แฉ “ชูวิทย์” เพื่อ..?

ยืนยัน นายเศรษฐา เป็นทองแท้ไม่กลัวไฟ เป็นผู้ไม่มีมลทินมัวหมอง ไม่ด่างพร้อย..

ตนรู้จักนายชูวิทย์ดี เราสองคนรู้จักกัน พฤติกรรมชูวิทย์ เมื่อก่อนพูดอย่าง ทำอีกอย่าง เชื่อถือไม่ได้ ลับหลังตนเรียก “ชูแว้บ” ตลอด”

เอาล่ะ..เมื่อ “เสด็จพี่” คุณพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตพระเอกละครจักรๆ วงศ์ๆ โผล่หน้าอาสาเป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” กระซวกใส่คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ คนที่มีชีวิตอยู่อีกแค่ 8 เดือนแบบไม่ยั้ง (คิด) แบบนี้

ถ้าเงียบ-ไม่ตอบโต้ก็คงไม่ใช่ “ชูแว้บ” เป็นแน่..เชื่อเถอะ ทั้งสองฝ่ายไส้กี่ขดคงจะได้เห็นในวันนี้-พรุ่งนี้ แต่อยากบอกเสด็จพี่ในฐานะคนรักใคร่ชอบพอกัน..

คนใกล้ตายไม่มีอะไรจะเสีย กระทั่งการถูกฟ้องหมิ่นฯ เรียกเงิน 500 ล้าน ก็ไม่ทุกข์ใจอะไร เพราะกว่าศาลจะตัดสิน ดินก็กลบหน้าไปแล้ว!

ฉะนั้น..คุณพร้อมพงศ์ต้องตั้งหลักให้มั่น อย่าประมาท และอย่าประเมินคุณชูวิทย์ต่ำไป อ้อแล้วอย่าไปเที่ยวการันตีใคร..เป็นผู้ไม่มีมลทินมัวหมอง ไม่ด่างพร้อย..

เพราะ..มลทินมัวหมอง และด่างพร้อยของแต่ละคน มักถูกซ่อน-เก็บไว้ทั้งนั้น..จำไว้!

เอ้า..แล้วนั่นจะเกี่ยวกับประเด็นนี้หรือเปล่าไม่อยากคิด ก็ที่คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์.. “ที่ผมกล่าวว่าคน “บางคน” ตรรกะวิบัติ คือ การที่ “บางคน” พยายามนำเรื่องของคุณชูวิทย์มาแฉ

ที่มันวิบัติ คือ ความชั่ว หรือ ความดี ของคุณชูวิทย์ มันไม่เกี่ยวอะไรกับการที่เขาออกมาพูดเรื่องการเสียภาษีในเรื่องนี้เลย

เรื่องนี้ มันมีหลักอยู่ว่า มีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าถูกต้องแล้ว ก็จบ”

ซึ่งอ่านแล้วเห็นจะเข้าใจเป็นอื่นไปไม่ได้ แต่เมื่อคุณนิพิฏฐ์ไม่ได้เอ่ยชื่อ “บางคน” คือใคร ก็อย่าได้เดาเอาว่าเป็น “เสด็จพี่” ก็แล้วกัน!

ครับ..หลังเลือกตั้ง มัวแต่คุยแต่เรื่อง “นายกทิพย์” กันจนเวียนหัว วันนี้ก็เลยขออนุญาตพูดถึงนายกฯ (จริง) ลุงตู่บ้าง แต่ผมจะไม่คุยเอง อ่านที่คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค โพสต์จะชัดเจนกว่า..

“วันนี้ผมปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ติดตามท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปตรวจเยี่ยมความพร้อม และติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2

คณะของท่านนายกฯ ได้ไปที่อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคาร SAT-1 ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จและได้มีการติดตั้งระบบและสิ่งอํานวยความสะดวกครบถ้วน

ด้วยรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับ ซึ่งสะดวกสบายมาก จะทำให้สามารถขยายการรองรับผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิได้จาก 45 ล้านคนเป็น 60 ล้านคนต่อปี

ปลายเดือนกันยายนจะเปิดให้บริการแบบ soft opening ก่อนเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2567 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาทางวิ่งหรือรันเวย์ที่ 3 และ 4 ซึ่งก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่า 73% คาดว่าจะเสร็จทั้งหมดในเดือนกันยายน 2566 และมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2567

ซึ่งจะทําให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง

นี่แหละครับผลการทำงานหนักเพื่อปูพื้นฐานการพัฒนาประเทศของท่านนายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา.”

ไม่จริงตรงไหน เอาปากกามาวง!.

 

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หลวงพ่อชี้โพรง?

เหลิงใน “ดีล” ที่ได้.. จากคืบเอาศอก จากศอกเอาวา..จึงดูท่าไม่ใช่แค่ “น้ำผึ้งหยดเดียว” เสียแล้ว หากแต่มีเหตุหลายเรื่อง-หลายอย่างประเด-ประดังให้สังคมรู้สึกอัดอัด คับแค้นจนทนไม่ได้

กินแหลกกับโกงแหลก

วันก่อน..ลงไป อ.ทุ่งสง-เมืองคอน! จะว่าหนีไปเที่ยวก็ไม่เชิง จะว่าไปทำงานก็ไม่น่าใช่ และก็ไม่ได้มีเรื่องสลักสำคัญอันใดที่จะต้องนำมาคุยในคอลัมน์ตรงนี้

สมบัติผลัดกันชม

คนหนึ่ง..ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี.. คนหนึ่ง..ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต!

อะไรๆ ก็กู?

เปิดซ่องอย่างเป็นทางการ.. นี่..ไม่ต้องตาโต-ตาลุกเลยสำหรับหนุ่มน้อย-หนุ่มใหญ่ รวมถึงเฒ่าตัณหากลับ เพราะ “ซ่อง” ที่จะ “เปิด” อย่างเป็นทางการนี้ ไม่ได้เป็นสถานที่คลายกำหนัดแห่งใหม่ที่ไหน?

แค่สิทธิ..อยากรู้

มีแต่ประเทศไทยกระมัง? ที่..นายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรีนั่งร่วมวงหม่ำข้าวกับ “นักโทษ” ที่อยู่ระหว่างการพักโทษด้วยเงื่อนไข เป็นผู้สูงอายุ เจ็บป่วยร้ายแรง..

สงสัย..นาฏราช

ร้อนเป็นบ้า.. นี่..ไม่ได้แค่คำบ่น-คำสบถกันเล่นๆ และถ้ามีใครจะ “แก้ผ้า” วิ่งกลางถนนกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรเหมือน “สาวแหม่ม” (เมื่อไม่นานมานี้)..