ว่าด้วย'จุดลงตัว'ทางการเมือง

ความปรารถนา-ต้องการของคุณหลาน ทิม-พิธา และบรรดาผู้สนับสนุน ในการผงาดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ออกจะเป็นอะไรที่ เร่าร้อน-รุนแรง เสียเหลือเกิน ขนาดผู้ที่เคยออกแรงยุ แรงเชียร์อย่างคุณพี่ สมศักดิ์ หัวโต ที่เงี่ยหูฟังอยู่ที่ฝรั่งเศส ยังอดไม่ได้ที่จะต้องอุทานออกมาว่า บ้า...ไปแล้ว!!! อะไรทำนองนั้น

แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กันไปแล้วนั่นแหละว่า...สุดท้ายต้องออกไปทาง แห้วกระป๋อง จนได้ คือไม่สามารถผ่านด่าน ผ่านความเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภา ไม่ว่า ส.ส. หรือ ส.ว. จนมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 376 เสียง ตามกฎและกติกาที่ไม่ว่าใครได้วางๆ เอาไว้ก็ตามที 

แต่ถือเป็นกฎและกติกาที่ต่างฝ่ายต่างพร้อมยอมรับกันไปตามสภาพ และนั่นก็อาจนำมาซึ่งความร้อนแรง ระดับร้อนฉิบหาย ร้อนตายโหง-ตายห่า ยิ่งกว่าความร้อนอุณหภูมิอากาศเอาเลยก็ไม่แน่ ส่วนจะก่อให้เกิดการเผาผลาญ ล้างผลาญ ใครต่อใคร ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน ก็ยังยากที่จะสรุป ยากที่จะคาดคะเนได้

แต่ก็นั่นแหละ...ถ้าหากคุณหลาน ทิม-พิธา ท่านมีความ เจริญเติบโต ทางร่างกายและจิตใจ ระดับพอช่วยให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า วุฒิภาวะ ขึ้นมาได้มั่ง มันคงไม่ถึงกับต้อง บ้า...ไปแล้ว มากมายซักเท่าไหร่ หรือถ้าหากบรรดาผู้สนับสนุนไม่ว่าจะ 14 ล้านเสียง หรือจะกี่สิบล้านเสียง กี่สิบล้านตีน ก็ตามที พอที่จะเข้าอก-เข้าใจ หรือพยายาม เข้าถึง-เข้าใจ ต่อผู้คนอีกไม่น้อยกว่า 30-40 ล้านเสียง ที่ไม่ได้คิดจะก้าวสะเปะสะปะ หรือ ก้าวไกล ไปตาม อารมณ์-ความรู้สึก ตามแรงปรารถนาของตัวเอง จะด้วยเหตุเพราะคุณหลาน ทิม-พิธา ยังไม่หล่อพอ ไม่เริ่ดพอ แถมโดยลักษณะอาการยังออกไปทาง ไหลลื่น คำพูด คำจา ระหว่างวันนี้-วันหน้า มักหนักไปทางคนละเรื่อง-คนละม้วน หรือจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ด้วยสายใยแห่งความเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อนฝูง ญาติสนิท มิตรสหาย ที่ต่างต้องเกิดต้องอยู่ ภายใต้ แผ่นดินเดียวกัน มานานแสนนาน มันน่าที่จะยังไม่ถึงกับต้องไปตัดขาด แยกขาด ต้องเผาผลาญ ล้างผลาญกันและกัน ให้ต้องฉิบหาย-วายวอดกันไปข้าง

เพราะการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติ...กับผู้ที่คิดต่าง-เห็นต่าง ย่อมถือเป็น บทเรียนขั้นแรกทางการเมือง เอาเลยก็ว่าได้เนื่องจากสิ่งที่เรียกว่า การเมือง นั้น มันออกจะเป็นอะไรที่ยากส์ส์ส์เอามากๆ ในการแยกผิด-แยกถูก แยกขาว-แยกดำ หรือกระทั่งแยกดี-แยกชั่ว กันได้ง่ายๆ ด้วยเหตุเพราะมันมักขึ้นอยู่กับความหมุนเวียน เปลี่ยนแปลง ของฉากสถานการณ์ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่กลายเป็นตัว ชี้ขาด ถึงความเหมาะ-ไม่เหมาะ ควร-ไม่ควร ไม่ว่าของตัวบุคคล หรือกระทั่งของระบบ-ระบอบไปตามสภาพ การเตลิดเปิดเปิง เข้ารก เข้าพง ด้วยการ แยกเหลือง-แยกแดง เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ก็พอสะท้อนให้เห็นถึงความเร่าร้อน รุนแรง ที่น่าเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า เป็นอย่างยิ่ง ยิ่งทำท่าว่าอาจไปไกลถึงขั้น แยกแดง-แยกส้ม อีกไม่นานนับจากนี้ ชนิดไม่ว่าใคร...ถ้าหากไม่ใช่ ด้อมส้ม ซะอย่าง ย่อมมีสิทธิ์เจอกับ ทัวร์ลง เจอรถบรรทุก รถกระบะ รถซาเล้ง ไหลถล่มเป็นคันๆ เป็นขบวนๆ อันนี้...ก็ยิ่งฉิบหาย-วายวอดยิ่งขึ้นไปใหญ่!!!

คือถ้าจะว่าไปแล้ว... การเมือง มันคือเรื่องของการหา จุดลงตัว นั่นแหละเป็นสำคัญ มากกว่าการแยกผิด-แยกถูก แยกขาว-แยกดำ แยกดี-แยกชั่ว ฯลฯ ที่รังแต่จะก่อให้เกิดความโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท ริษยาและชิงชัง ไม่ได้ช่วยก่อให้เกิดความดี-ความงาม-ความจริง ต่อสังคม ต่อประเทศชาติบ้านต่อเมือง เอาเลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้...สิ่งที่เรียกว่า สันติภาพ หรือ สันติธรรม อันเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของผู้คนส่วนใหญ่ ของแต่ละชาติบ้านเมือง แต่ละสังคม จะมีโอกาสอุบัติขึ้นมาในสังคมนั้นๆ ชาตินั้นๆ บ้านเมืองนั้นๆ ได้หรือไม่? เพียงใด? อันนี้...ก็คงต้องขึ้นอยู่กับ ขีดความสามารถ ในการหา จุดลงตัว ภายในสังคมนั้นๆ ให้จงได้นั่นเอง!!!

ดังนั้น...ไม่ว่าจะคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ รุ่นไดโนเสาร์ รุ่นกะปอม ฯลฯ หรือรุ่นใดๆ ก็เถอะ ถ้ายัง ไร้เดียงสา หรือ ไร้ประสบการณ์ ไร้เสียซึ่งขีดความสามารถในการหา จุดลงตัว ให้กับตัวเองและผู้อื่น ได้อย่างเป็นจริง-เป็นจัง ไม่ว่าจะก้าวหน้า ทันสมัย หรือจะอนุรักษ์ ล้าหลัง เพียงใด ย่อมต้องถือว่า...น่าจะ ไม่เหมาะ-ไม่ควร ที่คิดจะผงาดขึ้นมานำพาชาติ-บ้านเมือง นำพาประเทศไทย ด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งพวง อันเนื่องมาจาก ฉากสถานการณ์ ที่กำลังรอคอยอยู่เบื้องหน้า มันคือฉากสถานการณ์ที่หนีไม่พ้นต้องอาศัยความ รู้-รัก-สามัคคี นั่นแหละเป็นที่ตั้ง ถึงอาจพอช่วยให้คนทุกๆ รุ่น ไม่ว่าคิดจะก้าวไปในแบบไหน แนวไหน พอที่จะ อยู่รอด-ปลอดภัย อันเนื่องมาจาก ความเปลี่ยนแปลง ซึ่งกำลังอุบัติขึ้นมาในโลกใบนี้ อย่างเห็นได้ถนัดชัดเจน ยิ่งเข้าไปทุกที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อยากช่วย...อยากเชียร์...แต่เพลียแล้วนะ

ในคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เราตกใจเมื่อเห็นผลของการเลือกตั้งที่พรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ได้ สส. 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 ได้ สส. 141 ที่นั่ง ส่วนพรรคที่เขาเรียกขานกันว่าเป็นพรรคอนุรักษ์หรือพรรคหนุนเผด็จการนั้น ได้จำนวน สส.ห่างไกลจาก 2 พรรคนี้มาก ภูมิใจไทยที่ได้จำนวน สส.มาเป็นที่ 3

ยุคพระอาทิตย์ 7 ดวง

ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่...แต่เผอิญไปป่วย หรือ อาพาธ อยู่ประมาณ 3 เดือน คือระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ปีพุทธศักราช 2535 หรือประมาณ 35 ปีมาแล้ว

หึ่ง! เชือด 'นายพล' อีก

ดูเหมือนจะเป็นหน่วยงานแห่งความหวัง หน่วยงานที่พึ่งสำคัญ ในการจะกลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งของ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. หลังจาก บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์