วัด..พลังแห่งสตรี

วันสตรีสากล 8 มีนาคม..ปีนี้ มนุษย์ป้าอยากจะเชิญชวนมนุษย์ผู้หญิงลองแวะเวียนไปที่ "วัดเทพธิดารามวรวิหาร" บนถนนมหาไชย ถนนเดียวกับที่ใครๆ ก็รู้จัก "ร้านเจ๊ไฝ" หรือไม่ก็ผัดไททิพย์สมัย เป็นอย่างดีนั่นเอง

วัดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่รู้กันบ้างไหมว่า เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 3 โปรดฯ ให้สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ หรือพระเจ้าลูกเธอ พระองศ์เจ้าวิลาส พระราชธิดาองค์ใหญ่ใน รัชกาลที่ 3 สร้างเมื่อปี พ.ศ.2379 เสร็จในปี พ.ศ.2382

เพราะนับเป็นวัดแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่มีการชูมาตาธิปิตย์ หรือเจตนาคติของการสร้างวัดแห่งนี้ ก็เพื่อยกย่องชื่นชม "นารีรัตนะ"  หนึ่งในเจ็ดรัตนะประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งก็คือ พระองศ์หญิงวิลาส

สะท้อนบอกกล่าวเล่าสิบว่า เส้นทางความสำเร็จของ "บุรุษ" ทุกผู้ทุกนามนั้น ย่อมมี "อิสตรี" อยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นช้างเท้าหน้าเท้าหลัง หรือเดินเคียงข้างไปด้วยกันก็ตาม

เทพธิดาแห่งราชสำนัก "พระองศ์หญิงวิลาส"  มีพระปรีชาสามารถเป็นพิเศษ ทรงเป็น "นารีรัตนะ" ค้ำจุนบัลลังก์ที่ทำให้เกิดมิติใหม่ๆ ในรัชสมัยนั้นมากที่สุด นอกจากพระสิริโฉมงดงามตามที่กวีเอกของโลก "สุนทรภู่" ได้เขียนนิราศ "รำพันพิลาป" พรรณนาไว้แล้ว ที่เราควรรู้คือ พระองค์เป็นผู้ได้รับความไว้วางใจจากพระราชบิดาให้ทรงถือกุญแจห้องเก็บ "ถุงแดง" เงินสำรองในท้องพระคลังหลวงที่ช่วยกู้ชาติกู้แผ่นดินไถ่ถอนเอกราชได้จากฝรั่งมังค่าในวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 นั่นแหละ

ประวัติศาสตร์ในรายละเอียดเกี่ยวเนื่องกับเทพธิดาแห่งราชสำนักพระองค์หญิงวิลาสมีอีกมากมายหลายเวอร์ชั่น แต่ที่น่าทึ่งคือ วัดเทพธิดาราม อารามเพื่อยกย่องอิสตรีนี้ น้อยคนนักจะรับรู้ว่า เป็นวัดในงานพระราชนิยมของรัชกาลที่ 3 ที่สะท้อนว่า ศิลปะ "นอกอย่าง" ทั้งหมด นั่นคือไม่มีใครเหมือน และไม่มีใครทำต่อ ผิดแผกแตกต่างจากไทยประเพณีแบบ 100%

จากอดีตจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ วัดทุกหนทุกแห่งจะเป็นอย่างไทยประเพณี มีช่อฟ้า ใบระกา  มีเสาบัวชดช้อยอย่างไทย แต่ที่วัดเทพธิดาราม มีลักษณะตัวอาคารแบบเรียงหน้ากระดาน ตัวอาคารไม่เป็นทรงไทย เสาก็เป็นต้นตันๆ ไม่มีบัว ไม่มีหัวเสา รูปแบบดูเป็นแบบเก๋งจีน หน้าบรรณก็เป็นรูปหงส์ ลายแบบศิลปะจีน ภายในอุโบสถไม่มีจิตรกรรมฝาผนังอันเกี่ยวกับพุทธชาติ พุทธประวัติ ตามไทยประเพณีปฏิบัติ มีแต่ดอกโบตั๋น ดอกเบญจมาศ ลายเทศ และที่น่าสนใจคือ มีวิหารพระภิกษุณี หล่อด้วยกลักฝิ่น 52 องค์มีอิริยาบถที่แตกต่างกันเพื่อตอกย้ำให้ประจักษ์ถึงมาตุคามใจกลางกรุงรัตนโกสินทร์อย่างแท้จริง

สรุปว่า วัดแห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งสตรี ที่มนุษย์ผู้หญิงไม่ควรมองข้ามค่ะ.

 

"ป้าเอง"

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!

ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า

“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่

ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย

ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป

เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ

เรื่องของ..มิวเซียม

เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง