เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ในกระแสสังคมที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อทุกด้านของชีวิตมนุษย์ เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างอัจฉริยะ โดยมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเทคโนโลยีสำคัญในการขับเคลื่อน จึงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณของมนุษยชาติที่ส่งผลกระทบต่อสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม อย่างรุนแรง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ฝ่ายศาสนาควรศึกษา เพื่อการรู้เท่าทันในเหตุปัจจัยที่ทรงอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน.. โดยเฉพาะทางด้านจิตใจ.. ในสังคมไอทีนิยมปัจจุบัน
เราต้องยอมรับว่า ปัจจัยด้านต่างๆ ที่กำลังขับเคลื่อนส่งต่ออย่างเป็นระบบในกระแสสังคมยุคใหม่นั้น มีผลต่อทุกชีวิต โดยเฉพาะในคนรุ่นใหม่ที่เกิดมาในท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีที่พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาใช้ประโยชน์ แต่ในทางความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ย่อมแฝงโทษมาด้วยอย่างยากจะหลีกเลี่ยง ดังผลวิจัยของหลายสถาบันที่พบความจริงว่า “ในกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยี AI มากเกินไป จะบั่นทอนกระบวนการรับรู้.. ความจำและความคิดสร้างสรรค์ที่ลดน้อยถอยลง.. และภาวะจิตสำนึกในมนุษยธรรม (ศีลธรรม) ต่ำลง..”
จึงมีการนำเสนอแนวทางการรับมือ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์มิให้อ่อนด้อยไปตามกระแสเทคโนโลยี ด้วยการ ฝึกบริหารสมองและการสร้างความตระหนักรู้ (being aware) เพื่อรับมือกับความเสี่ยงในการเกิดหนี้ทางปัญญา จากการพึ่งพาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มากเกินไป
สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ได้แก่ การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสมดุล โดยไม่บั่นทอนทักษะการคิด และช่วยให้มีการเรียนรู้จากการมีส่วนร่วมทางความคิดได้อย่างถูกต้อง ไม่ผิดเพี้ยนไปจากธรรมชาติ เพื่อลดระดับความเสี่ยงในการเกิด หนี้ทางปัญญา (Cognitive Debt).. และการเสื่อมค่าความเป็นสัตว์ประเสริฐ
คำว่า “หนี้ทางปัญญา” แม้เป็นคำพูดใหม่ทางวิชาการสมัยเทคโนโลยีไอที แต่จริงๆ แล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ต่อชีวิตของคนเรา เพียงแต่ปรากฏการณ์ยังไม่เด่นชัดเหมือนในสมัยปัจจุบัน ที่คนรุ่นใหม่มักจะฝากชีวิตไว้กับระบบเทคโนโลยี จนขาดการขวนขวายในการสร้างความตระหนักรู้.. จึงนำไปสู่การขาดการเรียนรู้และการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ก่อเกิดการพัฒนาความคิดอย่างเป็นระบบ และอ่อนด้อยในการ พิจารณาโดยแยบคาย (Wise Inflection).. อันเป็นวิถีแห่ง ปัญญา (wisdom)
พระพุทธศาสนา จึงเป็นทางออกจากปัญหาของสังคมยุคใหม่ เมื่อมีหลักธรรมคำสั่งสอน มุ่งเน้นการเจริญสติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ สู่การพิจารณาโดยแยบคาย ที่เรียกว่า โยนิโสมนสิการ กล่าวสรุปได้ว่า เป็น แก่นธรรมของการศึกษา ตามแบบฉบับของพระพุทธศาสนาที่เป็นหลักเฉพาะ โดยสรุปรวมลงที่ มนุษยชาติจะต้อง พึ่งตนเอง-พึ่งธรรม ไม่ควรมีอย่างอื่นเป็นที่พึ่ง โดยให้ความสำคัญกับ ความตระหนักรู้ (Being Aware) เป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้น บทบาทของพระพุทธศาสนาต่อสังคมยุคดิจิทัล จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเข้ามาสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นในชีวิตและสังคมของมนุษยชาติ โดยเฉพาะการพัฒนาความคิด ที่จะต้องใช้กระบวนการสติปัฏฐานธรรม เพื่อการพัฒนาจิตให้มีศักยภาพ มีคุณภาพ และพร้อมเผชิญกับกระแสสังคมในยุคไอที ที่มีความสามารถในการใช้สอยปัญญาประดิษฐ์เพื่อความไม่เป็นหนี้ทางปัญญา ซึ่งมิใช่เป็นเรื่องเฉพาะการบริหารสมองเพียงส่วนเดียว แต่จะต้อง พัฒนาทางด้านจิตใจเป็นสำคัญ ซึ่งควบคุมยาก เปลี่ยนแปลงเร็ว และมักโน้มไปตามกระแสวัตถุนิยม...
จึงนับเป็นโอกาสอันสำคัญอย่างยิ่งของ พระพุทธศาสนา ที่จะต้องนำเสนอ หลักธรรมคำสั่งสอน อันมีคุณประโยชน์อย่างยิ่ง สู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม ที่สามารถเรียนรู้เพื่อการเข้าถึงคุณค่าของชีวิตได้อย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่การลดระดับปัญหาทางสังคมได้อย่างมีเอกภาพ ด้วยการส่งเสริมให้มนุษยชาติกลับคืนมาสู่ การพึ่งตนเองและพึ่งธรรม โดยมีวัตถุเทคโนโลยีเป็นเพียงแค่ปัจจัยสนับสนุนในรูปลักษณะปัจจัยสี่ ที่จำเป็นต้องยอมรับอย่างเข้าใจ.. เพื่อการเป็นส่วนช่วยเสริมสร้างให้การคิดพิจารณาเป็นไปอย่างมีคุณภาพ เกิดความสร้างสรรค์ต่อการใช้ชีวิตที่เป็นไปในกระแสเทคโนโลยีชั้นสูง อย่างไม่อ่อนด้อยไปตามกระแส...
นับว่าเป็น ภาระอันยิ่งใหญ่ของคณะสงฆ์ ที่ควรแสดงบทบาทการนำด้วยการอ้างอิงหลักธรรมคำสั่งสอนในพุทธศาสนา ที่สามารถนำมาใช้พัฒนาจิตใจควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์และความเหมาะควร...
พระสงฆ์จึงควรแสดงฐานะผู้นำทางสังคมของมนุษยชาติ ที่ต้องดำรงตนอยู่ในกระแสเทคโนโลยีได้อย่างไม่ตกเป็นทาสเทคโนโลยีจนเกิด หนี้ทางธรรม ที่หมายถึง ติดอยู่ในกระแสของกิเลสที่ขับเคลื่อนไปด้วย โมหจิต.. จนสูญเสีย สมณธรรม ดังปรากฏ.. ในปัจจุบัน
การใช้ชีวิตของพระสงฆ์ แม้จะต้องข้องเกี่ยวกับกระแสเทคโนโลยี แต่ จะต้องใช้อย่างรู้ เข้าใจ และปล่อยวาง ไม่ยึดติดยึดถือ จนน่าเกลียด.. ที่ถูกติเตียนว่ามีพฤติกรรมไม่แตกต่างไปจากชาวบ้าน
จึงนับเป็นเรื่องสำคัญที่คณะสงฆ์ ควรนำปัญหาเสพติดวัตถุเทคโนโลยีสมัยใหม่มาศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อจัดวางมาตรการป้องกันต่อการเกี่ยวข้อง.. มิใช่ปล่อยปละละเลยให้ใช้อย่างอิสรชน สู่ความเป็นทุรชน..ทุศีล จนนำไปสู่ความหายนะใน การประพฤติพรหมจรรย์..
โดยเฉพาะ พระสงฆ์ ต้องยอมรับในความเป็นจริงว่า ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในแวดวงพระสงฆ์ปัจจุบัน มีปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่เข้ามาสนับสนุน ได้แก่ การเสพติดการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ประเภทโทรศัพท์มือถือ อย่างเสรี ไร้ขอบเขตของการควบคุมเพื่อให้เหมาะสมกับสมณสารูป..
การปล่อยปละละเลยให้ใช้วัตถุเทคโนโลยีอย่างขาดการควบคุมดูแล จึงสนับสนุนชักจูง ให้พระสงฆ์เข้าไปข้องเกี่ยวทั้งการรับเงิน.. การใช้เงิน และเรื่องผู้หญิง... โดยอาศัยช่องว่างของกระแสสังคม ด้วยการปฏิเสธ พระธรรมวินัย ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงออกแบบและประกาศไว้ดีแล้ว
ดังปรากฏใน มหาประเทศทางวินัย ที่ทรงกำหนดขึ้นเพื่อใช้ในการวินิจฉัยว่า วัตถุสิ่งใดควรหรือไม่ควรตามพระวินัยของพระองค์ โดยวางหลักเกณฑ์ไว้ ๔ ประการ คือ....
๑) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ ว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้น ไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย
๒) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ ว่าสิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้น ควรแก่เธอทั้งหลาย
๓) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่อนุญาตไว้ ว่าสิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้น ไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย
๔) ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ ว่าสิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้น ควรแก่เธอทั้งหลาย
การศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจ เจตนา จุดมุ่งหมาย แห่งพระธรรมวินัยอย่างแจ่มแจ้ง ย่อมนำมาสู่ประโยชน์ต่อพระสงฆ์ และเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือหมู่ชนในสังคม ที่กำลังถูกกระแสเทคโนโลยีไหลท่วมทับ จนยากจะรอดออกมาจากกระแสวัตถุกามที่ร้อนแรงได้.. จึงเห็นสภาวการณ์ที่กำลังไหลเข้าสู่วังวนความหายนะ-ความฉิบหาย ที่ถูกกระแสของเทคโนโลยีเคลื่อนทับ จนยากจะเข้าใจในธรรมชาติของชีวิตตามวิสัยปุถุชน.. ซึ่งนับเป็นภัยร้ายอย่างยิ่งในแวดวงกระแสสังคมยุคเทคโนโลยีเป็นใหญ่ในปัจจุบัน
ในวาระออกพรรษาปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ ที่ตรงกับวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๘ นี้ จึงเห็นควร นำเรื่องภัยร้ายจากเทคโนโลยี.. การเป็นหนี้ทางปัญญา.. สู่ การสูญเสียคุณค่าความเป็นมนุษย์.. และการสูญสลายสมณธรรม... มาเป็นธัมมานุสติแด่ทุกคน โดยเฉพาะพระสงฆ์ทั้งหลาย ที่ควรตื่นรู้.. ตระหนักรู้ ด้วยปัญญาอันชอบ ด้วยการให้ความเคารพใน พระธรรมวินัย เป็นที่สุด.. เพื่อการเข้าถึงคุณค่าของการเจริญสมณธรรมในพระพุทธศาสนา ที่ไม่เคยเสื่อมล้า อ่อนด้อยคุณค่าของความเป็น “อริยสัจธรรม” ไปตามกระแสโลก และเพื่อการสนับสนุนให้มนุษยชาติได้อยู่ร่วมในสังคมอย่างมีคุณค่าตามฐานะ ความเป็นสัตว์ประเสริฐ ที่ไม่ควรเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสแห่ง โลกธรรม..!!.
เจริญพร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ร้ายกว่าวิกฤตการณ์ธรรมชาติ ..ภัยมนุษย์ .. ขาดศีลธรรม!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนา...
เมื่อคน.. สังคม! .. ไร้คุณค่าความเป็นมนุษย์.. ประเทศชาติหายนะ!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา.. คำว่า “ศรัทธา” ในพระพุทธศาสนา มีความหมายกินลึกลงไปมากกว่าความเชื่อโดยทั่วไป ด้วยต้องมีความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของคุณสมบัติสิ่งนั้นๆ
สมดังเป็น .. “วีรกษัตรี มหาราชินี...” ของชาวไทย!!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“โมหมูลจิต” .. ..มูลเหตุของการถูกหลอกลวง โดย Scammer!
เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา.. ในกระแสสังคมยุคไอที ที่มีความเจริญอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยีชั้นสูง จนเข้าสู่ ยุควัตถุ AI ในปัจจุบัน ที่แสดงความเสมือนจริงให้สัมผัสได้ใกล้เคียงอย่างน่าศึกษายิ่ง
โครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน น้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ “สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
เจริญพรสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า.. นับตั้งแต่วันที่ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา พสกนิกรไทยทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมเพรียง.. ร่วมไว้อาลัยแด่การเสด็จสู่สวรรคาลัย ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
AI กับการสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่ให้ใคร ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ( Artificial intelligence ) มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในโลกของ”การศึกษา-การทำงาน”


