สังคม...กำลังป่วย

ช็อกโลก!! ไปกับกรณีอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นถูกยิงเสียชีวิตขณะกำลังปราศรัยหาเสียงเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา และยิ่งเพิ่มความช็อกมากขึ้น เมื่อมือสังหารบอกสาเหตุที่กระทำการอันอุกอาจในครั้งนี้ ว่าเขาโกรธแค้นชิงชัง "ลัทธิ" หนึ่งที่ทำให้โลกทั้งใบของเขาผุพังล่มสลาย โดยเขาเชื่อว่า นายชินโซ อาเบะ เป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนลัทธิที่ทำให้ครอบครัวของเขาหมดตัวล้มละลาย จึงต้องฆ่าให้หายแค้น

มันช่างไร้เหตุผลสิ้นดี!! มนุษย์ป้าคิดแบบนั้นจริงๆ นะ พร้อมกับตั้งคำถามว่า ทำไมไม่เลือกไปยิง "เจ้าลัทธิ" ที่ว่านั่นแทนหนอ?!?

เป็นเพราะจิตป่วย หรืออะไรก็ตาม เชื่อว่าสื่อในญี่ปุ่นก็คงจะติดตามตรวจสอบกันต่อไป และเราเองในฐานะสัตว์สังคม ก็ควรจะสนใจเรียนรู้ศึกษาอยู่ห่างๆ เพราะโลกทุกวันนี้มันเชื่อมต่อกันด้วยคลิกมือเดียวผ่านมือถือ การรู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ..แล้วนำมาเปรียบเทียบกับสังคมในบ้านเราก็น่าจะช่วยป้องกันไว้ดีกว่าแก้

หวังว่าสังคมไทยคงจะไม่มีพฤติกรรมการเลียนแบบ แต่รู้จักนำกรณีนี้ไปช่วยกันถกและคิดว่า เราจะสร้างสังคมเป็นสุขและละมุนละม่อม ปราศจากความรุนแรงกันได้อย่างไรบ้าง

เริ่มจากสังคมก้อนเล็กที่สุด นั่นคือ ภายในครอบครัวของเรา ช่วยกันปลดเปลื้องปัญหาความโกรธ ความไม่พึงพอใจ ด้วยหลักเหตุผล ใช้พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเครื่องเจริญสติ มิใช่ท่องคาถาสวดมนต์ภาวนาเพื่อเรียกร้องนั่นโน่นนี่ จนตกเป็น "เหยื่้อ" ของมารศาสนา

ศาสนาพุทธ หากรู้จักศึกษาให้ถ่องแท้ ไม่หลงงมงายไปกับคนที่ตั้งตนเป็นเจ้าลัทธิสารพัดต่างๆ ประเภทที่เรียกว่า "สายมู" ล่ะก็ รับรองได้ว่า ความทุกข์ที่ว่าหนักหนาสาหัสเราก็จะเห็นทางออก ..ลองเริ่มจากแก่นสาระของวันอาสาฬหบูชานี่แหละ ..อย่างน้อยเราก็จะรอดพ้นปัญหาสังคมกำลังป่วยได้ไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ.

'ป้าเอง'

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!

ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่

ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย

ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป

เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ

เรื่องของ..มิวเซียม

เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง