น่าจะถึงจังหวะ'นิรโทษกรรม'กันซะที!!!

ด้วยเหตุเพราะพรรคพวกเก่าๆ แก่ๆ พี่ๆ-น้องๆ ท่านยังอุตส่าห์แวะมาเยี่ยมเยียน ไถ่ถามสารทุกข์ สุกดิบ อันพอให้เกิดความปลาบปลื้ม ดื่มด่ำ ความซาบซึ้ง ประทับใจ มิใช่น้อย อีกทั้งยังนำเอาข่าวคราวลึกๆ ลับๆ ที่ช่วยให้เกิด ภาพในจินตนาการ ถึงการโรมรัน พันตู ของ การเมืองไทย ว่าไปถึงไหนต่อถึงไหนกันมั่งแล้ว โดยเฉพาะช่วงที่ถึงเวลาต้องเอาแพ้-เอาชนะกันในสนามเลือกตั้ง ในอีกไม่ช้า-ไม่นาน นับจากนี้ ดังนั้น...ใครย้ายค่าย-เปลี่ยนค่าย ใครดูด-ใครอม ใครเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหน ฯลฯ เลยพอหลับตานึกภาพได้บ้าง แม้ไม่ถึงกับชัดเจน แจ่มแจ๋ว ก็ตามที...

แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ว่าใครแพ้-ใครชนะ ใครแลนด์สไลด์-ไม่แลนด์สไลด์ ใครไปต่อ-ไม่ไปต่อ ฯลฯ สุดท้าย...มันก็คงออกไปทาง ตถาตา หรือเพราะ มันเป็นเช่นนั้นเอง-มันเป็นพรรค์นั้นแหละ เป็นด้วยเหตุเพราะสิ่งนี้-สิ่งนี้จึงเป็นไป ไม่ได้ถึงกับมีอะไรมากมายเกินไปกว่านี้ อีกทั้งด้วยเหตุเพราะผู้แพ้-ผู้ชนะโดยส่วนใหญ่ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพี่ๆ-น้องๆ มาก่อนด้วยกันทั้งนั้น ไม่ก็ต้องถือเป็นเพื่อนผู้ร่วมวัฏสงสาร แถมยังร่วมแผ่นดินเดียวกันมาโดยตลอด ความรู้สึกกระดี๊กระด๊า กระเหี้ยนกระหือรือ กับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของผู้หนึ่ง-ผู้ใด มันเลยแทบไม่เหลือติดปลายนวมมากมายซักเท่าไหร่นัก สิ่งเท่าที่เหลืออยู่ หรือเท่าที่ยังทำให้เกิดสายใยผูกพันไม่ว่าต่อใครๆ ต่อฝ่ายหนึ่ง-ฝ่ายใด เลยหนีไม่พ้นไปจากความห่วงใย ต่อ ชะตากรรม ของแต่ละคน แต่ละราย แต่ละฝ่าย อันเนื่องมาจากผลพวงแห่งความชุลมุน วุ่นวาย เมื่อครั้งอดีตนั่นแล...

คือไม่ว่าจะฝ่ายเหลือง ฝ่ายแดง ฝ่ายส้ม ฯลฯ หรือฝ่ายอะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่...มาถึงบัดนี้ หลายต่อหลายสิ่งมันน่าที่จะ ตกผลึก ได้บ้างแล้ว แม้จะยังฮึด ยังห้าว ยังเหี้ยม ยังต้องพยายามแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของตน หรือความเป็นฝ่ายใดๆ ก็ตามที แต่ไม่น่าจะถึงขั้นก่อให้เกิด อันตราย อะไรมากมายนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับ กระแสโลก หรือความเป็นไปของโลก ที่ออกจะน่าเกลียด น่ากลัว ยิ่งเข้าไปทุกที คือชักจะไปไกลถึงขั้น นิวเคลียร์-ไม่นิวเคลียร์ ไปแล้วถึงขั้นนั้น!!! ด้วยเหตุนี้...อะไรก็ตามที่มันอาจพอช่วยให้เกิดความร่วมไม้ ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ในการรับมือ การเผชิญหน้ากับกระแสโลกได้มั่ง มันน่าที่จะถึงเวลา หยวนๆ กันได้แล้ว...

ยิ่งโดยจังหวะ เวลา หรือโดยเหตุผลกลใดก็ตามที ที่ทำให้เกิดการย้ายค่าย-เปลี่ยนค่าย เกิดการเปลี่ยนแปลงจากฝ่ายโน้นมาเป็นฝ่ายนี้ เปลี่ยนจากการไล่เหยียบ-ไล่กระทืบ หันมาจูบปากกันชนิดแทบแยกไม่ออกว่าไผเป็นไผ หรือใครเป็นฝ่ายไหนต่อฝ่ายไหนกันแน่ เอาง่ายๆ ว่า...ขนาดผู้ที่เคยลากปืนผา หน้าไม้ ออกมาไล่ยิง ไล่ฆ่า ออกมาทำ สงครามประชาชน ระหว่างกันและกัน มาถึง ณ บัดนี้ ยังอุตส่าห์พร้อมจะแปรสภาพไปเป็น คอมมิวนิสต์รักษาพระองค์ อย่างยินยอมพร้อมใจ ไม่คิดจะติดใจใดๆ อีกต่อไป หรืออย่างประเภทคุณพี่ แรมโบ้ ที่เคยถือปืนผา หน้าไม้ ออกอาการตาลุก ตาพอง พร้อมเล่นงาน ฝ่ายตรงข้าม อย่างไม่คิดจะปรานี-ปราศรัย แต่เมื่อถึงจังหวะ เวลา ถึงช่วงที่เกิดการ ตกผลึก ขึ้นมามั่งแล้ว ก็กลับเป็นอะไรที่น่ารัก น่าประทับใจ กลายเป็น กองหนุน ระดับดีหนึ่ง ประเภทหนึ่ง ไม่ใช่แค่กองเชียร์ หรือกองหลอนใดๆ อีกแล้ว...

ดังนั้น...ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะเป็น ลุงตู่ ลุงป้อม หลานอุ๊งอิ๊ง หลานพิธา คุณพี่เสี่ยหนู หรือแม้แต่ คุณพี่อู๊ดด้า ณ นวลผ่องเสนาณรงค์ ฯลฯ ก็เถอะ ล้วนแล้วแต่มิอาจปฏิเสธพวกเหลือง พวกแดง พวกส้ม ที่ต้องหลุดเข้ามาในตะแกรง เข้ามาในแรงดูด แรงอม หรือเข้ามาด้วยสาเหตุใดๆ ก็แล้วแต่ ของตัวเองได้เลย การหาทาง หยวนๆ ระหว่างกันและกันเข้าไว้ จึงน่าจะเป็นอะไรที่ สอดคล้อง-เหมาะสม กับสถานการณ์ทั้งภายนอก-ภายใน อย่างไม่น่าที่จะคิด ปฏิเสธ อีกต่อไป หรือมันน่าที่จะถึงเวลาแล้ว ที่ต้องหาทาง นิรโทษกรรม ระหว่างกันและกัน ให้มันหมดเรื่อง หมดราว สิ้นเรื่อง สิ้นราว กันไปซะที!!!

ไม่งั้น... กฎหมาย ท่านก็คงต้องทำหน้าที่ไปตามแนวทางของท่าน หรือตามวิถีทางที่ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 ท่านได้พระราชนิพนธ์ไว้ในเรื่อง เวนิส-วาณิช นั่นแหละว่า “ภายใต้กระแสยุติธรรมา...ยากจะหาความสุขเกษมเปรมใจ” หรือมันน่าจะถึงเวลาแล้ว ที่ต้องเร่งหาช่อง หาทาง อันจะนำไปสู่บรรยากาศแห่งความร่วมไม้-ร่วมมือ แบบที่พระองค์ท่านทรงสรุปไว้เองว่า “อันความกรุณาปรานี-จะมีใครบังคับก็หาไม่-หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ-จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน-เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ-แก่ผู้ให้และผู้รับสมถวิล-เป็นพลังเลิศกำลังอื่นทั้งสิ้น-เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา-ประดุจทรงวราภรณ์สุนทรสวัสดิ์-เรืองจรัสยิ่งมงกุฎสุดสง่า-แม้พระแสงทรงดำรงซึ่งอาชญา-เพื่อประชาพสกนิกร-ประดับพระวรเดชวิเศษฤทธิ์-ที่สถิตอานุภาพสโมสร-แต่การุณยธรรมอันสุนทร-งามงอนกว่าพระแสงอันแรงฤทธิ์” พูดง่ายๆ ว่า...ระหว่างต้องเอาแพ้-เอาชนะกันและกัน สิ่งที่น่าสนใจ น่าคิดสะกิดใจเสียยิ่งกว่า ก็คือการหาช่อง หาทาง ที่จะ ชนะใจ ของทุกๆ ฝ่ายนั่นเอง...

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะดีจะชั่ว...อยู่ที่ตัวคนเลือก

คนเรานั้น แม้จะเลือกเกิดไม่ได้ว่าเราจะเกิดที่ไหน เกิดเป็นลูกใคร จะได้เป็นลูกเศรษฐีหรือลูกคนจน แต่เมื่อเราเติบโตรู้ความ ได้รับการอบรมบ่มนิสัย ได้รับการศึกษา

จากสงครามเวียดนามถึงสงครามอิสราเอล-ฮามาส

ช่วงที่นักศึกษา ปัญญาชน คนหนุ่ม-คนสาวชาวอเมริกัน...เขาลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน คัดค้าน สงครามเวียดนาม ในช่วงระยะนั้น อันตัวข้าพเจ้าเอง ก็กำลังอยู่ในวัยหนุ่ม

ไฟไหม้ปทุมวัน

เล่นเอาเหล่า "สีกากี" ภายใน "กรมปทุมวัน" ตกอกตกใจกันยกใหญ่ หลังมีควันดำๆ พวยพุ่งจากเหตุไฟไหม้ระเบียงชั้น 6 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์