ดาวจรัสแสงใน 'โผผู้การกรม'

หรือทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แบบยกชุด มอบหมายให้ เดอะกอล์ฟ-พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) นรต.46 ทำหน้าที่ “โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” พร้อมทีมงานโฆษกตำรวจรุ่นใหม่ ทั้ง พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์,

พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกสร, พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ, พ.ต.ต.หญิงณพวรรณ ปัญญา, ร.ต.อ.พากฤต กฤตยพงษ์ และ ร.ต.ท.หญิง พิชญากร สุขทวี ๐

แม้จะมีรายชื่อเกษียณอายุราชการ ร่วมกับ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. และอีก 3 อดีตรองผบ.ตร. ทั้ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์,  พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง และ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา ไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือน บิ๊กเบิ้ม-พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย อดีตรอง ผบ.ตร. จะยังไม่ได้กลับไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานเหมือนเหล่าบรรดา นายพล วัยเกษียณคนอื่นๆ เพราะ ผบ.เด่น ต้องการให้ พี่เบิ้ม ช่วยเหลือด้านบริหาร จึงแต่งตั้ง พล.ต.อ.ปิยะ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ผบ.ตร. เพื่อดูงานบริหาร ร่วมกับ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งดูแลงานบริหารอีกแรง เรียกว่าเสริมแกร่งงานแม่บ้านกันเต็มพิกัด แบบนี้เห็นทีงานด้านสวัสดิการที่ บิ๊กเบิ้ม ทำไว้ น่าจะได้สานงานต่อเนื่อง ผู้ใต้บังคับบัญชาก็จะได้อุ่นใจมากขึ้น ๐

นักสืบก็คือนักสืบ บิ๊กปั๊ด ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ ก็ยังได้เซ็นคำสั่งทิ้งทวนกำหนดแนวทางใส่เสื้อกั๊กสำหรับตำรวจนอกเครื่องแบบสวมใส่ โดยเสื้อกั๊กสีดำแบบสวมทับ ด้านหน้ามีซิปรูดผ่าอกยาวตลอดตั้งแต่ปกคอถึงด้านล่างเสื้อด้านหน้าตอนบนมีแถบสะท้อนแสงสีเงิน 1 แถบ กว้าง 2.5 เชนติเมตร คาดตามขวางของเสื้อที่อกเสื้อทั้งสองข้าง และตอนล่างมีกระเป๋าเจาะข้างละ 1 กระเป๋า มีซิปรูด เสื้อด้านหลังตอนบนมีแถบสะท้อนแสง สีเงิน 1 แถบ กว้าง 5 เซนติเมตร คาดตามขวางของเสื้อใต้ชื่อย่อหน่วยงานระดับกองบัญชาการหรือเทียบเท่า รวมทั้งมีติดเครื่องหมายรูปอาร์มที่อกเสื้อข้างขวาเหนือแถบสะท้อนแสง ชื่อย่อหน่วยงานระดับกองบังคับการที่อกเสื้อข้างซ้ายเหนือแถบสะท้อนแสง และแถบอักษรภาษาอังกฤษคำว่า “POLICE” ตรงกลางเสื้อด้านหลังตอนบนเหนือชื่อย่อหน่วยงานระดับกองบัญชาการหรือเทียบเท่า อย่างไรก็ดี คำสั่งดังกล่าว บิ๊กปั๊ด กำชับเสื้อกั๊กแบบสวมทับนี้ให้ใช้สำหรับข้าราชการตำรวจไม่ได้แต่งเครื่องแบบตำรวจในการปฏิบัติงานด้านการสืบสวน สอบสวน การระงับเหตุอาชญากรรม หรือจับกุมปราบปรามผู้กระทำผิดในพื้นที่ ๐

งามหน้าอีกแล้ว ตำรวจโรงพักเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หลังนายเอฟกีนี อับดุลลิน อายุ 31 ปี สัญชาติรัสเซีย แจ้งความถูกปล้นทรัพย์ในท้องที่ สภ.เกาะสมุย และกรณี น.ส.สุวนันท์ ใจแปง ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ถูกข้าราชการตำรวจมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเรียกเงินแลกปล่อยสามีถูกจับยาบ้า 1 เม็ด ทำให้ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้การสุราษฎร์ธานี เซ็นคำสั่งเรื่องให้ 5 เสือโรงพักเกาะสมุย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังข์ ผกก.สภ.เกาะสมุย, พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิก รอง ผกก.ป้องกันปราบปราม สภ.เกาะสมุย, พ.ต.ท.วรพงศ์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.สืบสวน สภ.เกาะสมุย, พ.ต.ท.สุเมธ สวัสดี สาวรวัตรป้องกันปราบปราม และ พ.ต.ท.บุญฤทธิ์ สุดทองคง สารวัตรสืบสวน สภ.เกาะสมุย ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.เป็นต้นไป พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤดินิธิ ทองทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เกาะสมุย, พ.ต.ท.อำนวยวิทย์ มากขุนทด รอง ผกก.ป. สภ.ชัยบุรี รักษาราชการแทนรอง ผกก.ป., พ.ต.ท.อรรถวรรธน์ ใบหา รอง ผกก.สส. สภ.ดอนสัก รักษาราชการแทนรอง ผกก.สืบสวน, ร.ต.อ.วัชรพงษ์ กาญจนานุรักษ์ รองสวป.สภ.เกาะสมุย รักษาราชการแทน สวป. และ ร.ต.อ.พิเชษฐ์ วิบุตร รอง สว.สส. สภ.เกาะสมุย รักษาราชการแทน สว.สส. เพื่อรอการสอบสวนข้อเท็จจริง ๐

30 กันยายน วันสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 และเป็นวันรับ-ส่งหน้าที่ของผู้บังคับหน่วยทหารหลายหน่วย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก สะบัดปากกาลงนามโผผู้การกรม  356 ตำแหน่ง ให้ผู้ที่ได้ขยับปรับย้ายไปตั้งต้นทำงานในวันจันทร์ได้แบบไร้รอยต่อ  ทำให้บรรยากาศที่กองทัพภาคที่ 1 ในพิธีรับส่งหน้าที่แม่ทัพ ระหว่าง พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง กับ พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ คึกคัก มีการจับมือแสดงความยินดีกันล่วงหน้า เพราะคงรู้เลาๆ แล้วว่าใครจะได้ดี ใครถูกดอง ถูกเด้ง พลิกดูรายชื่อแล้วเรียกว่า สายบี้-สายแดง ได้ดีกันถ้วนทั่ว

โดยเฉพาะกรมสไตรเกอร์-กับกรมอาร์ดีเอฟ โดยมีชื่อของ พ.อ.สังกาศ สร้อยคำ ผบ. ร.112 เป็น รอง ผบ.พล.ร.11, พ.อ.กริช บุญเกิด ผบ.ร.111 เป็น ผบ.ร.112 คุมกรมสไตรเกอร์ จ.ชลบุรี, พ.อ.ธีรเดช ลิ้มคุณากุล ผบ.กรม สน.พล.ร.11 เป็น ผบ.ร.111 ส่วน เสธ.โอม-พ.อ.อัครพัฒน์ เทพณรงค์ รอง ผบ.ร.112 อดีต ทส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โผนี้ได้เป็นเสธ.พล.ร.11 นอกจากนั้นยังมีชื่อด่าวเด่นที่ต้องจับตามองอย่าง “ผู้การด้วง” พ.อ.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์ ผบ.ร.31 รอ. ผู้การอาร์ดีเอฟ ได้ขึ้นเป็นรอง ผบ.พล.1รอ. เสธ.ย้ง-พ.อ.คทาวุธ ชัยย้ง เสธ.พล.1 รอ. เป็น ผบ.ร.31 รอ.  

ฝั่งทหารเสือราชินี ผู้การเบญ” พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผบ.ร.21 รอ. ได้ขึ้นเป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ. โดยมี พ.อ.ไชยปราการ พิมพ์จินดา เสธ.พล.ร.2 รอ.เป็น ผบ.ร.21 รอ. ด้านบูรพาพยัคฆ์ พ.อ.เทพพิทักษ์ นิมิตร ผบ.ร.2 รอ. ได้ขึ้นเป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ., พ.อ.โกวิท สังขนครา รอง ผบ.ร.2 รอ. เป็น ผบ.ร.2รอ. และเมื่อหันไปดูทางด้านสุรสีห์กันบ้าง   ปรากฏว่ามีชื่อ ผู้การกิ๊ฟ-พ.อ.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.ร.29 น้องรัก “บิ๊กบี้” ขึ้นเป็นรอง ผบ.พล.ร.9, เสธ.ก้อง-พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก รอง ผบ.ร.29 เป็น ผบ.ร.29, พ.อ.เฉลิมชัย ขัดใจ ผบ.ร.9 เป็นรอง ผบ.พล.ร.9, พ.อ.รณวรรณ พจน์สถิต เสธ.พล.ร.9 เป็น ผบ.ร.9, พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ร.19 เป็น ผบ.ร.19  

ส่วนคำสั่งที่เซ็นไวกว่าทุกโผ คงเป็นการตั้งโฆษกคนใหม่แทน พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ ที่เกษียณอายุราชการ โดยออกมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนหลังคลอดโผนายพล ซึ่งมีชื่อของ “บิ๊กดร” พล.ท.นิรันดร ศรีคชา รอง เสธ.ทบ. ที่เติบโตมาในสายกิจการพลเรือน คู่มากับ เพื่อนอู-พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นั่งแท่นเป็นโฆษก ทบ. ขณะที่ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาล ยังทำหน้าที่รองโฆษก ทบ. ร่วมกับทีมผู้ช่วยโฆษกหญิงเดิม ทั้ง  พ.ท.หญิงพัชรินทร์ จันทร์อาสา เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก,  พ.ท.หญิงจุฑาทิพย์ วุฒิรณฤทธิ์ เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก, พ.ท.หญิงปวีณา ศรีบัวชุม เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก และมี พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ เป็นผู้ช่วยโฆษกกองทัพบกเสริมทีมเข้ามาใหม่อีกหนึ่งคน

บิ๊กจ๊อด-พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือคนใหม่ ขอเวลาดูข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารโครงการเรือดำน้ำ ที่มี เสธ.โอ๋-พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือคนใหม่ เป็นประธาน เพื่อกำหนดเป็นทิศทางแก้ไขปัญหาเรื่องเครื่องยนต์เรือดำน้ำจีน S26T แบบเป็นขั้นเป็นตอน หลังจากวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่ ทร. บอกว่าคณะกรรมการเทคนิคฯ ที่ดูรายละเอียดเรื่องเครื่องยนต์จีนจะเสนอความเห็น แต่ก็ยังเงียบ จนลากยาวส่ง “เผือกร้อน” ให้ ผบ.ทร.คนใหม่ไปจัดการในที่สุด ท่ามกลางกระแสข่าวว่า กรมอู่ทหารเรือ ซึ่งเป็นแกนหลักของคณะกรรมการชุดนี้ “ไม่เอา” เครื่องยนต์จีนเพราะยังไม่มีการทดสอบการใช้งานกับเรือดำน้ำอย่างเป็นจริงเป็นจัง ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องฟังจากปาก “บิ๊กจ๊อด” ขยายความอีกครั้งในวันจันทร์นี้หลังพิธีประดับยศนายทหารชั้นนายพล ที่วังเดิม กองทัพเรือ.