อยครั้ง.. ที่เชื่อมโยงกับเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า.. เพื่อประโยชน์แห่งตน

วิถีธรรมชาติ.. จึงเปลี่ยนแปลงไปในทั่วทุกภูมิภาค.. ก่อเกิดปัญหาทางด้านภูมิอากาศที่เสียสมดุล แปรปรวนวิปริต.. จนยากจะควบคุมความสัมพันธ์ระหว่างคนเรากับสิ่งแวดล้อมได้.. อย่างที่เคยเป็น

การทำลายสภาพธรรมชาติ.. การเผาป่าเพื่อบุกรุกครอบครองที่ป่า.. การแสวงหาผลผลิตทางธรรมชาติอย่างขาดความรู้ ความเข้าใจ ไร้สามัญสำนึก ของคนรักแผ่นดิน จึงทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางธรรมชาติอย่างรุนแรง ดังก่อเกิดภาวะโลกร้อนที่ขยายตัวแพร่ครอบคลุมไปทั่ว ที่เรียก Climate change..

จึงไม่แปลกที่ได้เห็นความวิปริตทางธรรมชาติ ที่แสดงอาการสับสนหลงฤดู.. ไม่ว่าภาคเหนือ ภาคใต้ หรือภาคกลาง.. ภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็นบนภูเขา.. ในที่ราบ.. ลำคลองหนองบึงและแม้ที่สุดในทะเล..

ภาวะเอาแน่เอานอนไม่ได้.. แสดงความไม่เที่ยงในเชิงทำลายล้าง จึงเกิดขึ้น (Destructive Uncertainty) ให้คนเราตกใจเล่น จนจะกลายเป็นเรื่องปกติ.. ที่แสดงความเป็นจริงของความเสื่อม อันเกิดจากความเปลี่ยนแปลงแบบวิปริตของธรรมชาติ

จากข้อมูลทางวิชาการ ที่ว่า.. อารยธรรมของโลกมนุษย์ จะถึงความล่มสลายในปี พ.ศ.๒๕๙๓ หากไม่ขจัดภัยคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ.. ที่ศึกษาโดย สถาบันคลังสมองสัญชาติออสเตรเลีย .. จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะไกลเกินจริง..

โดยเฉพาะการศึกษาในเรื่อง.. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ .. เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติปัจจุบัน... ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่ควรตื่นรู้.. ตระหนักรู้.. ทำความรู้เหตุ รู้ผล ด้วยปัญญาอันชอบ.. เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวก่อนจะสายเกินแก้... ก่อนที่โลกจะดำเนินไปสู่จุดจบของอารยธรรมมนุษยชาติ จากการกระทำของน้ำมือมนุษย์ ที่แสวงหาอย่างเตลิด ถึงขั้นโลภอย่างไม่เลือก.. เป็นความโลภที่ควบคุมไม่ได้.. จนเกินห้ามใจ ให้อยู่ในกรอบของศีลธรรม ประเพณีอันดีงาม

ดังนั้น ในวันที่ ๒๑–๒๒ เมษายน ๒๕๖๘.. ที่เดินทางไปบรรยายธรรม.. เพื่อสวดประกาศธรรม ในโครงการร้อยใจไทยฯ.. จึงคิดไว้ว่า สิ่งที่ควรจะเน้นย้ำเป็นพิเศษในธรรมบรรยายครั้งนี้ ได้แก่ การปลูกสร้างจิตวิญญาณของข้าราชการ.. นักปกครอง.. และประชาชน ที่จักต้องเสริมสร้างอุดมการณ์ให้เกิดขึ้น ให้สมกับบทบาทหน้าที่ของตน.. ที่ควรมีความน่าเชื่อถือทางคุณธรรม มีความกล้าหาญทางจริยธรรม เพื่อไม่ตกอยู่ในอำนาจของโลกธรรม จน จิตใจเตลิดเปิดเปิง แสวงหาอย่างไม่เลือกว่า.. เป็นธรรม.. หรืออธรรม!!.

เจริญพร

dhamma_araya@hotmail.com