จิ้งจกทัก!!!

ทั้งๆ ที่ทำท่า ไปแหล่-มิไปแหล่ มาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว...ถึงขั้นต้องเข้าไปนอนถ่ายเลือด ณ ห้องไอซียู เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา แต่มาถึง ณ บัดนาว...ก็ยังไม่ได้ไปกะเค้าซักกะที ยังมีโอกาสอยู่ดูโลก (แถมได้ดูบอลโลก) มาจนกระทั่งย่างเข้าสู่ปีใหม่-ฟ้าใหม่ไปเป็นที่เรียบโร้ยย์ย์ย์ เฮ้ออ์อ์อ์...อะไรมันจะโชคช่วย บุญบังเอิญ ไปได้ถึงปานนั้น!!!

    ขณะที่เพื่อนผู้ร่วมวัฏสงสาร...ไม่ว่าที่รู้จัก-ไม่รู้จัก ดัน ไปแล้ว-ไปลับ ไปเป็นรายๆ ล่าสุด...เห็นว่า ป่อง ต้นกล้า ไปแบบ หลับแล้ว-หลับเลย ซึ่งต้องถือว่าเป็นโชค เป็นวาสนาไปอีกแบบ

คือไม่ต้องทนทรมานกับขั้นตอน-บางขั้นตอน ของการจากพราก ที่อาจต้องมีเจ็บ มีปวด มีทุรนทุราย อยู่มั่งเป็นธรรมดา ไม่ต่างอะไรไปจากการ เกิด นั่นแหละ ส่วนผู้ที่มีโชค มีบุญ-วาสนา ในอีกแบบ คือแบบที่ยังมีสุขภาพกาย-สุขภาพใจ แข็งแกร่ง ทนทาน หรือแบบประเภทถึงแม้นแข็ง-แต่แรงไม่มีก็แล้วแต่ แต่สุดท้าย...ยังไงๆ คงหนีไม่พ้นต้อง ไป ณ วันใด-วันหนึ่ง กันจนได้ ด้วยเหตุเพราะต่างต้องอยู่ภายใต้ กฎเหล็กแห่งธรรมชาติ อันว่าด้วยการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-และดับไป ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง...

    ดังนั้น...ไม่ว่าจะต้อง ไป ตอนไหน เมื่อไหร่ แทบไม่ต้องเสียเวลาไปคิดมาก หรือคิดเล็ก-คิดน้อย ให้ต้องปวดหัว เวียนเฮด โดยใช่เหตุ มีแต่การ อยู่ นี่สิ!!! ที่ออกจะเป็นอะไรที่ ลำบาก มิใช่น้อย คือจะอยู่อย่างไรถึงจะเป็น ประโยชน์ ต่อตัวเองและผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะตั้งแต่เริ่มรู้สึก เริ่มตระหนัก ว่าตัวเองน่าจะ แก่ น่าจะ ชรา พอสมควรแล้ว การคิดจะยังประโยชน์ให้กับใครๆ ก็ตาม มันเลยมีอันแต่ต้องลดน้อย-ถอยลงไปตามสภาพ จำได้ว่า...แค่ไม่กี่ปีมานี้เอง เคยต้องนั่งสารภาพ นั่งรำพึง-รำพันกับพรรคพวกรุ่นใหญ่ อย่าง เดอะ-ชิ คุณพี่ สุรพล ชินะจิตร อดีตเสนาธิการทหาร ที่แก่แสนแก่ไม่น้อยไปกว่ากัน ว่าคงแทบไม่เหลือโอกาสชักชวนใครต่อใครให้ช่วย หามลุง...ไปตีกับมันที อีกต่อไปแล้ว...

    เท่าที่ยังพอทำได้...ยังพอประพฤติ-ปฏิบัติได้มั่ง คงหนีไม่พ้นไปจากความพยายามนำเอาสิ่งที่ตัวเองเคยพบ เคยสัมผัส เมื่อช่วง อดีต แม้จะหลงเหลืออยู่เพียงแค่อารมณ์-ความรู้สึก หรือกระทั่ง สัญชาตญาณ ก็เถอะ มาใช้เป็นตัวบอกเล่า-เก้าสิบ เป็นตัวส่ง สัญญาณ ถึงสิ่งที่อาจเป็นไปได้ใน อนาคต โดยจะถือเป็น คำเตือน หรือเป็นแค่เสียงจิ้งจก-ตุ๊กแกใดๆ ก็แล้วแต่ แต่อย่างน้อย...อาจพอมี ประโยชน์ อยู่มั่งไม่มาก-ก็น้อย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องให้ความระมัดระวัง ต่อจังหวะก้าวในแต่ละก้าวของตัวเอง สำหรับการ เดินหน้าประเทศไทย ไปสู่ทิศไหน ทางไหน ก็ตามที...

    เพราะยิ่งในช่วงปีใหม่-ฟ้าใหม่ หรือ ณ ช่วงต่อไปนับจากนี้ โดยแนวโน้มความเป็นไปของโลก ดูๆแล้ว...มันน่าจะ อันตราย ยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ว่าจะในแง่เศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม-ประเพณี หรือแม้แต่ การทหาร ก็แล้วแต่ คือไม่ใช่แค่ สงครามโลก-ไม่สงครามโลก เท่านั้น แต่ถึงขั้น นิวเคลียร์-ไม่นิวเคลียร์ ไปแล้วถึงขั้นนั้น!!! ด้วยเหตุนี้...ประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ทั้งหลาย ที่ย่อมไม่ได้มีที่ตั้งอยู่บนอวกาศ หรือสุญญากาศอยู่แล้วแน่ๆ ยังไงๆ...คงหนีไม่พ้นที่จะต้องปฏิสัมพัทธ์-ปฏิสัมพันธ์ ไปกับสิ่งต่างๆ ทั้งหลาย ทั้งปวง อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้เลย...

    อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้ จังหวะก้าว ของใครก็ตาม ที่มีส่วนร่วม หรือเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนใด ของการ เดินหน้าประเทศไทย ย่อมต้องพยายามเพิ่มความ ระมัดระวัง เอาไว้ให้จงหนัก จะก้าวแบบสะเปะสะปะ แบบซ้าย-ขวา-ซ้าย ไปตามใจชอบ หรือตามใจฉัน แบบเก่าๆ-เดิมๆ น่าจะลำบากแล้ว หรือน่าจะแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป มีแต่ต้องหาทางฉีกกรอบ แหวกกรอบ ไปจากวงจร-วัฏจักรเดิมๆ โดยจะไปในแบบไหน ทางไหน ก็คงขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม กับจังหวะและโอกาส ของผู้ที่ยังดำรง คงอยู่ ทั้งหลาย ที่จะต้องวินิจฉัยกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...ผู้ที่น่าจะยืนหยัดอยู่เป็นรายสุดท้าย ย่อมหนีไม่พ้นไปจากผู้ที่กล้าหาญ-ชาญชัยพร้อมก้าวเดินไปตาม ครรลอง-คลองธรรม อย่างมิคิดจะเบี่ยงเบนไปเป็นอื่น...นั่นแล!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะดีจะชั่ว...อยู่ที่ตัวคนเลือก

คนเรานั้น แม้จะเลือกเกิดไม่ได้ว่าเราจะเกิดที่ไหน เกิดเป็นลูกใคร จะได้เป็นลูกเศรษฐีหรือลูกคนจน แต่เมื่อเราเติบโตรู้ความ ได้รับการอบรมบ่มนิสัย ได้รับการศึกษา

จากสงครามเวียดนามถึงสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ช่วงที่นักศึกษา ปัญญาชน คนหนุ่ม-คนสาวชาวอเมริกัน...เขาลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน คัดค้าน สงครามเวียดนาม ในช่วงระยะนั้น อันตัวข้าพเจ้าเอง ก็กำลังอยู่ในวัยหนุ่ม

ไฟไหม้ปทุมวัน

เล่นเอาเหล่า "สีกากี" ภายใน "กรมปทุมวัน" ตกอกตกใจกันยกใหญ่ หลังมีควันดำๆ พวยพุ่งจากเหตุไฟไหม้ระเบียงชั้น 6 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์