ความควายกำลังตามมา?

แค่.. “เรืองไกร” คนเดียวโด่ๆ ก็เห็นจะรอดยาก!

ฉะนั้น..ไม่ว่าจะสื่อหลัก-สื่อออนไลน์ ก็อย่าได้ไปเติมเชื้อสร้างวาทกรรม “เกมล้มโต๊ะรัฐบาลก้าวไกล” ปลุกเร้าสาวก-คนรุ่นใหม่ให้วุ่นวายไปมากนักเลย

คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้-ไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับเกมหรืออำนาจอะไรทั้งนั้น แต่น่าจะเกิดจาก “กรรม” ที่ตัวเขาเองได้กระทำ..

นั่นคือ..เมื่อตั้งใจจะเป็นนักการเมืองอาชีพ และฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วทำไมไม่สะสางพันธนาการที่เป็น “ข้อห้าม” ของรัฐธรรมนูญให้หลุดพ้นจากตัวล่ะ?

จะว่า “โง่แล้วดักดาน” ก็ไม่น่าใช่ เพราะเห็นฉลาดปราดเปรื่อง รู้ทุกเรื่องตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือดำน้ำ กระทั่งเรื่องของ “สุราเมรัย” ก็เก่งปาน “โกวเล้ง” เจ้าของสำนวน..

 “ข้าพเจ้าไม่ได้นิยมชมชอบในรสชาติของสุรา แต่ข้าพเจ้าชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา”!

จึงทำให้ได้รู้ว่า คุณพิธาแม้จะจบมาจากเมืองนอก-เมืองนา แต่กลับมีรสนิยมชมชอบ “เหล้าไทย” ที่ชอบดื่มเป็นประจำได้บอกยี่ห้อเลยว่า ชื่อเหล้า “สังเวียน” จากสุพรรณบุรี

แถมยังโฆษณาเหล้าไทยยี่ห้ออื่นให้โลกรับรู้ด้วย อย่าง “Kilo” จากกระบี่ “ฉลองเบย์” จากภูเก็ต “Iron Balls” จากกรุงเทพฯ และ “หมาใจดำ” จากเชียงใหม่

นี่..ก็ด้วยฉลาด-รู้มาก จึงดูท่าจะพลาด (อีกแล้ว) เป็นกิ้งกือตกท่อเสียกระมัง เพราะข่าวว่าหลังจ้อกับกรรมกรข่าวถึงเรื่องสุราเสรีนี้จบ

คุณศรีสุวรรณก็ไม่รอช้า รีบแจ้นไปยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค เพื่อเอาผิดว่าที่นายกฯ ทันควัน

โดยระบุว่า ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 32 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า..

“ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือทางอ้อม

การโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ใดๆ โดยผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทให้กระทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์สังคม

โดยไม่มีการปรากฏภาพของสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น

เว้นแต่เป็นการปรากฏของภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสัญลักษณ์ของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นเท่านั้น ทั้งนี้ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”

บทบัญญัติในกฎหมายดังกล่าว กำหนดบทลงโทษไว้ในมาตรา 43 สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 32 คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากต้องระวางโทษแล้ว ผู้ฝ่าฝืนยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

ประกอบกับมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ 2563 ออกมาบังคับใช้แล้วด้วย

ครับ.. “ด้อมส้ม” อาจมองไร้สาระ เรื่องขี้ปะติ๋ว แต่หากจำได้ ก่อนนี้เคยมีคนไปยื่นเรื่องเอาผิดต่อดารา-นักร้องที่ถ่ายภาพคู่เหล้า-เบียร์ลงไอจี และมีการลงโทษกันมาแล้วหลายราย

หรือจะกรณี “สมัคร สุนทรเวช” ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ 9:0 วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไปรับค่าตอบแทนจากการจัดรายการทำอาหารชิมไป-บ่นไป

ซึ่งในตอนนั้นก็มองกันว่า เป็นเรื่องเล็กน้อย-ไร้สาระ แต่ที่สุดก็เหมือนการขับรถฝ่าไฟแดงจะแค่ 1 วิ 10 วิ ก็ถูกจับ-ถูกปรับเพราะผิดกฎหมายนั่นแล!

นี่..หากพ่อส้มต้องมาเจอวิบากกรรมนี้เข้าอีก นอกจากอดเช็กบิล พล.อ.ประยุทธ์แล้ว สื่อก็อย่าได้กล่าวหา เป็นเกมล้มโต๊ะรัฐบาลก้าวไกลอีกล่ะ เพราะดูไป-มองว่า..

ชักเห็น (จริง) อย่างที่เขาพูด-คนนินทา จะเป็นนักการเมือง-เป็นนายกฯ..

ทำไม..โง่ชิบ..!.

สันต์ สะตอแมน 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยล้าหลังเพราะ..?

ควรเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนไหม? ผมถามคุณวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรน่ะ เห็น 2-3 วันก่อนท่านให้สัมภาษณ์ว่า..

ไม่ยกมือไหว้คนโกง

ร้อนรนจนออกหน้าไปไหม? ผมถามคุณวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ลูกศิษย์วัดไก่เตี้ยน่ะ เห็นโพสต์วันก่อนว่า.. “กระบอกเสียง หรือกระบอกเสีย รัฐบาล..

ไม่ทนต่อการทุจริต?

วันที่ 14 (ธ.ค.) นี้จะให้คำตอบ เหตุผลที่ให้รอฟังว่าจะลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไม่ คุณถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บอก..

เชื้อชั่วไม่ยอมตาย

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม! เมื่อคิด-วางแผนจะแก้ไขพระราชบัญญัติ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมใหม่ เพื่อป้องกันการทำรัฐประหาร..

ถามความรู้สึก?

ต่อไปใครจะกลัว? “กลัวไร” ผมถามเพื่อนคนหนึ่ง.. “ก็คุกไง” เพื่อนตอบเสียงเข้ม ก่อนจะว่า.. “แม่งง อุตส่าห์หาพยานหลักฐานกันแทบเป็นแทบตายกว่าที่ศาลจะพิพากษาตัดสินให้จำคุก 48 ปี

วางใจไม่ลุกไปไหน?

ความจริงก็หาใช่กงการอะไร? แต่เมื่อคุณจักรภพ เพ็ญแข อดีตคนเสื้อแดงแรงฤทธิ์ มีชื่อโผล่อยู่ในผังรายการใหม่ “TOP HEADLINE” ของช่อง “ท็อปนิวส์” ก็ย่อมเป็นธรรมดา..