ว่าด้วย "ท่องเที่ยว" แล้ว แค่คิดก็รู้สึกบันเทิงเริงรมย์ กระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที!!!
จริงไม่จริง.. ก็ลองถามตัวเองดีกว่าว่า ทุกครั้งที่มีโอกาสเจอเพื่อนฝูง หรือในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย หากมีใครหยิบยกหัวข้อ ..ไปเที่ยวกันเถิด!! เชื่อเลยว่า เสียงแสดงความคิดเห็นจะเซ็งแซ่ อะดรีนาลินสารแห่งความสุขจะหลั่งออกมาเต็มที่ สุดท้ายก็จะแอบจิกกัดเมาธ์กันเองว่า ได้แค่คุยไม่เคยได้ไปเที่ยวจริงๆ กับเขาสักที เพราะถึงเวลาก็ติดนั่นโน่นนี่
แต่อย่างน้อย แค่คุย และสร้างฝันด้วยกัน เราก็มีความสุขแล้ว..
สอดคล้องกับผลวิจัยของมหาวิทยาลัย Surrey ประเทศอังกฤษ ที่สำรวจเมื่อปี 2002 พบว่า คนที่ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยว หรือไม่ค่อยได้ออกเดินทาง ไปไหนมาไหน มีโอกาสเป็นโรคหัวใจ มากกว่าคนที่เที่ยวบ่อยๆ มากถึง 30%
ข้อสรุปของการสำรวจครั้งนั้น บ่งบอกประโยชน์ของการท่องเที่ยวไว้ว่า
1.เมื่อได้รู้ว่าจะไปเที่ยว สมองจะมีการคาดสถานการณ์ และเริ่มวางแผนล่วงหน้า หากทำสำเร็จในสิ่งที่ได้วางแผนไว้ ในการไปท่องเที่ยว ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนโดพามีนทุกครั้งที่เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น จะทำให้รู้สึกดี เหมือนประสบความสำเร็จ อะไรบางอย่างในชีวิต
2.ด้วยเหตุนี้ พบว่าการไปเที่ยวบ่อยๆ จะทำให้มีความสุข มากยิ่งขึ้น และช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้จริง
3.ตามข้อมูลในปี 2013 จากการสำรวจเพิ่มเติม พบว่าการออกเดินทางช่วยลดความเครียดได้ดีมาก
4.คนที่ออกท่องเที่ยวในที่ต่างๆ แบบไม่ซ้ำกัน หรือออกไปเปิดหูเปิดตา ผจญภัยในสถานที่ใหม่ๆ มีโอกาส เป็นโรคซึมเศร้าน้อยกว่าคนที่ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว
5.ส่วนผู้ที่ไม่ได้ท่องเที่ยวติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี มากกว่า 30% มีโอกาสเป็นโรคหัวใจ ต่างจากผู้ที่ออกเดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ กลับมีอัตราการเป็นโรคหัวใจ ต่ำกว่ามาก
6.ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้ที่ท่องเที่ยวเป็นประจำจะต้องเดินทางไกล ยิ่งเดินทางท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เนื่องจากมีสิ่งตื่นเต้นรออยู่ข้างหน้าตลอดทาง โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบ การท่องเที่ยวแบบลุยๆ ก็ยิ่งทำให้ สุขภาพแข็งแรงดีขึ้นไปอีก
7.หากพูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อขยับร่างกายมากกว่าปกติ แถมยังสนุกกับช่วงเวลาไปตลอดทาง ทำให้สุขภาพทางกายและจิตดีขึ้นมากกว่าคนที่อยู่แต่บ้าน หรือทำอะไรซ้ำๆ เป็นกิจวัตรประจำ
สรุปว่า การไปท่องเที่ยวได้อะไรมากกว่าที่คิด ออกไปเที่ยวซะบ้าง แล้วจะได้อะไรมากกว่าที่คิดอย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"


