สิ้นหวังครับ…. ประเทศไทยตกอยู่ในวังวนการรักษาอำนาจของนักการเมือง โดยไม่สนใจไยดีกับอนาคตของประชาชน ที่เต็มไปด้วยวิกฤตรออยู่ข้างหน้า

“ขี่จรวด” พรวดมาอย่างนี้.. ก็..เป็นธรรมดาที่ผู้คนจะตั้งคำถาม-นินทา ว่า “ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์” ที่เพิ่งจะได้เป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์สมัยแรก ทำความชอบอะไรหนา..

วันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม ถือว่าเป็นวันประชุมวุฒิสภาวันแรก หลังจากที่ปิดสมัยประชุมไปนาน ซึ่งเกิดหลายอย่างในวันเดียว

“อุ๊งอิ๊ง” กับ “เก้าอี้นายกฯ” ไม่ต้องรอถึงวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัย ผมก็เชื่อว่า คนส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้ว

เฉลยออกมาแล้ว หลังพยายามเก็บงำตั้งแต่การประชุม ครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 3 ก.ค. หลัง ปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า อำนาจรักษาราชการแทนนายกฯ ยุบสภาไม่ได้ สวนทางกับความเห็นของ วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ที่บอกว่ายุบสภาได้

“ภาคการท่องเที่ยว” ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์ที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตลาดนักท่องเที่ยวหลักอย่าง “จีน” ได้ชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งตรงนี้อาจเป็นปัจจัยที่มีผลต่อภาคการท่องเที่ยวไทยในช่วงเวลาต่อจากนี้

ก่อนจะเกิดรัฐธรรมนูฉบับที่ 4 หรือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2490 เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 คือฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475

ประเทศไทยมาถึงขั้นนี้ได้ไง… วานนี้ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย “จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์” แถลงข่าว ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อ การเมืองไทยมันจะผิดเพี้ยนไปได้ถึงขนาดนี้

ว่าจะถามอยู่เชียว.. แต่เมื่อสามเณรีธัมมกัลยาณี หรือ “เจนี่-เทียนโพธิ์สุวรรณ” นางเอกคนดัง โกนหัวละทิ้งทางโลกเข้าสู่ทางธรรม โพสต์..

เป็นสัปดาห์แรกที่ รมต.ป้ายแดงในรัฐบาล “แพทองธาร 1/2” เข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวง รวมถึง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ที่ประเดิมเข้าห้องทำงานที่กระทรวงวัฒนธรรมวันแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม โดยได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย