“ธนาคารที่ดิน”กับการตอบโจทย์ แก้ปัญหาที่ดินทำกิน-ลดความเหลื่อมล้ำ

"ธนาคารที่ดิน"หรือสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ.) หลายคนคงเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้วเพราะเป็นหน่วยงานภาครัฐ-องค์การมหาชน ที่จัดตั้งขึ้นมาหลายปีแล้ว ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)พ.ศ. 2554  

โดยมีอำนาจหน้าที่หลักๆ เช่นดําเนินการเพื่อให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืน และมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม -ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินของรัฐและดําเนินการให้ได้มาซึ่งที่ดินของเอกชน ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือใช้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า เพื่อให้เกษตรกรและผู้ยากจนได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง-ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน เป็นต้น

และแม้ธนาคารที่ดินจะตั้งมาหลายปีแล้ว แต่สถานะองค์กรวันนี้ ยังไม่มีพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์กรฯ เพราะยังเป็นแค่พระราชกฤษฎีกาฯ เท่านั้น การเดินหน้าผลักดันให้มีการออกพระราชบัญญัติจัดตั้งธนาคารที่ดิน จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหาร บจธ.กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงต้องยกสถานะองค์กรด้วยการออกเป็นพรบ.ฯตลอดจนการทำงานของธนาคารที่ดินในช่วงที่ผ่านมา ได้แก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับประชาชนไปมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ เราได้สัมภาษณ์"นายกุลพัชร ภูมิใจอวด-ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน"ที่จะมาให้รายละเอียดเรื่องดังกล่าว

เริ่มต้นที่"ผอ.สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน"กล่าวถึงปัญหาที่ดินทำกินในประเทศไทยว่า เป็นปัญหาที่ส่งผลมาถึงปัญหาความยากจน-ความเหลื่อมล้ำในสังคม ทางสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน หรือบจธ.ที่จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกาฯ มีภารกิจหน้าที่กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน เพื่อให้ประชาชน-เกษตรกร มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง เพื่อให้มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

...นโยบายการจัดตั้งบจธ. ที่จัดตั้งมาถึงปัจจุบันรวมเวลาประมาณเก้าปี มีภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งคือการเดินหน้าผลักดันร่างพรบ.ธนาคารที่ดินหรือองค์กรอื่นที่มีวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกันกับธนาคารที่ดิน ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารที่ดินได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง ประกอบกับ พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งธนาคารที่ดิน จะครบกำหนดวันที่7 มิ.ย. 2568 ซึ่งบอร์ดบจธ.และตัวผมรวมถึงเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่ดิน ได้ร่วมกันผลักดันเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาฯ เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.

...อยากให้รัฐบาลช่วยผลักดันพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์กรฯ เพื่อขยายอายุธนาคารที่ดิน  เนื่องจากประชาชน-เกษตรกรคาดหวังการทำงานของธนาคารที่ดินฯ เพราะเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ -ปัญหาที่ดินทำกินในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารที่ดินได้ดำเนินการผ่านโครงการการบริหารจัดการที่ดินแบบยั่งยืน เช่น พี่้น้องเกษตรกรที่เกิดมาไม่มีที่ดินทำกิน เมื่อมาเข้าโครงการกับเรา ก็มีที่ดินทำกินของตัวเองในรูปแบบแปลงรวมโดยการเช่าและเช่าซื้อ ซึ่งการทำการเกษตรของธนาคารที่ดิน ทางธนาคารที่ดินได้น้อมนำหลักแนวทาง"เศรษฐกิจพอเพียง"มาเป็นแนวทางทำการเกษตร โดยธนาคารที่ดินได้เข้าไปหนุนเสริม ทำหน้าที่เหมือนพี่เลี้ยงให้ ทั้งด้านข้อมูลวิชาการ -การอยู่รวมกันหรือการจัดตั้งกลุ่มให้เข้มแข็ง

"กุลพัชร -ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน"กล่าวต่อไปว่า อีกโมเดลหนึ่งคือ เราเข้าไปช่วยพี่น้องเกษตรกรที่มีที่ดินทำกิน ไม่ว่าพ่อแม่ให้มาหรือว่าสร้างมาด้วยตัวเอง แต่ที่ผ่านมาอาจประสบปัญหาต่างๆ เช่น ช่วงวิกฤตโควิด จนทำให้ที่ดินหลุดมือ จนต้องนำไปจำนองขายฝากนอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแพงมาก ทางธนาคารที่ดินได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนแล้ว400 กว่าราย มีการเข้าไปช่วยประชาชนไม่ให้ที่ดินหลุดมือเป็นของนายทุน ให้ถือครองสิทธิเหมือนเดิมโดยการเช่า-ซื้อ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ร้อยละ 3 ต่อปีในช่วงเวลา 30 ปี เพื่อให้พวกเขามีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ได้ที่ดินทำกินกลับคืนมา เราดูแลประชาชนแต่ละโครงการ ตั้งแต่ต้นน้ำ โดยผ่านการจัดสรรที่ดิน พัฒนาที่ดิน ภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมกับเกษตรกร ส่วน"กลางน้ำ"ก็คือการอบรมให้ความรู้กับเขา วางแผนการส่งเสริมการตลาดให้ จนถึง"ปลายน้ำ"คือการไปติดตาม กำกับ อย่างต่อเนื่อง

การทำงานของธนาคารที่ดินเราทำงานแบบบูรณาการร่วมกันทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ไม่ว่างานวิชาการหรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อหนุนเสริมให้เกษตรกรของเรามีความเข้มแข็ง ซึ่งเป็นนโยบายหลักของธนาคารที่ดิน ที่เป็นองค์กรที่เข้ามาแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื่องที่ดินทำกิน

ส่วนการที่ประชาชน-เกษตรกรจะเข้าร่วมกับโครงการบริหารจัดการที่ดินแบบยั่งยืนของธนาคารที่ดิน จะต้องทำอย่างไรนั้น "ผอ.สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน"ให้รายละเอียดว่า ประชาชนจะต้องมีการรวมกลุ่มกันในรูปแบบเช่นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งคนเหล่านี้จากที่เกิดมาไม่มีที่ดินทำกิน วันนี้มีที่ดินทำกินแล้ว มีอนาคต มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาลและอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่เคยมีที่ดินทำกินอยู่ก่อนแล้วแต่หลุดมือ เราก็เข้าไปช่วย ผ่านโครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน

... ปัจจุบันพี่น้องประชาชนเราเกินล้านคน ทำการเกษตร มีทั้ง รับจ้างรายวัน หรือไม่ก็เช่าที่นา-พื้นที่ทำการเกษตร ซึ่งไม่ยั่งยืน ต้นทุนสูง แต่วันนี้ประชาชนมีการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน แล้วก็มาเขียนขอความช่วยเหลือกับธนาคารที่ดิน ผ่านช่องทางต่าง ๆเช่น แอปพลิเคชันหรือเขียนหนังสือส่งมาที่ธนาคารที่ดินได้ วันนี้ที่ธนาคารที่ดินดำเนินการไปแล้ว รวมถึงในปี 2568 รวม 42 พื้นที่ เนื้อที่รวมประมาณ 7000 ไร่ ดูแลประชาชนประมาณ 1,800 ครัวเรือน

คนกลุ่มนี้เดิมเกิดมาไม่มีที่ดินทำกิน วันนี้รวมกลุ่มกันแล้วมีอนาคต มีที่ดินทำกินแน่นอน ตกถึงรุ่นลูกรุ่นหลานในรูปแบบแปลงรวมตามนโยบายของรัฐบาล และอีกกลุ่มคือ กลุ่มที่มีที่ดินอยู่แล้ว ที่มีทั้งพ่อแม่ให้มา หรือตัวเองสร้างขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงประเทศไทยประสบปัญหาโควิด ทำให้ที่ดินหลุดมือจากประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากทำมาหากินไม่ได้ ซื้อขายไม่ได้ จนที่ดินหลุดมือ เพราะไปกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงิน แล้วไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้ จากสาเหตุเช่น ติดเครดิตบูโรหรือวิเคราะห์ความสามารถในการชำระหนี้แล้วไม่สามารถจ่ายให้กับสถาบันการเงินได้ เลยต้องไปพึ่งกู้เงินนอกระบบ นำโฉนดไปขายฝาก ดอกเบี้ยร้อยละห้าต่อเดือน หนึ่งปีเท่ากับหกสิบเปอร์เซ็นต์ บางรายดอกเบี้ยร้อยละสิบต่อเดือน หกเดือนผ่านไปก็ยึดที่แล้ว ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้ได้เขียนขอความช่วยเหลือมายังธนาคารที่ดินหลังรู้จักองค์กรเราผ่านสื่อต่างๆ ทางธนาคารที่ดินเข้าไปแก้ปัญหาให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวไม่ให้ที่ดินหลุดมือ จนวันนี้เขามีที่ดินของตัวเองกลับคืนมา

..ธนาคารที่ดิน เรามีนโยบายว่าเมื่อช่วยแล้วต้องช่วยให้ตลอด เพื่อให้เขากลับมายืนได้ด้วยตัวเอง ทั้งการอบรมให้ความรู้ด้านวิชาการกับเขาเช่นความรู้ด้านการเกษตร การปลูกพืชผสมผสาน รวมถึงการหารายได้เพิ่มนอกเหนือจากรายได้จากภาคเกษตร เพื่อให้เขาตั้งตัวได้ มีเงินมาคืนให้ธนาคารที่ดิน เราเข้าไปช่วยหลายๆอย่างเพราะเราเป็นหน่วยงานของรัฐในรูปแบบองค์การมหาชน โดยมิได้แสวงหากำไรแต่ให้อยู่ได้ทั้งสองฝ่าย

"กุลพัชร -ผอ.ธนาคารที่ดิน"กล่าวต่อไปว่า วันนี้นโยบายของธนาคารที่ดิน จากบอร์ดฯและตัวผมเองด้วย เราจะนำที่ดินของรัฐที่ไม่ใช้ประโยชน์ ทั้งที่ราชพัสดุและที่ของกรมธนารักษ์ ธนาคารที่ดินจะประสานขอให้นำมาใช้ประโยชน์ ในรูปแบบเช่นการเช่า กับทั้งสองฝ่าย เพื่อนำที่ดินซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์มาใช้ประโยชน์ให้เกิดประสิทธิภาพ มาให้ประชาชนที่ต้องการ ทำให้เกิดการกระจายการถือครองที่ดินให้เกิดประโยชน์ จะได้นำที่ดินมาทำการเกษตร-สร้างรายได้ สร้างระบบเศรษฐกิจ-จีดีพีของประเทศ ที่เป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเช่นกัน เพราะประชาชนส่วนมากในประเทศเรา ทำอาชีพเกษตร ไม่มีที่ดินทำกินเกินสิบล้านคน และคาดหวังองค์กร-ธนาคารที่ดินให้มาตอบโจทย์แก้ปัญหาให้ประชาชน

การดำเนินการต่อจากนี้ สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน หัวใจหลักให้จัดตั้งเป็นพระราชบัญญัติ ก็มีการดำเนินการต่อเนื่อง บอร์ด บจธ.เห็นด้วยที่ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ ซึ่งหากมีการจัดตั้งองค์กรผ่านการออกเป็นพรบ.จะทำให้มีอำนาจเพิ่มขึ้น -มีการทำงานที่ชัดเจนขึ้นและมีความมั่นคงยั่งยืน

การเสนอร่างพรบ.จัดตั้งองค์กรฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแล ขณะเดียวกันต้องทำคู่ขนานต่อเนื่อง เพราะเมื่อมีการต่ออายุพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดินฯ หากมีการต่ออายุ ไม่ว่าจะกี่ปีก็ตาม ก็จะมีการแก้ไขกฎหมายต่อไป เพื่อให้ธนาคารที่ดินทำงานได้ต่อเนื่องและมีอำนาจมากกว่าเดิม เพื่อจะได้ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประชาชนในเรื่องที่ดินทำกิน ก็จะทำแบบคู่ขนานกันไป เพราะรัฐบาลก็เห็นคุณค่าและให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินมาตลอด มีการแถลงนโยบายรัฐบาลว่าจะให้ชุมชน-เกษตรกรมีที่ดินทำกิน มีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารที่ดินตอบโจทย์แน่นอน ขอให้รัฐบาลช่วยผลักดันองค์กรธนาคารที่ดินต่อไปเพราะองค์กรธนาคารที่ดินเป็นที่คาดหวังของเกษตรกรที่ประสบปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ธนาคารที่ดินจึงพร้อมขับเคลื่อนมาเป็นหนึ่งในฟันเฟืองในการเข้าไปแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน

"หากไม่มีธนาคารที่ดินอีกต่อไป จะเกิดผลกระทบทางสังคมอย่างมาก เพราะพี่น้องเกษตรกรจำนวนมากยังไม่สามารถเข้าถึงที่ดินทำกินของรัฐและเอกชนได้เลย องค์กรธนาคารที่ดินจึงเป็นที่่คาดหวังอย่างมากของพี่น้องเกษตรกร ที่ต้องการให้มีองค์กรธนาคารที่ดินเข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่ดินทำกิน"

...สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน มีภารกิจแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำเรื่องที่ดินทำกิน โดยมีภารกิจกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการนำที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือที่ดินเอกชนที่เขายินดีให้เราพัฒนาจัดสรร ธนาคารที่ดินก็จะนำที่ดินของรัฐและเอกชนมากระจายการถือครองที่ดินให้ประชาชนอย่างทั่วถึง

"กุลพัชร -ผอ.ธนาคารที่ดิน"ย้ำว่าหากไม่มีองค์กรธนาคารที่ดิน การแก้ปัญหาที่ดินทำกิน จะไม่ถึงเป้าหมาย จะแก้ปัญหาได้น้อยมากจะเกิดผลกระทบต่อสังคมและประชาชนในเรื่องที่ดินทำกิน เขาอาจจะไม่มีอนาคต ไม่มีรายได้ ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดินขึ้น ธนาคารที่ดินจะเป็นกลไกของรัฐบาล ในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชน-ชุมชน ได้มีที่ดินทำกิน มีรายได้และมีชีวิตที่ดีขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องมีองค์กรนี้

จากผลการดำเนินงานที่ธนาคารที่ดินได้ดำเนินงานแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ชาวบ้านดีใจมาก จากที่เกิดมาไม่มีที่ดินทำกิน เพราะที่ดินคือชีวิต วันนี้เมื่อเขาเข้ามาในระบบของธนาคารที่ดินทำให้เขามีที่ดินทำกิน นอนหลับ มีเงินมีรายได้ มีที่ดินทำกิน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งไปตอบโจทย์ SDGs -เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่มี17 เป้าหมาย เช่นการมีที่ดินทำกิน มีรายได้ที่มั่นคง -มีอาหารปลอดภัย วันนี้ สิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมาเวลาคนของธนาคารที่ดินลงพื้นที่ เสียงสะท้อน เสียงตอบรับดีมากว่า สิ่งที่ได้รับคืออนาคตใหม่ของพวกเขา จากเดิมที่ไม่มีอนาคต ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าถึงพวกเขา วันนี้ธนาคารที่ดินไปตอบโจทย์เรื่องที่ดินทำกิน ทำให้เขามีชีวิตใหม่มีอนาคต มีที่ดินทำกินที่มั่นคงมีรายได้

ผมเชื่อว่าธนาคารที่ดิน ที่เราดูแลประชาชน-เกษตรกรตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ เราไม่ทิ้ง เรากำกับดูแล และให้ความรู้เขาอย่างต่อเนื่อง ภารกิจของธนาคารที่ดินที่มีผลงานออกมา  จึงตอบโจทย์เรื่องการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลยุคสมัยใด หากนำโมเดลหรือองค์กรธนาคารที่ดิน ไปขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ก็จะตอบโจทย์การแก้ปัญหาที่ดินทำกินและความเหลื่อมล้ำได้ที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายไว้ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ

สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

“โมหมูลจิต” .. ..มูลเหตุของการถูกหลอกลวง โดย Scammer!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในกระแสสังคมยุคไอที ที่มีความเจริญอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีชั้นสูง จนเข้าสู่ ยุควัตถุ AI ในปัจจุบัน ที่แสดงความเสมือนจริงให้สัมผัสได้ใกล้เคียงอย่างน่าศึกษายิ่ง

โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

เจริญพรสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมเพรียง.. ร่วมไว้อาลัยแด่การเสด็จสู่สวรรคาลัย ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”