ใคร่ครวญด้วยใจเป็นธรรม!

'คนเสื้อแดง' กับ 'คนไอทีวี' เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ..

 ถูกกระทำอย่างอยุติธรรม สำนึกการต่อสู้เพื่อความ 'ยุติธรรม' จึงฝังอยู่ในใจเราเสมอ”

เนี่ย..คุณจอม เพชรประดับ อดีตบรรณาธิการข่าวสังคม ไอทีวี ผู้ลี้ภัยหนีคดีความมั่นคงในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ท่ามกลางกระแส..ไอทีวีเป็น-ไม่เป็นสื่อ?

เรื่อง..คนเสื้อแดงถูกกระทำอย่างอยุติธรรมน่ะไม่ขอพูด แต่อยากบอกเพียงว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”

ส่วนไอทีวีนั้น เอาคร่าวๆ จากวิกิพีเดียบันทึกก็แล้วกัน.. "ในปีพ.ศ.2538 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้เปิดประมูลสัมปทานการดำเนินงานสถานีโทรทัศน์เสรีขึ้น

โดยกลุ่มบริษัท สยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูลและได้รับอนุมัติให้ดำเนินงานโครงการสถานีโทรทัศน์เสรีช่องใหม่ ในระบบยูเอชเอฟ ออกอากาศทางช่อง 26

 จากนั้นกลุ่มบริษัท สยามทีวีแอนด์คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ได้ก่อตั้งบริษัท สยาม อินโฟเทนเมนท์ จำกัด เพื่อเป็นนิติบุคคลที่ดำเนินการสถานี โดยมีการลงนามในสัญญาสัมปทานฯ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.38 

 20 ตุลา.2541 บจก.สยาม อินโฟเทนเมนท์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 

และในราวปี พ.ศ.2542 หน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่งได้เปลี่ยนแปลงช่องสัญญาณให้กับไอทีวี จากช่อง 26 มาเป็นช่อง 29 และมีสถานีเครือข่ายทั้งสิ้น 52 แห่งทั่วประเทศ

ต่อมา ในปี 2543 บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นของ บมจ.ไอทีวี จากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งผลให้พนักงานฝ่ายข่าวของสถานีบางส่วนลาออก

วันที่ 9 พ.ค.2549 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของอนุญาโตตุลาการที่ชี้ขาดให้ สปน.ลดค่าสัมปทานแก่สถานีเป็นเงิน 230 ล้านบาท

ตลอดจนการปรับเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงในผังรายการเป็นร้อยละ 50 เท่ากับรายการข่าวและสาระ รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยโดย สปน.

ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2549 ศาลปกครองสูงสุดก็พิพากษายืนตามศาลปกครองกลาง ส่งผลให้ บมจ.ไอทีวี ต้องจ่ายค่าสัมปทานสำหรับเช่าเวลาออกอากาศเป็นเงิน 1,000 ล้านบาทต่อปีตามเดิม

นอกจากนี้ ไอทีวียังต้องเสียค่าปรับจากการผิดสัญญาสัมปทาน จากการเปลี่ยนแปลงผังรายการที่ไม่เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน คิดเป็นร้อยละ 10 ของค่าสัมปทานในแต่ละปี รวมเวลา 2 ปี

จากนั้น สถานีจึงต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกอากาศโดยทันที ประกอบกับที่ผู้ผลิตรายการบางส่วนเริ่มถอนรายการออกจากสถานี เป็นผลให้ความนิยมของสถานีลดลงอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 14 ธันวา 49 นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศให้ บมจ.ไอทีวี ชำระค่าสัมปทานที่ค้างอยู่ จำนวนทั้งสิ้น 2,210 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15

 เป็นจำนวนเงินรวม 464 ล้าน 5 แสนบาท..และให้ชำระค่าปรับ กรณีทำผิดสัญญาเรื่องปรับผังรายการอีกกว่า 97,760 ล้านบาท

 อย่างไรก็ตาม บมจ.ไอทีวี ก็ไม่สามารถจ่ายค่าสัมปทานและชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้กับ สปน.ได้ ที่สุดแล้ว ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ.2550 

คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้ยกเลิกสัญญาสัมปทานฯ และสั่งให้ยุติการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ไอทีวี รวมระยะเวลาการออกอากาศทั้งสิ้น 10 ปี 8 เดือน 6 วัน 5 ชั่วโมง

ต่อมาบริษัท ไอทีวี ได้เสนอข้อพิพาทกรณี สปน.บอกเลิกสัญญาสัมปทานโดยมิชอบ โดยวันที่ 14 ม.ค.59 คณะอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินชี้ขาดว่า

สปน.บอกเลิกสัญญาสัมปทานโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ต้องชำระค่าเสียหายให้แก่ไอทีวี และไอทีวีก็ต้องชำระค่าตอบแทนส่วนต่างเช่นกัน

คำชี้ขาดจึงสรุปว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีหนี้ที่ต้องชำระต่อกัน ทั้งนี้ สปน.ยื่นคำร้องขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกครองกลาง และวันที่ 17 ธันวา.2563 ศาลปกครองกลางพิพากษายกคำร้องของ สปน.

ด้วยเหตุว่า คดีไม่มีเหตุตามกฎหมายที่ศาลจะเพิกถอนคำชี้ขาดได้”

ครับ..(คน) ไอทีวีถูกกระทำอย่างอยุติธรรมหรือไม่..

สาธุชนขอจงใคร่ครวญด้วยใจเป็นธรรม!.

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าวางใจสทร.

อาการน่าเป็นห่วง! ไม่ได้หมายถึงแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ และก็ไม่ใช่นายทักษิณ พ่อนายกฯ ที่ตอนนี้หาความสุขอะไรไม่ได้เลย..

บทดีแต่ไม่ลื่นไหล

กูว่าแล้ว! ใครเชื่อก็เชื่อไป สำหรับผมไม่เชื่อมาตั้งแต่ต้น ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร คนเดียวนั้น จะจริงจัง เอาเป็น-เอาตาย

ตัวทำลายการเจรจา!

ลงไปกล่าวคำ “ขออภัย” แต่แทนที่เสียงปืน-เสียงระเบิดจะเพลาๆ หรือจางหูลง กลับกลายเป็นว่า หลังนายทักษิณ ชินวัตร-สทร. กลับขึ้นมากรุงเทพฯ..

ปัญหาข้าวแก้ง่าย?

นายทักษิณนี่ ตัวปัญหาจริงๆ.. ดูสิ..ทำตัวเป็นผู้มากบารมีเหนือรัฐบาล ตั้งตนเป็น สทร.-เสือกทุกเรื่อง แต่พอฝ่ายค้านบรรจุชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธารเข้าหน่อย

ต่อ-ไม่ต่อเรื่องของสู

ไม่รู้จะโทษใคร.. เพียงแต่จะขออนุญาตชี้แจงกับท่านผู้อ่านว่า บทความผมเมื่อวาน (ในเว็บไซต์) เนื้อหาได้หล่นหายไปย่อหน้าหนึ่ง ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง-ไม่เข้าใจ ก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยละกัน!

ยังตายไม่ได้!

วานซืน.. ไปร่วมงานรดน้ำศพอดีตพระเอกหนังไทย “คุณยอดชาย เมฆสุวรรณ” ที่วัดมกุฏฯ โดยมีแขกเหรื่อ ญาติสนิทมิตรสหายไปกันแน่น-ล้นศาลา