จิตที่ .. ไร้ยางอาย .. กับอำนาจที่ไร้ธรรม..!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในยามที่วิถีสังคม ประเทศชาติ ดำเนินไปอย่างไร้ทิศทาง ด้วยพลังขับของความไร้สาระแห่งธรรม.. อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในศาสนจักรหรืออาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพระหรือของคนหัวดำทั้งหลาย

กล่าวพอให้เข้าใจว่า.. ความเลว.. ความอัปรีย์ทั้งหลาย มิได้เลือก ฐานะ ชาติ ตระกูล ยศถาบรรดาศักดิ์ เพศ วัย...

ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ที่แสดงความเป็นธรรมดาว่า.. มันเป็นอย่างนั้นแหละ..!!

เรื่องราวฉาวโฉ่ในวงการนักบวช ที่ไม่ควรจะเรียกว่า พระ หรือ ภิกษุ .. ให้กระทบกระเทือนสถาบันพุทธศาสนาที่เกิดปรากฏในยามนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อความรู้สึกในจิตใจของผู้รักเคารพในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง

แม้จะยอมรับอย่างเข้าใจในกฎเกณฑ์ความเป็นธรรมดา.. แต่เมื่อมันเกิดขึ้นกับ พระเถระที่เป็นพระราชาคณะ มีบทบาท ฐานะ หน้าที่ เป็นถึง เจ้าคณะปกครอง ที่พระผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจวาสนา ท่านเลือกสรรมาดีแล้วด้วยอัตโนมัติ.. จึงย่อมต้องกระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่น.. ความเชื่อถือ.. ในความรู้สึกของพระเล็ก เณรน้อย และสาธุชนโดยทั่วไป ที่มีความเคารพรัก ศรัทธา ในพระพุทธศาสนา

ดังกรณี เจ้าคุณแย้ม.. เจ้าคุณอาชว์ ที่เป็น พระราชาคณะชั้นธรรม.. ชั้นเทพ มีตำแหน่งเป็น เจ้าคณะภาค.. เป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ที่ยิ่งสะท้อนเนื้อแท้ความจริง ดัง สนิมที่เกิดจากเนื้อในเหล็ก ที่แสดงถึงมาตรฐานคุณภาพการบริหารงานในคณะสงฆ์ว่าเป็นอย่างไร... มีสมรรถภาพ.. ประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน..

ยิ่งได้เห็นความเหลวไหลของนักบวชทุศีล.. หลวงพี่ไฮเทคทั้งหลาย ที่แผ่กระจายไปทั่วแวดวงศาสนา ที่มุ่งแต่แสวงหาเงินทอง ลาภยศ ชื่อเสียง ยศถาบรรดาศักดิ์.. อย่างไร้หิริโอตตัปปะ.. ไร้สมณธรรม ยิ่งต้องตั้งสติ เพ่งพิจารณาอย่างใส่ใจ เพื่อความสังเวช.. นิพพิทา ในสภาวธรรมทั้งหลาย โดยยึดหลัก อิทัปปัจจยตา ที่ว่า.. เมื่อสิ่งนี้ สิ่งนี้ มี.. สิ่งนี้ สิ่งนี้ จึงเกิดขึ้น!!

จึงเกิดคำถามซ้อนขึ้นมาว่า.. ทำไมไม่มีการแก้ไขให้ตรงเหตุของปัญหา ให้สมกับเป็นสถาบันของผู้ที่เคารพหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ในเมื่อทราบกันดีอย่างเป็นธรรมดาว่า...

สาเหตุที่เกิดปัญหาเหล่านั้น แท้จริง เกิดมาจากอะไร..?

และอะไรคือเหตุที่ไม่มีการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความเป็นจริงของเหตุแห่งปัญหานั้นๆ.. ที่เป็นปัจจัยนำไปสู่การสูญเสียความน่าเชื่อถือของพระพุทธศาสนา ที่แสดงคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ไว้ว่า.. ทุกปัญหา แก้ได้ด้วยปัญญา!!

ปัญหาในแวดวงพระสงฆ์ จึงไม่ควรเกิดขึ้นซ้ำๆ ซากๆ หากมีการแก้ไขด้วยธรรมวิธีอย่างถูกต้อง จริงจัง.. เฉกเช่นปัญหาทางสังคมในประเทศพระพุทธศาสนา ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยพุทธวิธีเช่นเดียวกัน

จะด้วยการขาดความรู้-ความเข้าใจในพระธรรมวินัย.. ไม่มีปัญญาชอบ หรือด้วยเหตุอันใดก็ตาม แต่ความเป็นจริงในยามนี้ ที่สะท้อนออกมาให้เห็นแผลเน่าแต่ภายใน ที่บ่งบอกถึงความล้มเหลวทางการศึกษาปฏิบัติตามพระธรรมวินัย.. และการศึกษาในแวดวงของหมู่ชนในสังคมพุทธ ที่ควรจะนำมาเป็นกรณีศึกษา

เพื่อจะได้นำไปสู่การจัดการแก้ไขการปกครองที่ล้มเหลวทางจริยธรรม.. ไร้คุณธรรม.. และทุศีล ประกอบมิจฉาทิฏฐิ ที่มีกันมากขึ้น.. จนนำไปสู่ความเสื่อมศรัทธา ให้ปรากฏเป็นวิกฤตการณ์ในยามนี้ หากยอมรับในความเป็นจริง ไม่มืดบอด โง่เขลา.. จนเกินแก้...

และยิ่งน่าศึกษาอย่างยิ่ง เมื่อปรากฏว่า มีตัวเลขจำนวนคนรุ่นใหม่ในมหาวิทยาลัยประมาณ ๙% ที่ยืนยันว่า ตนเองไม่มีศาสนา (No Religion) นับเป็นสัญญาณอันตรายยิ่งต่อสังคมประเทศชาติ..

วันนี้ของทุกฝ่าย จึงควรหยุด นิ่ง สงบ.. เพื่อตั้งสติ.. ในการกำหนดพิจารณาปัญหาต่างๆ ร่วมกัน เพื่อร่วมกันรับผิดชอบต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างมีแบบแผน.. มีสามัญสำนึกในฐานะอารยชน.. มากกว่าการตีโพยตีพาย แหกปากป่าวร้อง โทษมึงด่ากูไปทั่ว อย่างขาดสติ..

ทุกเรื่องราว จึงไม่ควรปกปิด.. แต่ควรนำมาศึกษาอย่างเปิดเผย เพื่อร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อหามาตรการแก้ไข .. ป้องกันในปัญหานั้นๆ ที่จะได้ไม่เกิดขึ้นมาอีกต่อไป

จึงควรอย่างยิ่ง หากคณะสงฆ์.. หรือหมู่ชนในสังคม จะได้รวมตัวกัน เพื่อทำการชำระสะสางสิ่งชั่วร้าย.. สิ่งไม่ดี.. ให้สิ้นไป.. และเพื่อการรักษาสิ่งที่ดี.. สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้สืบเนื่องต่อไป.. ในเขตแดนพุทธศาสนา

การสังคายนา... เป็นธรรมวิธีอันสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา ที่ควรนำมาใช้ เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกในองค์กรทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาในแวดวงสังคมของตนให้สิ้นไป.. โดยการหาวิธีการที่ถูกต้อง ตรงธรรม และเป็นธรรม มาใช้เพื่อรักษาไว้ซึ่งพระธรรมวินัย.. อารยธรรม.. อารยประเพณี ให้มั่นคงสืบเนื่องต่อไป

การปล่อยให้ปัญหา.. เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก.. อย่างไม่แยแส.. ไม่ใส่ใจ.. ไร้ความสำนึก.. ไร้ความรับผิดชอบ ด้วยความกลัวว่า จะกระทบกับตนเอง.. มีความรักตัวกลัวตายกันมากเกินพิกัด นั่นไม่ใช่วิถีแห่งอารยธรรม.. โดยควรคำนึงถึงเสมอว่า..

ปัญหาในศาสนา.. ต้องแก้ไขด้วยบุคลากรในศาสนา...

ปัญหาในสังคม ประเทศชาติ ต้องแก้ไขด้วยบุคลากรในสังคม ประเทศชาติ นั้นๆ..

การศึกษาปัญหาร่วมกัน ด้วยการใช้หลัก “ธรรมวิชัย” ย่อมจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างไม่ยาก.. ที่สามารถ คิด อ่าน หาแนวทางการปฏิบัติ เพื่อนำมาใช้ ป้องกัน รักษา สืบสาน สืบเนื่อง พระพุทธศาสนา ให้สืบอายุยิ่งนั้นสืบเนื่องต่อไปได้จริง..

จึงไม่ควรปล่อยให้กรณี ปัญหาของเจ้าคุณแย้ม.. เจ้าคุณอาชว์.. และเจ้ากูทั้งหลาย.. ตามที่เป็นข่าว ผ่านไปตามกระแสอย่างไร้ความรับผิดชอบจากผู้มีหน้าที่ในทุกฝ่าย...

ควรเปลี่ยนปัญหา .. อุปสรรค ให้เป็นโอกาส.. ด้วยการคิดริเริ่มในการกระทำกิจการอย่าง รู้ เข้าใจ ในความเหมาะควร.. ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่า หากทุกฝ่ายร่วมใจกันประกอบกิจอันควรด้วยสติปัญญาเช่นที่กล่าวมานั้น.. ก็จักสามารถเรียกหาความศรัทธาในจิตใจของประชาชนที่กำลังเสื่อมไป ให้กลับคืนมาได้... แน่นอน!

ที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้คืนกลับมาในหมู่สงฆ์.. พระสงฆ์ด้วยกัน ที่กำลังมีความเสื่อมศรัทธาเกิดขึ้น จากการบริหารปกครองที่ขาดความรับผิดชอบอย่างจริงใจ.. ในแต่ละภาคส่วน โดยเฉพาะในบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ทั้งหลาย ที่พากันแต่งตั้งผู้ทำหน้าที่เป็นเจ้าคณะฝ่ายปกครอง.. โดยไม่ยึดถือแบบแผนตามอริยประเพณี

เฉกเช่นการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่เกิดขึ้น.. ของผู้มีอำนาจหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองที่เพิ่งปรากฏ ให้น่าสังเวชยิ่ง.. ต่อการโยกย้ายที่ผิดระเบียบแบบแผนประเพณี ละเมิดหลักจริยธรรมด้วยจิตใจถ่อยเถื่อน ด้วยความต้องการเพียงแค่ต้องการแสดงอำนาจบาตรใหญ่.. เพื่อโอ้อวดฐานะ.. เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ของฝ่ายตน.. หรือเพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตน

โดยลืมคิดไปว่า.. อำนาจนั้นเป็นคุณ.. เมื่อใช้เป็นธรรม

หากใช้อำนาจไม่เป็นธรรม.. จะมีแต่ความหายนะ.. ทั้งในผู้ใช้และผู้ถูกใช้...!!

ในสุดท้าย.. ฝากเป็นคำถามลอยลมไป เผื่อเข้าหูใครให้มีความสำนึกบ้างว่า.. ทุกเหตุการณ์ที่เกิด มีทั้งตัวการ.. ผู้สนับสนุน และผู้มีส่วนร่วม.. จึงไม่ควรจัดการแต่ตัวการ.. แต่ควรมองให้ลึกลงไปว่า.. ถ้าไม่มีบุคคลเหล่านั้นสนับสนุน ตัวการนี้ก็ไม่ได้โอกาสทำชั่วเช่นนั้น..

ทำไม สังคมจึงไม่สอบถามหาความรับผิดชอบจากผู้มีอำนาจวาสนาทั้งหลาย ที่สนับสนุน บงการ แต่งตั้ง อยู่เบื้องหลัง.. ว่า ท่านคิดอย่างไรต่อการที่บุคคลที่ท่านสนับสนุน ได้กระทำการชั่วต่อพระพุทธศาสนา.. ต่อสังคม ประเทศชาติ จนได้รับความเสียหายเช่นนี้!.

เจริญพร

[email protected]

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ

สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

“โมหมูลจิต” .. ..มูลเหตุของการถูกหลอกลวง โดย Scammer!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในกระแสสังคมยุคไอที ที่มีความเจริญอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีชั้นสูง จนเข้าสู่ ยุควัตถุ AI ในปัจจุบัน ที่แสดงความเสมือนจริงให้สัมผัสได้ใกล้เคียงอย่างน่าศึกษายิ่ง

โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

เจริญพรสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมเพรียง.. ร่วมไว้อาลัยแด่การเสด็จสู่สวรรคาลัย ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”