ความเสื่อมของโลกตะวันตก

สงครามยูเครน ...ที่อาจลุกลาม บานปลาย กลายเป็นสงครามยุโรป สงครามโลก หรือสงครามนิวเคลียร์ เอาเลยหรือไม่? อย่างไร? อันนั้น...ใครที่ชอบคิดมาก คิดเล็ก-คิดน้อย

ก็คงต้องเก็บไปคิดเอาเองก็แล้วกัน แต่สำหรับผู้ที่คิดแล้ว คิดอีก ก่อนจะลุกขึ้นมาต่อต้านและปฏิเสธ ต่ออำนาจ อิทธิพล ของผู้นำโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรตะวันตก เขาเคยคาดๆ ไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าการคิดจะต่อต้านและปฏิเสธในลักษณะทำนองนี้ เผลอๆ...อาจสามารถนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ในแบบที่เรียกๆ กันว่า Westlessness หรือ De-Westernize World เอาเลยก็ไม่แน่!!!

คือฉากเหตุการณ์ในแบบที่บรรดา ความเป็นตะวันตก ทั้งหลาย ที่มันเคยมีบทบาท อิทธิพล ครอบงำโลกทั้งโลกเอาไว้ชนิดดิ้นไม่หลุด มาเป็นศตวรรษๆ ไม่ว่าจะเป็นความคิด-ความอ่าน ระบบการศึกษา ทฤษฎีทางการเมือง-เศรษฐกิจ ไปจนแม้แต่ค่านิยมทางสังคม ชนิดที่ไม่ว่าการแต่งเนื้อ แต่งตัว การกิน การอยู่ การดูหนัง ดูละคร กระทั่งแม้แต่อาหาร เครื่องดื่ม ยังต้องหันไปงับแฮมเบอร์เกอร์ แกล้มกับเป๊ปซี่-โคล่า ฯลฯ ตามแบบฉบับตะวันตก หรือ ตามก้นฝรั่ง อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธ ฯลฯ อะไรประมาณนั้น สุดท้ายแล้ว...มันอาจต้องมีอันเจือๆ จางๆ ลงไปบ้าง หรือไม่ถึงกับมีบทบาท อิทธิพล ระดับสามารถ หันซ้าย-หันขวา โลกทั้งโลก ได้แบบยุคที่มันยังคงสดๆ ซิงๆ หรือยุคเริ่มต้นแห่งการ ล่าอาณานิคม ที่ทำให้โลกทั้งมวลหนีไม่พ้นต้องกลายเป็น โลกตะวันตก ไปเป็นแถบๆ จนตราบเท่าทุกวันนี้นั่นเอง...

จริง-ไม่จริง เป็ง-ปาย-ล่าย เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย...อันนั้น คงต้องเก็บไปนั่งคิด นอนคิด เป็นการบ้านกันไปตามสภาพ แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้น ก็คือ การไหลไปตามแบบฉบับตะวันตก หรือการ ตามก้นฝรั่ง นั้น เอาไป-เอามาแล้ว...มันเป็นสิ่งที่เหมาะสม สอดคล้อง เป็นสิ่งที่ถูกที่ต้องสำหรับบรรดามวลมนุษย์ทั้งหลายในโลกนี้หรือไม่? เพียงใด? อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสะกิดใจ มิใช่น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่อะไรต่อมิอะไรที่เป็นไปตามแบบฝรั่ง แบบตะวันตก มันชักออกอาการเสื่อมโทรม ทรุดโทรม ยิ่งเข้าไปทุกที แม้แต่ระบอบการเมือง-การปกครองที่เรียกกันว่า ประชาธิปไตยเสรี ซึ่งเคยสูงส่ง วิเศษวิเสโส ชนิดกินกะได-ทากะได ผัวกิน-เมียหาย พ่อตาใช้-แม่ยายฟื้น จนใครต่อใครต้องหันไปลอกแบบ-เลียนแบบ ให้เหมือนฝรั่งให้มากๆ เข้าไว้ ไม่เหมือนขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็อาจต้องเจอข้อหา เผด็จการ ได้โดยทันที!!!

แต่สำหรับอภิมหาพระอย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุ ผู้พร้อมยอมเป็น ทาส ของชาวอินตะระเดีย อย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตราบวินาทีสุดท้ายขณะยังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ดูๆ แล้ว...ท่านกลับเห็นไปคนละเรื่อง-คนละม้วน ชนิดอาจต้องจัดอยู่ในประเภทพวก De-Westernize World หรือพวกที่อยากจะเห็นการ Westlessness เอาเลยก็ไม่แน่ อย่างที่ท่านได้ตอบคำถามของ พระประชา ปสนันธัมโม เอาไว้ตั้งแต่เมื่อไม่รู้กี่ต่อกี่สิบปีที่แล้ว ถึงการ ตามก้นฝรั่ง ว่าถือเป็นอุปสรรค หรือเป็นการขัดขวางต่อความเจริญของ ธรรมะ เอาเลยถึงขั้นนั้น...

ดังคำพูดที่บันทึกไว้ในหนังสือเรื่อง เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา 3 ที่ระบุว่า... “ที่พูดว่าตามก้นฝรั่ง ไม่ได้พูดในลักษณะตำหนิติเตียนฝรั่งนะ...แต่บอกให้เห็น ให้รู้ ว่านี่มันเป็นอุปสรรคในการเจริญธรรมะ แม้แต่การเมืองของประเทศ ก็ต้องอาศัยธรรมะ แต่ธรรมะมันเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าไปตามอย่างฝรั่ง โดยเฉพาะที่มันขัดขวางเป็นอย่างยิ่ง ก็คือเรื่องการไม่บังคับตัวเอง วัฒนธรรมฝรั่งหรืออุดมคติการศึกษาฝรั่ง มันไม่มีเรื่องการบังคับตัวเอง ไม่สอนให้บังคับตัวเอง พากันเห็นว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เลยให้เด็กๆ เป็นอิสระ ไม่บังคับตัวเอง อย่างนี้...เราเห็นว่าเสียหายอย่างยิ่ง เด็กเหล่านั้นย่อมไม่เหมาะที่จะรู้ธรรมะ วัฒนธรรมไม่บังคับตัวเองเป็นปฏิปักษ์โดยตรง โดยจังๆ กับพุทธศาสนา เกิดนิสัยปล่อยไปตามความรู้สึก ปล่อยไปตามกิเลส มันหันหลังให้กับหลักธรรมะ ที่จะต้องบังคับความรู้สึกให้อยู่ในระเบียบ...ฯลฯ”

ด้วยเหตุนี้...ในช่วงจังหวะที่อะไรต่อมิอะไรมันกำลัง Westlessness และใครต่อใครชักหันมา De-Westernize World ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นช่วงที่น่าหวาดหวั่น ขวัญสยอง น่าแตกตื่น ตกใจ แต่อย่างใดไม่ ตรงกันข้าม...กลับเป็นช่วงที่น่าจะหันมาออกเรี่ยว ออกแรง หันมาฟื้นฟู บูรณะ สิ่งที่ถูกที่ต้อง ที่สอดคล้อง เหมาะสม กับบรรดาชาวโลกทั้งหลาย หรือแม้แต่ชาวไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาก็ตามที โดยเฉพาะสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือท่านพุทธทาสฯ ท่านได้พยายามชี้แนะ ชี้นำ มาโดยตลอด ถึงขั้นต้องสรุปไว้ว่า... ศีลธรรม (ธรรมะ) ไม่กลับมา...โลกาจะวินาศ เอาเลยถึงขั้นนั้น!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

สุขสันต์วันเกิดเมืองยาวหนึ่งปี

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ถือกำเนิดจากพิธีวางเสาหลักเมือง หรือพระราชพิธีพระนครฐาน สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัช

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท