จมปลัก..อยู่ในโลกกว้าง

ได้รับความรู้และสาระที่น่าคิดจากงานโครงการ “เส้นทางสู่สื่อมืออาชีพโทรทัศน์และวิทยุรุ่นใหม่ New Media-New Gen” ที่จัดโดยสมาคมวารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ อย่างมากมาย เพราะมนุษย์ป้า old แต่ไม่ยอม out ถือคติไม่มีคำว่าแก่เกินเรียน หรือสายเกินไปกับการเพิ่มความหยักของสมอง

คลาสที่ 4 เป็นหัวข้อเรื่อง การนำเทคโนโลยี Data & AI มาใช้ในบริบทของการสื่อสาร โดยคุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทำให้เราตระหนักรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ทำไมยุคดิจิทัลที่บอกว่าย่อโลกกว้างมาอยู่บนจอสี่เหลี่ยมไม่ว่าจะบนมือถือ หรือคอมพิวเตอร์นั้น มักจะเกิดดรามา หรือรายการทัวร์ลงที่โน่นที่นี่ให้เห็นกันบ่อยๆ

คุณกล้ายกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจน กับเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันว่า เมื่อก่อน..หากเราไปกินข้าวแกงสักจาน หากเจอแมลงวันอยู่ในจานข้าว ไม่ว่าด้วยอุบัติเหตุ หรือเป็นเพราะปัญหาสุขอนามัยของร้านค้าก็ตาม เราก็จะโวยวายกับเจ้าของร้าน แล้วอาจจะจบลงที่พ่อค้าตักข้าวแกงจานใหม่มาเปลี่ยน หรือไม่เราก็เดินออกจากร้านไป เพราะหมดอารมณ์ที่จะกินต่อในวันนั้น ซึ่งหมายความว่า จะมีคนรับรู้เหตุการณ์นี้อย่างมาก 3-4 คนเท่านั้น

แต่วันนี้ ..ถ้าเจอเหตุการณ์เดียวกัน!! แทนที่จะเรียกเจ้าของร้าน หรือก่อนที่จะเรียก เราจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายจานข้าวแกงเจ้าปัญหา แล้วก็โพสต์บ่นก่นว่า พรรณนาต่างๆนานาในโลกโซเชียลทันที เรื่องที่ควรจะจบลงที่ร้านก็ถูกขยายไป 300 คน หรือ 3,000 คนในเวลาไม่ถึง 5 นาที ตามด้วยการแสดงความคิดเห็นต่างๆ นานา

นี่แค่เล็กๆ น้อยๆ สะท้อนฤทธิ์เดชของเทคโนโลยียุคใหม่ และบริบทของการสื่อสารในยุคดิจิทัล

แต่ที่เยอะๆ โดยที่เราอาจจะไม่รู้ หรือรู้ก็ไม่เห็นเป็นเรื่องต้องเดือดเนื้อร้อนใจ นั่นคือ ดาต้าต่างๆ ที่ระบบเอไอเรียนรู้ รวบรวม วิเคราะห์รสนิยมของเรา จากนั้นก็ป้อนแต่สาระที่เราชอบ ..เท่านั้น!!! ทุกวี่ทุกวัน มันส่งผลให้เราหยุดตัวเองอยู่กับชุดข้อมูลเดิมๆ จนกลายเป็นความเคยชินหรือปกติชีวิตอย่างเนียนๆ ซึ่งน่าคิดอย่างมากว่า มันได้ทำให้เราขีดกรอบปิดกั้นตัวเองอยู่ในโลกจำกัดหรือไม่?!?

เรียกว่าใครคิดต่าง คิดไม่เหมือน เราก็จะไม่เข้าไปอยู่ในพื้นที่นั้น หรือเปิดโสตประสาทลองรับฟังข้อมูลข่าวสารในมุมอื่นๆ

มนุษย์ป้าลองตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกัน เมื่อฟังแง่คิดจากคุณกล้า .."ตกลงยุคดิจิทัลทำให้โลกของเรากว้าง หรือทำให้มุมของเราคับแคบกันแน่?!? นะ" 

ใครมีคำตอบอย่างไรก็ลองเล่าสู่กันฟังบ้าง แต่ที่แน่ๆ ข้อคิดจากการสัมมนาครั้งนี้.. ทำให้เราต้องหาทางป้องกันการจมปลักอยู่ในโลกโซเชียลแบบไม่รู้ตัว ..น่าจะดีกว่านะคะ.

"ป้าเอง" 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!

ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่

ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย

ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป

เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ

เรื่องของ..มิวเซียม

เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง